“สมโภชน์-อมร” หมูไม่กลัวน้ำร้อน!
กลายเป็น “หุ้นกระสุนตก” (หนัก) ที่สุดตัวหนึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา นั่นคือหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ใต้ร่มอำนวยการของ 2 หัวแรงใหญ่ คือ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
กลายเป็น “หุ้นกระสุนตก” (หนัก) ที่สุดตัวหนึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา นั่นคือหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ใต้ร่มอำนวยการของ 2 หัวแรงใหญ่ คือ สมโภชน์ อาหุนัย และ อมร ทรัพย์ทวีกุล
ใครจะไปเชื่อว่าหุ้นไฟฟ้าที่มีฐานรากมั่นคง สามารถส่งงานได้ตามแผน ทำได้ตามเป้ามาโดยตลอดจะมาลัดวงจรเอาเสียดื้อๆ ชนิดที่มูลค่าหุ้น หรือที่เรียกกันติดปากว่า “มาร์เก็ตแคป” วูบหายไปราว 1.5 แสนล้านบาท ภายในเวลาเดือนเศษเท่านั้น!
ก็ถือว่าเรียกเสียง (โห่) ฮาได้ตามระเบียบของเรื่องพรรค์นี้…
ซึ่งแน่นอนว่าปรากฏการณ์ “ตามล่าหาแพะ” จึงบังเกิดในบัดดล พร้อมกับมีสารพัดคำถาม (แต่ความหมายเหมือนกัน) เช่น ใครขาย? ใครสาด? ใครทิ้ง? หรือชัดสุดคือ ใครทุบ? ปลิวว่อนอยู่ทั่วทั้งตลาดทุนไทย
แต่ก็ถือว่ายังไม่ต้องเสียเวลาตามหาคำตอบที่ไม่รู้จะเจอกันหรือไม่ให้วุ่นวาย เพราะหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ความจริงอันแสนโหดร้ายสำหรับบางคนก็ปรากฏขึ้น
“บลจ.บัวหลวง” ถูกจับจ้องขึ้นมาโดยฉับพลันในฐานะต้นตอของวิกฤตราคาหุ้น EA
ซึ่งในส่วนของข้อมูล เท่าที่คนธรรมดาพอจะมีโอกาสเข้าถึง ก็แสดงให้เห็นเป็นเลาๆ ได้ว่า กองทุนอย่างน้อย 4 กองภายใต้การบริหารจัดการ ได้ขายหุ้น EA ทิ้งจนเกลี้ยงหมดทุกพอร์ต!
นั่นเท่ากับว่ามีการสาดหุ้นออกมาทั้งหมดราว 140 ล้านหุ้น ระหว่างห้วงเวลาแห่งความทุกข์ระทมของบรรดานักลงทุนรายย่อย ทั้งขาเล็กและขาใหญ่
แน่นอน มีซื้อก็ต้องมีขาย เป็นสัจธรรมของตลาดหุ้น ซึ่ง “พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา” ซีอีโอบลจ.บัวหลวงก็ออกมายืนยันหลังจากนั้นว่า ขายหมดหน้าตักจริง!
แต่ก่อนจะเกิดความระส่ำระสายจนไปกันใหญ่ “พีรพงศ์” ได้กล่าวว่าเป็นการขายปรับพอร์ตตามปกติ หรือหมายถึงขายทำกำไรไปตามเรื่องตามราว ไม่มีประเด็นอื่นเป็นพิเศษ
ฟังดูแล้ว ใครจะนึกฝันอะไรกันอย่างไรก็เชิญตามสบาย แต่คงต้องตั้งข้อสังเกตทิ้งไว้ว่า ขายทิ้งเกลี้ยงทุกพอร์ตเช่นนี้ถือเป็นการปรับพอร์ตทำกำไร หรือแท้จริงแล้วมีอะไรในกอไผ่หรือไม่?
จบ…ครบเรื่องราคาหุ้น อะไรที่เกิดขึ้นถือว่าผ่านไปแล้ว จากนี้ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับความเป็นไปในอนาคตของ EA นั่นคือ อภิมหาโปรเจกต์แสนล้าน!
โดยเป็นที่ค่อนข้างจะชัดเจนว่า โครงการ Energy Storage มูลค่าสูงระยับกว่าแสนล้านบาทที่ว่านี้ยังไม่สามารถครองใจนักลงทุนในตลาดฯได้สักเท่าไหร่นัก
มิหนำซ้ำ “ฟิวเจอร์ สตอรี่” ของ EA เรื่องนี้ยังอาจเป็นปัจจัยสร้างแรงกดดันให้ตัวเองในระยะต่อไปอีกด้วย
แต่อย่าลืมทีเดียวเชียว! นี่ไม่ใช่หนแรกที่ “สมโภชน์-อมร” จะทำในสิ่งที่ถูกมองเป็นเรื่อง “อิมพอสซิเบิล” เพราะก่อนหน้านี้เคยได้พิสูจน์ฝีไม้ลายมือจนเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า อะไรที่เป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้ ด้วยแรงผสานของคนทั้งคู่
คำที่ว่า “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” คงจะเหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับคนคู่นี้ ซึ่งก็เป็นคำพูดฉะฉานที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของผู้บริหารที่กล้าคิดกล้าทำอย่าง “สมโภชน์ อาหุนัย” เองซะด้วย
ซึ่งแผนการรังสรรค์นิคมอุตสาหกรรมระดับโลก (เทคโนโลยีขั้นสูง) บนพื้นที่ EEC ด้วยเงินลงทุนราว 1 แสนล้านบาทของ EA ครั้งนี้จะกลายเป็นจริงได้หรือไม่ ก็คงได้ทราบกันในอีกไม่ช้า
ที่แน่ๆ ตอนนี้ ใครที่พลอยตกใจขายหุ้น EA ทิ้งตามบลจ.บัวหลวงไปก่อนหน้านี้ อาจต้องกลับมาชั่งใจคิดดูอีกครั้งว่า การที่ราคาหุ้นปรับลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญจะถือเป็นโอกาสเก็บหุ้นในต้นทุนต่ำได้หรือไม่
อย่างที่บอก ก็เพราะความเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” ในวันนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การไม่กริ่งเกรงและกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ศึกษามาอย่างดีแล้ว ก็สามารถนำมาซึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ได้น่ะซี
ป.ล. อีกไม่นานต่อจากนี้คงต้องมา “แฉ” กันเพิ่มเติมสักหน่อยว่า แผนลงทุนแสนล้านมีรูปหน้าค่าตาเป็นอย่างไร
อิ อิ อิ