ดาวโรย

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอพาแฟนคลับย้อนรำลึกเหตุการณ์ สมัยอยุธยา..อุ๊ย..สัปดาห์ก่อน สักนิดหนึ่ง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการเล่นหุ้นในสัปดาห์นี้ เพราะเอาเข้าจริงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากที่เป็นอยู่ ส่งผลให้รูปแบบการเล่นเน้นไปที่ต้นทุนต่ำเป็นหลัก เดี๊ยนถึงขออนุญาตนำข้อเขียนบางส่วนบางตอนมาขยายความให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดๆ กันอีกรอบ ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดยาวนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอพาแฟนคลับย้อนรำลึกเหตุการณ์ สมัยอยุธยา..อุ๊ย..สัปดาห์ก่อน สักนิดหนึ่ง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการเล่นหุ้นในสัปดาห์นี้ เพราะเอาเข้าจริงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากที่เป็นอยู่ ส่งผลให้รูปแบบการเล่นเน้นไปที่ต้นทุนต่ำเป็นหลัก เดี๊ยนถึงขออนุญาตนำข้อเขียนบางส่วนบางตอนมาขยายความให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดๆ กันอีกรอบ ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดยาวนะคะ

*โดยข้อเขียนดังกล่าวของ “โมนิก้า” เริ่มต้นด้วยการเกริ่นนำว่า หากสำรวจดูอาการของตลาดหุ้นไทยไปทีละช็อตจะเห็นว่า การขึ้นลงในแต่ละสัปดาห์ยังไม่มีอะไรเป็นจุดเปลี่ยน เพราะนักลงทุนสถาบันชอบสาดหุ้นตอนขึ้นมาแรงๆ ส่วนบรรดาแมงเม่ายังคงเล่นหุ้นแบบติ๊ดชึ่ง ส่งผลให้ทุกอย่างยังดูวนไปวนมา ไม่มีอะไรต้องคิดนอกกรอบ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริงๆ สำหรับการเล่นหุ้นแบบเคาะสั้นๆ ไงล่ะคะ

*เมื่อสภาพหลายอย่างยังไม่มีอะไรให้อุ่นใจ ดัชนีก็เลยแกว่งไปแกว่งมาตลอดเวลา โดยมีตัวแปรอยู่ที่บริเวณ 1,800 จุด และถ้ามองให้ลึกลงไปอีกจะเห็นภาพการขึ้นของดัชนีอย่างร้อนแรงในช่วงต้น ต่อจากนั้นจะเริ่มอืดๆ เมื่อไต่ขึ้นไปถึงบริเวณ 1,830 จุด ก่อนจะม้วนหัวลงมายืนที่ระดับ 1,760 จุดแบบไม่ทันตั้งตัว หลังจากนั้นจะเป็นจังหวะของการเซ็ตเกมใหม่นะจะบอกให้

*วันนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องถามถึงเหตุผลที่ทำให้ดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,776.26 จุด บวกไป 9.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.93 หมื่นล้านบาท เพราะทั้งหมดมันเป็นผลพวงจากเหตุการณ์ที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังตั้งแต่จั่วหัวเริ่มแรก เมื่อจับทางการลงทุนได้คร่าวๆ แบบนี้ ก็คงเข้าใจสาเหตุที่ทำให้หุ้นบลูชิพบางตัวยังมีอาการอืดเป็นเรือเกลือ หรือบางตัวเริ่มเกิดอาการดาวโรยอย่างต่อเนื่องนะจ๊ะ

*ประเด็นนี้ดูได้จากการเคลื่อนตัวของ BCPG น่าจะถูกกองทุนตัวแสบรินหุ้นออกมาขายเรื่อยๆ ตั้งแต่ราคายืนอยู่ที่ 28 บาท ก่อนจะโดนสาดโครมเดียวลงมากองอยู่ที่ 20.60 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่า 878 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของโพซิชั่นของหุ้นที่ถูกปิดบัญชี จึงกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนถอยร่นมาตั้งรับราคาต่ำกันเป็นแถว หุ้นถึงมีสิทธิ์อ่อนตัวลงอีกไงล่ะคะ

*เหมือนกับในรายของ CPF สามารถสังเกตได้ทันทีว่า กองทุนขายทีไร..หุ้นร่วงแรงทุกที เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นหุ้นลงไปกองอยู่ที่ 24.50 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 25.25 บาท ด้วยมูลค่า 1.22 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการหลุดแนวรับ 25 บาทลงมาแล้วกลับขึ้นมาได้แบบนี้ จึงต้องจับตาดูแนวรับ 24.30 บาทให้ดีเป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดกลับตัวที่สำคัญน่ะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ WHA เผลอแป๊บเดียวหุ้นไหลลงไปถึง 3.64 บาท ต่อจากนั้นมีแรงซื้อดันกลับขึ้นมาปิดที่ 3.74 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 627 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า เมื่อหุ้นลงมาถึงจังหวะที่ไม่มีคนสนใจ มักมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง และนี่คือตัวอย่างของหุ้นที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขาลงเต็มตัว หลังทรุดตัวจนหลุดแนวรับสุดท้ายบริเวณ 3.80 บาท ยิ่งทำให้เชื่อว่า หุ้นตกอยู่ในที่นั่งลำบากนะคะ

*ส่วนในรายของ WICE อุตส่าห์ไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ จนขึ้นไปทำยอดใหม่ที่บริเวณ 8.20 บาท สุดท้ายก็ถูกเทขายแบบไม่มีเยื่อใยไมตรี หุ้นเลยไหลลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาปิดที่ 6.25 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 6.70% ทั้งหมดเป็นผลมาจากหุ้นวิ่งขึ้นมาเยอะเกินไป บวกกับตัวเลขกำไรวิ่งไม่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงโดนเทขายอย่างหนักไงล่ะคะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขออนุญาตพูดถึงหุ้นดาวร่วงอย่างเช่น TTCL เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เพราะแรงเทขายยังมีออกมาอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง แถมเมื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปสอบถามกับกูรูบางท่านว่า เห็นแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง? ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังอะไรอีกแน่ๆ หุ้นถึงถูกเทขายตลอดเวลา จนลงมาปิดที่ 7.75 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 1.90% เดี๊ยนถึงบอกได้ทันทีว่า ผลทุกอย่างจะออกมาแสดงในไตรมาส 1 จ้า!

*ประเด็นข้างต้นสอดรับกับสถานการณ์ของหุ้น FSMART หลังหุ้นถูกรินออกมาเรื่อยๆ จนท้ายสุดผู้บริหารต้องประกาศควักเงิน 300 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนจำนวน 20 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นผลให้หุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 10.80 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 10.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 266 ล้านบาท ก็คงมาจากผลงานไม่เข้าตากรรมการ แรงเทขายถึงยังไม่หมดลงสักที บวกกับสตอรี่ในช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเร้าใจเหมือนก่อนไงล่ะจ๊ะ

*ส่วนที่ลืมไม่ได้อย่าง TVT ถูกปูข่าวด้วยแหล่งชุมนุมนักปั่นน่องเหล็ก ชีวิตก็เลยไม่สวยงามเหมือนเช่นคนอื่นๆ เพราะชาวหุ้นรู้กันเป็นอย่างดีว่า พวกนี้ชอบหักหลังกันเป็นประจำ วันนี้ถึงไม่รู้ว่า ใครเป็นคนกดหุ้นลงมาปิดที่ 1.31 บาท ลบไป 0.56 บาท หรือลงไป 29.95% ด้วยมูลค่า 161 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องอันตรายสำหรับคนที่จะเข้าไปตะลุมบอนในเที่ยวนี้ เพราะเห็นพฤติกรรมลากแล้วทุบคาตาน่ะซี

Back to top button