ฝรั่งทิ้งหนัก
*ก่อนอื่นเดี๊ยนคงต้องย้ำหัวหมุดให้เพื่อนพ้องน้องพี่เข้าใจถึงการเล่นหุ้นแบบ “คิดเร็ว ทำเร็ว” เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่หมัด เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนทำให้คนที่เกาะกระแสตลาดหุ้นไม่ทันต้อง เสียรู้..เสียเหลี่ยม..เสียเงิน กับการชะล่าใจมานักต่อนัก “โมนิก้า” ถึงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ก่อนอื่นเดี๊ยนคงต้องย้ำหัวหมุดให้เพื่อนพ้องน้องพี่เข้าใจถึงการเล่นหุ้นแบบ “คิดเร็ว ทำเร็ว” เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่หมัด เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนทำให้คนที่เกาะกระแสตลาดหุ้นไม่ทันต้อง เสียรู้..เสียเหลี่ยม..เสียเงิน กับการชะล่าใจมานักต่อนัก “โมนิก้า” ถึงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกไงล่ะคะ
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นไทยทรุดตัวลงมายืนปิดที่ 1,755.53 จุด ลบไป 11.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.47 หมื่นล้านบาท เพราะเมื่อดูตัวแปรเกี่ยวกับข่าวสารที่เกิดขึ้นในหมู่นี้ มันไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกสบายใจสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้า..สงครามสู้รบ..สงครามเศรษฐกิจ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจผู้เล่นกลุ่มต่างๆ จึงต้องเปิดฉากขายหุ้นทิ้งแบบไม่ดูดำดูดีเจ้าค่ะ
*ในเมื่อตลาดหุ้นไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ อาการยืนระยะไม่ไหวถึงเกิดขึ้นถี่ๆ และดูเหมือนเที่ยวนี้จะมีอาการหนักขึ้นกว่ารอบก่อนๆ ถึงทำให้ดัชนีจวนเจียนจะหลุดแนวรับสำคัญตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงเห็นปรากฏการณ์ขนหัวลุกเยอะเหลือเกินในหมู่นี้ เพราะตามสัญญาณเทคนิคที่ขีดๆ เขียนๆ ไว้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ฟ้องว่า เที่ยวนี้หลุดลงไปอีก..เหนื่อยแน่นอนพะย่ะค่ะ
*เนื่องจากรูปภูเขา 3 ลูกลดระดับต่ำลงไปทีละขั้น เหมือนเป็นการบอกให้เหล่านักเล่นได้รู้ว่า แรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวนเวียนมาแล้ว 2 รอบ และกำลังจะเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 3 ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นครบทั้งหมดก็จะเป็นวงรอบใหญ่ของการไซด์เวย์ดาวน์ “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นบลูชิพบางตัวเริ่มโดนถล่มอย่างไม่ปรานีปราศรัย จนคนที่คิดจะเข้าไปช้อนรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว แถมคนที่ทิ้งหนักวานนี้เป็นฝรั่งสาดหุ้นออกมา 3.81 พันล้านบาท โดยกองทุนตัวแสบเข้าไปรับของ 2.24 พันล้านบาท ก็ยังเอาไม่อยู่แบบนี้..จับตาแนวรับ 1,750 จุดให้ดีนะคะ
*เหมือนกับปรากฏการณ์ที่ CPF โดนสาดหุ้นออกมาทุกวัน จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 23.40 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 854 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความผิดปกติที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องอยู่กับเรื่องแบบนี้ให้ได้ เพราะหุ้นยังมีโอกาสไหลลงอีก จึงน่าจะรอดูสถานการณ์ต่างๆ ให้ชัวร์กว่านี้ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน..อิอิอิ
*เช่นเดียวกับในรายของ CPALL มีแรงเทขายออกมาหนักหน่วง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ช่วยกันดันสุดลิ่มแบบไม่สนอะไรทั้งนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเกมหุ้นของพวกนักเล่นกลุ่มสถาบัน (รู้ๆ กันว่า ดันสุด ทุบหนัก) ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนมากไปกว่าที่เป็นอยู่ แต่เผอิญเที่ยวนี้ไม่มีใครอยากเข้าไปรับของ ถึงปล่อยให้หุ้นร่วงลงมาปิดที่ 83.25 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.92 พันล้านบาทไงล่ะคะ
*ประเด็นดังกล่าวต่อเนื่องมาถึงเคสของ AOT ถูกเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนหุ้นลงมาปิดที่ 70 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.69 พันล้านบาท ก็คงเป็นผลต่อเนื่องจากการ take profit ของกองทุนตัวแสบ เพราะก่อนหน้านี้หมาดๆ ก็โดนเทขายตรงบริเวณ 72 บาท แล้วไปเซ็ตเกมกันบริเวณ 67 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับทางการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ให้ดี เพื่อจะได้หาค่าขนมกินเล่นๆ ไงล่ะคะ
*เหมือนกับในรายของ LH หากดูทรงกันยาวๆ หุ้นอยู่ในทิศทางขาขึ้นมาเป็นปี ถ้าดูรอบแบบกลางๆ จะอยู่ในลักษณะแกว่งตัวขึ้น หรือดูแบบสั้นๆ ลงมาเลยจะเห็นภาพ V-Shape “โมนิก้า” ถึงไม่วอรี่กับการทรุดตัวลงมาปิดที่ 11 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 577 ล้านบาท เพราะท้ายสุดก็ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าเดิม เต็มที่ก็แค่เสมอตัว แถมวันนี้เทรดหุ้นบนค่า P/E 12.80 เท่า จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวะที่น่าตามไปดู..อิอิอิ
*ส่วนที่แปลกประหลาดเกินบรรยาย “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น GLAND โดนกดหนักๆ จนหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 2.70 บาท ลบไป 0.28 บาท หรือลงไป 9.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 93 ล้านบาท เพราะในช่วงต้นเดือน มี.ค.ก็เพิ่งดันหุ้นกันแบบสุดซอย พอถึงกลางเดือน เม.ย.ก็มาเจอทุบหุ้นแบบไม่ดูดีกันเลย จึงกลายเป็นช็อตที่ผู้เล่นต้องคิดมากนิดหนึ่ง หลังหุ้นขึ้นลงแบบไม่มีเหตุผลนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ DIGI ทะยานขึ้นมาปิดที่ 0.53 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 29.30% ทั้งที่รูปธรรมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการตัดขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 มากถึง 20% ให้กับพาร์ทเนอร์ใหม่ ก็ไม่ได้การันตีว่า บริษัทจะแก้ปัญหาขาดทุนเรื้อรังได้อยู่หมัด “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตกว่า สงครามวันเดียวอีกแล้วแหงๆ
*ส่วนรายที่ยังเล่นกันไม่เลิกอย่าง HPT ยังคงเป็นช็อตของผู้กล้าท้าความตาย หลังหุ้นเทรดบน P/E 38 ท่ามกลางความหวังกำไรในไตรมาส 1 จะออกมาเลิศสะแมนแตน หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 1.63 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 7.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสถานการณ์ทุกอย่างเป็นใจ โลกนี้ถึงดูเป็นสีชมพูไปหมดนะจะบอกให้