บาทแข็งพาระทม
“เส้นทางรอแชมป์ สิ้นสุดลงที่ฮอลลีวู้ด” ผมยังประทับใจไม่หายกับคำพาดหัวข่าวบนหน้ากีฬาน.ส.พ.บางกอก โพสต์ สำหรับโมรียา จุฑานุกาล ที่ได้แชมป์แอลพีจีเอในรายการ HUGEL-JTBC LA Open เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
“เส้นทางรอแชมป์ สิ้นสุดลงที่ฮอลลีวู้ด” ผมยังประทับใจไม่หายกับคำพาดหัวข่าวบนหน้ากีฬาน.ส.พ.บางกอก โพสต์ สำหรับโมรียา จุฑานุกาล ที่ได้แชมป์แอลพีจีเอในรายการ HUGEL-JTBC LA Open เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทำไมต้องรอแชมป์? เพราะโมรียาเริ่มเทิร์นโปรมาตั้งแต่ค.ศ.2012 ลงเล่น LPGA มา 155 ครั้ง จนถึงครั้งที่ 156 จึงได้แชมป์ที่มีมืออันดับโลกมาเล่นถึง 23 คนใน 25 คน
ขณะที่น้องสาวคือเอรียาได้แชมป์ LPGA ไป 7 รายการ และเคยขึ้นมือ 1 ของโลกมาแล้ว
ส่วนทำไมต้องฮอลลีวู้ด? ก็เพราะสนามแห่งนี้มีภูเขาที่ติดป้ายชื่อ HOLLYWOOD เป็นแบ๊กกราวนด์อยู่หลายหลุมทีเดียว ซับ-เอดิเตอร์ของบางกอกโพสต์คนนี้ น่าจะได้รับรางวัลพาดหัวข่าวดีเด่นด้วยเป็นอันมาก
สรุปก็คือฝีมือ+ความพากเพียร+สติเยือกเย็น ทำให้โมรียาล่าแชมป์แรกเป็นผลสำเร็จแล้ว และก็คงจะมีแชมป์ต่อๆ ไปมาให้พี่น้องชาวไทยได้ดูชมกันต่อไปอีก
ครับ มีข่าวที่น่าจะเป็นข่าวดีอยู่ข่าวหนึ่งเกี่ยวกับภาวะการส่งออกในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า ส่งออกได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 22,236.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.06% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาท กลับมีมูลค่า 697,074.1 ล้านบาท ลดลง 3.99% จากสาเหตุค่าเงินบาทแข็ง
นั่นก็คือ ใน 100 บาทที่ส่งออกไป เงินจะหายไป 4 บาท แต่หากคิดกลับกัน ถ้าเงินบาทอ่อน ส่งไป 100 บาท ก็จะได้กลับคืนมาเป็น 104 บาท แปลงเป็นเงินบาทกลับคืนมาได้พอสมควรทีเดียว
นับเป็นการขยายตัวส่งออกต่อเนื่องเป็นเดือนที่13 แล้วล่ะ และจากนี้ไป การส่งออกก็คงจะมีการขยายตัวต่อไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าทั้งในอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน และเอเชีย
สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากก็คือ ภายใต้ตัวเลขส่งออกที่ขยายตัวนี้ เงินบาทกลับแข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งหากจะมองในมุมมองของแบงก์ชาติ ก็มองได้เหมือนกันว่า “เห็นไหม เงินบาทที่แข็งตัวขึ้นมา ไม่เห็นจะสร้างอุปสรรคการส่งออกที่ว่าๆ กันเลย”
แบงก์ชาติ ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการใดๆ เพิ่มเติมให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอีกแล้ว
แต่ในอีกมุมมองหนึ่งก็มองได้เหมือนกันว่า การส่งออกที่ขยายตัว กลับกลายเป็นการเสียโอกาส จากการที่ค่าเงินบาทแข็ง
เสียโอกาสยังไงล่ะ? ก็เสียจากการที่ส่งออกไป แทนที่จะได้เงินงอกมาเป็นกอบเป็นกำเมื่อแปลงเป็นเงินบาท กลับหดตัวเข้าเนื้อไปอีก
ยกตัวอย่างจากยอดเงินส่งออกเดือนมี.ค.ที่ผ่านมานั่นไง ยอดเงินส่งออก 697,074.1 ล้านบาท เงินหายไปร้อยละ 3.99 คิดเป็นตัวเงินบาทที่หายไปถึง 27,813.25 ล้านบาทแน่ะ
นี่ไม่เรียกว่าเสียโอกาสแล้วจะเรียกว่าอะไรจากการที่ค่าเงินบาทแข็ง
กรณีที่รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งอย่างมีสาระสำคัญเลย ก็อาจจะดูได้จากงบการเงินของบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศถึง 40% ของยอดขายรวม
ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี61 ของ SCG มีกำไรสุทธิ 12,406 ล้านบาท กำไรลดลงมาถึงร้อยละ 29 ซึ่งรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG ก็ยอมรับว่า เงินบาทแข็งค่าเป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กำไรลดลง
การที่บริษัทขนาดใหญ่ระดับชาติอย่าง SCG มีกำไรลดลงอย่างมาก ก็มีผลเสียหายต่อผลกระทบด้านต่างๆเยอะนะ อาทิเช่น ภาษีที่จะส่งเข้ารัฐ รายได้-สวัสดิการพนักงานที่จะเป็นกำลังซื้อ และการลงทุนที่จะมีผลต่อการสร้างงาน-สร้างเงิน
ผลกระทบที่ร้ายที่สุดต่อการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวก็คือ รายได้เกษตรกรซึ่งเป็นรากหญ้าของประเทศจะหายไป
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นทุกวันนี้ ก็เกิดมาจากการที่รัฐบาลลงทุนในโครงสร้างเศรษฐกิจส่วนบน แต่ปล่อยปละละเลยในเรื่องของราคาสินค้าเกษตรไง
แม้ตัวเลข GDP จะออกมาโตดี แต่ความรู้สึกชาวบ้านมันก็ยังรู้สึกฝืดเคือง ก็เพราะรายได้เกษตรกรตกต่ำนี่ไง
บาทแข็งแล้วแข็งอีก แบงก์ชาติบอกไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวหมดอาวุธ มันก็เลยทั้งสูญเสียโอกาสและทำชีวิตเกษตรกรอับเฉาเช่นนี้แหละ