เผลอเป็นโดน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นในวันสุดท้ายก่อนหยุดสงกรานต์เป็นอะไรที่พื้นๆ มากเหลือเกิน เพราะมีแรงซื้อเข้ามาแบบกะปริบกะปรอย ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมายืนปิดได้แค่ระดับ 1,767.17 จุด บวกไป 3.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.60 หมื่นล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่ฟ้องว่า พวกนี้ชอบเล่นทีเผลอเป็นประจำ จึงเลือกดันหุ้นในวันที่ชาวบ้านชาวช่องไปเที่ยวกันหมดแล้ว ภาพการลงทุนถึงยังไม่มีอะไรชัดเจนไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นในวันสุดท้ายก่อนหยุดสงกรานต์เป็นอะไรที่พื้นๆ มากเหลือเกิน เพราะมีแรงซื้อเข้ามาแบบกะปริบกะปรอย ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมายืนปิดได้แค่ระดับ 1,767.17 จุด บวกไป 3.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.60 หมื่นล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่ฟ้องว่า พวกนี้ชอบเล่นทีเผลอเป็นประจำ จึงเลือกดันหุ้นในวันที่ชาวบ้านชาวช่องไปเที่ยวกันหมดแล้ว ภาพการลงทุนถึงยังไม่มีอะไรชัดเจนไงล่ะคะ
*ถามว่า ดัชนีทะยานขึ้นมาแบบนี้ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? เดี๊ยนขอตอบตามตรงว่า ยังไม่เคยเห็นดัชนียืนระยะได้ยาวนานด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ขนาดก่อนหน้านี้ดัชนีทะยานขึ้นไปกรอบด้านบน 1,850 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น สุดท้ายก็โดนถล่มจนไม่หลงเหลือสภาพแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสำหรับพวกที่ “คิดเร็ว ทำเร็ว” นะจะบอกให้
*เดี๊ยนถึงพยายามย้ำเป็นประจำว่า หากคิดจะลงทุนต้องเกาะติดทุกช็อต และพยายามเน้นการทำรอบมากกว่ากอดหุ้น หลังเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ หุ้นใหญ่ยังวนเวียนบนกรอบเดิม หุ้นขนาดกลางเริ่มออกมาวาดลวดลายมากขึ้น ส่วนหุ้นขนาดเล็กก็พุ่งกระฉูดราวกับวันปล่อยผี ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนพยายามทำความเข้าใจกับแฟนคลับตลอดเวลา เพื่อไม่ให้พลาดช็อตสำคัญไงล่ะคะ
*ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามามะรุมมะตุ้มกันเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” ถึงต้องหันมามองหุ้นบลูชิพเป็นลำดับแรกอีกครั้ง เพราะเป็นตัวหลักที่ขับเคลื่อนให้ทุกอย่างดูดีขึ้นภายในพริบตา แถมเป็นตัวการหลักที่ดันดัชนีจากจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,720 จุดได้อย่างรวดเร็ว โมเมนตัมการลงทุนเลยไหลกลับมาที่หุ้นเหล่านี้เต็มๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่อิฉันอยากเม้าท์ให้แฟนคลับฟังมากเหลือเกินเจ้าค่ะ
*โดยเฉพาะในรายของปูนใหญ่ SCC ทำท่าทางกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง และเตรียมจะวิ่งฝ่าแนวต้าน 500 บาท สุดท้ายก็ทำได้เพียงปิดที่ระดับ 4.88 บาท ลบไป 4 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.64 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องคิดกันต่อไปว่า การวนเวียนไปมาบริเวณนี้เป็นเวลานาน มันมีนัยสำคัญอะไรหรือเปล่า? หรือแม้กระทั่งค่า P/E ที่ระดับ 10.70 เท่า มีส่วนผลักดันราคาหุ้นมากขนาดไหน?..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ 2 แม่ลูกหุ้นพลังงานของประเทศอย่าง PTT กับ PTTEP มันมีความแตกต่างเกิดขึ้นเล็กน้อยเสียแล้ว หลังจากตัวแม่กระชากขึ้นมายืนเหนือแนวต้านได้หมดทุกเส้น แต่รูปแบบการเคลื่อนตัวยังอยู่ใน V-Shape ขณะที่ตัวลูกไม่สามารถพลิกตัวขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 120 บาท แต่วอลุ่มซื้อยังมีเข้ามาอย่างหนาแน่น “โมนิก้า” ถึงมีใจโน้มเอียงไปทางตัวแม่มากกว่าตัวลูก ล่าสุดราคาหุ้นแม่ปิดที่ 550 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 0.73% ส่วนตัวลูกปิดที่ 118 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.72% มันเป็นจังหวะที่จะเล่นแซนด์วิชก็ได้นะคะ
*ส่วนในรายของ CHG เห็นพยายามผงกหัวขึ้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ 1.99 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.51% ด้วยมูลค่า 53.23 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของการถอยฉากเพื่อความปลอดภัย มันเป็นจังหวะที่ต้องชั่งใจมากพอสมควร เพราะสัญญาณเทคนิคบางตัวยังคงอ่อนแอ แถมเจอเส้นแนวต้านขวางทางไว้แบบนี้..หืดขึ้นคอแน่ๆ เจ้าค่ะ
*ผิดกับในรายของ CPN กระชากขึ้นต่อเนื่อง 3-4 วันติด ก่อนจะโดนขายทำกำไร จนหุ้นลงมานอนอยู่ที่ระดับ 80.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.31% ด้วยมูลค่า 474.72 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตวัดใจนักเล่นอย่างแท้จริง เพราะเป็นการยืนปิดต่ำกว่าแนวรับ 80.50 บาท หากวันนี้แรงซื้อไม่มากพอ ก็มีโอกาสทรุดตัวลงมากอง 76 บาทอีกรอบ จังหวะนี้ถึงต้องวางแผนการเล่นให้ดีๆ นะจะบอกให้
*เหมือนกับหุ้นดาวเด่น (บางครั้งก็เป็นดาวดับ) อย่าง EA ยังเป็นตัวเลือกที่ “โมนิก้า” มักจะพูดถึงเป็นประจำ และเหตุผลที่มีการพูดถึงเยอะแยะก็มาจากผลงานที่ค่อนข้างโดดเด่น รวมทั้งที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แนวรับ 30 บาทเอาอยู่! จึงไม่น่าแปลกใจที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 34.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.79% ด้วยมูลค่า 2.28 พันล้านบาท งานนี้ถึงมองได้ 2 ด้านคือ เล่นต่อก็ได้ หรือ ขายก่อนก็ได้เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ JAS ถ้าดูไซเคิลการเคลื่อนตัวของหุ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า หุ้นอยู่ในช่วงขาลงตลอดเวลา แต่การที่หุ้นเริ่มมีแรงฮึดสู้ให้เห็นในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 5.90 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.72% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108.93 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ เพราะมีลุ้นตีกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้น 10 วันบริเวณ 6.10 บาทอีกครั้งน่ะซี
*ส่วนในรายของ TTCL กลายเป็นหุ้นที่ขาซิ่งติดใจกันยกใหญ่ เพราะหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 7.65 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 13.33% ด้วยมูลค่า 229.34 ล้านบาท พร้อมกับปรากฏสัญญาณซื้อกลับตลอดทั้งวัน “โมนิก้า” ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักเสี่ยงโชค เพราะเป็นการขึ้นท่ามกลางข่าวสารด้านลบยังขมุกขมัวพะย่ะค่ะ