CHOW เก่าดี…ใหม่เด่น.!?

แฉทุกวันทันเกมหุ้น

นับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา หุ้นบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ดูมีน้ำมีนวลและกระชุ่มกระชวยด้วย 2 ข่าวใหญ่ เริ่มต้นจาก 10 เม.ย. 2561 บริษัทแจ้งว่าโครงการโรงไฟฟ้าอิวากิ (Iwaki) ที่ลงทุนผ่านบริษัทย่อยได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้บริษัทไฟฟ้าเอกชนในประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้โครงการ Iwaki มีกำลังผลิตติดตั้ง 26.68 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้บริษัทไฟฟ้าเอกชน Tohoku Electric Power Co., Inc. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี ส่งผลให้ CHOW มีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ กำลังผลิตรวม 59.03 เมกะวัตต์

ล่าสุด 17 เม.ย. 2561 บริษัทแจ้งว่าบริษัทลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการค้า (MOU) กับ Tata International Metals (Asia) Ltd. (Tata) โดย Tata ขอซื้อผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billets) เพื่อส่งออกไปตลาดต่างประเทศ 100,000 ตัน ภายใน 12 เดือน (เม.ย. 2561- มี.ค. 2562) โดยมีการยืนยันคำสั่งซื้อแล้ว 20,000 ตัน

นั่นทำให้หุ้น CHOW กลับเข้าสู่เรดาร์การลงทุนอีกครั้ง เริ่มจากธุรกิจหลักดั้งเดิม “เหล็กแท่งทรงยาว” ที่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของราคาขายอย่างชัดเจน นั่นทำให้ CHOW ที่มีโรงงานผลิตเหล็กแท่งยาว กำลังผลิตสูงสุด 730,000 ตันต่อปี ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย

ปี 2560 ที่ผ่านมา CHOW มีรายได้ 4,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,481 ล้านบาท คิดเป็น 54% เทียบกับปี 2559 ที่มีรายได้รวม 2,741 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้การจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น 795 ล้านบาท คิดเป็น 54% จากปริมาณขายเพิ่มขึ้น 40% และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น 10%

ที่สำคัญการได้ออเดอร์ใหญ่จาก Tata ครั้งนี้ จะทำให้ปีนี้ CHOW มีรายได้จากธุรกิจเหล็ก ที่เพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย โดยนักวิเคราะห์หลายสำนัก ประเมินว่ายอดขายเหล็กแท่งทรงยาว น่าจะเติบโตเฉลี่ย 30-50% เลยทีเดียว

ขณะที่ “ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” ขุมทรัพย์หลักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ CHOW หมายมั่นปั้นมือว่า ปีนี้จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ Iwaki ขนาดกำลังผลิต 26.68 เมกะวัตต์ ที่เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว

อย่างไรก็ดีปัญหาหลักของ CHOW อยู่ที่ “หนี้สิน” โดย ณ สิ้นปี 2560 มีหนี้สินรวม 11,039 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้น 1,419 ล้านบาท กล่าวคืออัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ปี 2560 อยู่ที่ระดับ 10 เท่า และเป็นไปได้สูงปีนี้มีโอกาสเห็นระดับ 13 เท่า จึงอาจเป็นอุปสรรคการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้

แต่ว่า CHOW พอมีทางเลือกนั่นคือการนำบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (บริษัทย่อย) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ ที่เชื่อว่าเม็ดเงินที่ได้จากการขายไอพีโอ จะได้มากเพียงพอสำหรับการนำมาชำระหนี้ เพื่อทำให้ D/E ปรับลดลงสู่ระดับปกติได้

ในแง่โครงสร้างธุรกิจ กำลังไปได้สวย เอาเป็นว่าปีนี้ “ธุรกิจเก่า (เหล็ก) ก็ดี… ธุรกิจใหม่ (ไฟฟ้า) ก็เด่น” แต่ปัญหาอยู่ที่โครงสร้างทางการเงินนี่แหละ…ที่น่าเป็นห่วง…ม๊ากก!!??

อิ…อิ…อิ…