ใกล้เข้ามาอีกนิด…

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันก่อน “โมนิก้า” ทำตัวเป็นนักฟิสิกส์เต็มขั้นไปแล้วหนึ่งวัน พร้อมกับอธิบายปรากฏการณ์เรื่อง แรงกระทำ (Action) กับ การสะท้อนกลับ (Reaction) พอหอมปากหอมคอกันไปแล้ว ก็ถึงเวลากลับสู่สถานการณ์ปัจจุบันเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีดังกล่าวว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน? ซึ่งจะทำให้ตัวนักลงทุนมองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมแบบนี้ เดี๊ยนถึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเจ้าค่ะ

*เนื่องจากดัชนีเด้งขึ้นแรงตั้งแต่เปิดเทรด ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,794.94 จุด บวกไป 23.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.44 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการบวกแรง 2 วันติดด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด โดยครึ่งวันเช้าดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,788.79 จุด บวกไป 17.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.47 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นมีลุ้นเห็นดัชนีวิ่งขึ้นไป 1,800 จุดอีกครั้งพะย่ะค่ะ

*สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นมาจากบรรดากองทุนตัวแสบกลับมาใช้ยุทธการ “ดันหุ้น ออกของ” อีกครั้งหนึ่ง (ซื้อหุ้นไป 4.60 พันล้านบาท) สถานการณ์ที่เคยทำท่าจะไปไม่รอด เลยกลับมาดูดีผิดปกติอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้นบางตัว เพื่อกำหนดจุดเทขายทำกำไรได้แม่นยำขึ้นกว่าเดิม และควรพยายามท่องคาถามหารวยให้ขึ้นใจว่า “กำไรน้อยๆ แต่กำไรนานๆ” นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ PTT ถูกเซ็ตเกมให้ซื้อๆ ขายๆ มาพักใหญ่ๆ ก็เป็นผลมาจากพวกนักเล่นสถาบันไม่ไล่ราคาสุดซอย ทั้งที่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า ราคาก่อนแตกพาร์ 600 บาท และราคาหลังแตกพาร์ 60 บาท แต่ดันถูกถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงเป็นเวลานาน เพิ่งจะมีวานนี้ที่หุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 580 บาท บวกไป 30 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 หมื่นล้านบาทแบบนี้..บอกได้ทันทีว่า ไม่เล่นแล้วจะเสียใจจ้า!

*เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP กระชากขึ้นมาปิดที่ 133 บาท บวกไป 10.50 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.61 พันล้านบาท น่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากวันก่อนขึ้นมายืนเหนือ 120 บาท พ่วงด้วยข่าวดีราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็มีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงเป็นอีกหนึ่งช็อตที่นักเล่นต้องเริ่มวางแผนว่า “ลุย” หรือ “ถอย” เพราะเป้าหมายเบื้องต้นให้ไว้ที่ 140 บาทน่ะซี

*ส่วนรายที่แฮปปี้สุดๆ ในเวลานี้ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น PTTGC หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 102.50 บาท บวกไป 4.75 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.48 พันล้านบาท มันเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะไปต่ออีกไกลพอสมควร เพราะการดันตัวเองขึ้นมายืนเหนือ 100 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง ย่อมส่งสัญญาณให้นักถอดรหัสได้รู้กันว่า ผลงานของบริษัทจะออกมาดีนะจะบอกให้

*เมื่อทุกอย่างนิ่งขึ้นกว่าเดิม EA เลยกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักเล่นกลุ่มสถาบันย้อนกลับมาไล่ราคา วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 37 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.22 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่น่าจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เผอิญมีอุปสรรคบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทาง จึงต้องย่ำฐานเหนือแนวรับ 30 บาทนานหน่อย แต่ในเมื่อขึ้นแล้ว น่าจะขึ้นยาวเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ IVL ทะยานขึ้นต่อเนื่อง 4 วันติด ก่อนจะมาปิดที่ 59.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.75 พันล้านบาท พร้อมกับเตรียมตัวพลิกแนวต้าน 60 บาทให้กลายเป็นแนวรับ “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา เพราะการขึ้นเที่ยวนี้แฝงไว้ด้วยนัยมากมาย จึงกลายเป็นเกมเดิมพันที่นักเล่นต้องไหวตัวให้ทัน หากขึ้นไม่ไหวจะลงมาเซ็ตเกมใหม่อีกครั้งแถว 54 บาทนะจะบอกให้

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีทรงคล้ายกัน และมีวอลุ่มไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมากอย่าง ESSO ยังคงเป็นทีเด็ดสำหรับการโหนกระแสได้เป็นอย่างดี เพราะการขึ้นเที่ยวนี้ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น บวกกับยอดเก่าของหุ้นอยู่แถว 19.50 บาท จึงน่าจะมีลุ้นขึ้นไปทดสอบยอดเก่าอีกรอบ หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่ 18.00 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 811 ล้านบาทแล้วน่ะซีตัวเอง

*ส่วนที่น่ารักน่าลุ้นอย่างหุ้น JAS ยังเป็นอะไรที่น่าลุ้นสำหรับพวกขาลุย เพราะหุ้นอยู่ในทิศทางไซด์เวย์ดาวน์มาตลอด แม้จะมีจังหวะดีดตัวขึ้นได้บ้าง สุดท้ายก็อ่อนตัวลงไปใหม่ทุกที ล่าสุดเห็นหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 6.20 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 482 ล้านบาท แต่ดันมายืนแถวแนวต้าน 6.30 บาทพอดีแบบนี้..ต้องลุ้นให้วิ่งผ่านไปให้ได้ เพื่อจะได้ลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 6.80 บาทไงล่ะคะ

*สำหรับคนที่ชอบ “ช้าแต่ชัวร์” คงต้องมองไปที่หุ้น GULF เพราะหุ้นได้พิสูจน์ให้เห็นกรอบรับด้านล่าง 63 บาททำอย่างยอดเยี่ยม ส่วนแนวต้านด้านบนตรงบริเวณ 68 บาทยังแข็งแกร่งใช้ได้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจกรอบการเล่นให้ถ่องแท้เสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยดูกันว่า หากมีเงินเย็นเยอะ ก็ทยอยเก็บไปได้เรื่อยๆ เพราะแวลูขั้นต่ำอยู่ที่ 80 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 67 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ยังเหลือแก๊ปให้วิ่งอีกเยอะนะคะ