ผิดจังหวะ
* สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยเกือบจะไปได้สวย หลังเห็นการเปิดตัวอย่างสวยหรูบวกต่อกว่า 4 จุด หุ้นเล็กหุ้นใหญ่ประโคมข่าวดีกันจ้าละหวั่นหลอกล่อเม่าเข้ามาติดแหกันเป็นพรวน สาเหตุที่ “โมนิก้า” ใช้คำว่า “เกือบ” ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากได้เห็นแรงขายตอนจบส่งผลให้ดัชนีแผ่วปลายกลับลงมาอยู่ที่ 1,780.11 จุด บวกไป 2.09 จุด หรือ 0.12% ด้วยมูลค่า 4.77 หมื่นล้านบาท
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
* สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยเกือบจะไปได้สวย หลังเห็นการเปิดตัวอย่างสวยหรูบวกต่อกว่า 4 จุด หุ้นเล็กหุ้นใหญ่ประโคมข่าวดีกันจ้าละหวั่นหลอกล่อเม่าเข้ามาติดแหกันเป็นพรวน สาเหตุที่ “โมนิก้า” ใช้คำว่า “เกือบ” ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากได้เห็นแรงขายตอนจบส่งผลให้ดัชนีแผ่วปลายกลับลงมาอยู่ที่ 1,780.11 จุด บวกไป 2.09 จุด หรือ 0.12% ด้วยมูลค่า 4.77 หมื่นล้านบาท
* เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าฟ้องให้นักลงทุนเห็นภาพได้ชัดเจนว่าดัชนียังไปไหนไม่ได้ไกลเมื่อสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นมีวันหยุดพิเศษ ดัชนีมักจะออกอาการ “ผีเข้าผีออก” มีทั้งบวกและลบเป็นการย้ำหัวหมุดว่าพวกนี้ชอบเล่นทีเผลอจึงดันหุ้นในวันที่ชาวบ้านชาวช่องเขาไม่เล่นกันพอเผลอเข้าหน่อยก็ออกลายทันที ภาพการลงทุนถึงได้เป็นอย่างที่เห็น หากใครอยากจะรู้ทันต้องอ่านเกมให้ออกยังไงล่ะเจ้าคะ
* หุ้นเล็กหุ้นใหญ่ประโคมใหญ่โตไล่เรียงมาจากหุ้นเข้า MSCI ด้วยความหวังว่าจะช่วยหนุนให้แรงซื้อต่างชาติหันมาเก็บหุ้นไทย ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่จะจะ ว่าจุดนี้สิ่งน่ากลัวที่สุดคือการขายของฝรั่งตาน้ำข้าวความกังวลจากบอนด์ยีลด์ควบคู่ไปกับการขึ้นดอกเบี้ยเฟด แมงเม่าทั้งหลายคงจะเดาเกมออก “เดี๊ยน” อยากให้ลองตั้งคำถามเล่น ๆ ว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามคำทำนายเม็ดเงินจะไหลออกหรือไหลเข้ากันแน่ การประโคมข่าวดีในวันนี้อาจจะผิดจังหวะไปหน่อยหรือเปล่าเจ้าคะ ?
* เห็นชัดจากพอร์ตซื้อขาย กลุ่มผู้ขายหลักยังเป็นฝรั่งหัวทอง หลายคนอาจมองเป็นเรื่องที่เห็นจนชินตา หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนเต็ม ๆ เพราะหากเม็ดเงินต่างชาติยังไม่มีทีท่าจะกลับเข้ามาง่าย ๆ ล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงความเสี่ยงสำหรับหุ้นไทยในอนาคต “โมนิก้า” ถึงอยากให้จับตากันเอาไว้ให้ดียังไงล่ะคะ
* ในรายของ TPIPL ปล่อยให้ผู้ถือหุ้นเอามือก่ายหน้าผากจากผลประกอบการขาดทุนยับเยิน ฉุดราคาลงไปกองอยู่แถว ๆ 1.67 บาท เกือบ 3 เดือนเต็ม คราวนี้ถึงเวลา “เรียกความเชื่อมั่น” ด้วยการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2.5 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วน 5% ของหุ้นจดทะเบียน ถึงได้เห็นราคาหุ้นกลับมาวิ่งเป็นม้าคึกตั้งแต่ต้นจนมาจบที่ 1.89 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือ 8.62% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 278.20 ล้านบาท
* ส่วน KTC ยังฮอตปรอทแตกวิ่งยาว 5 วันติด ล่าสุดทะยานมาปิดที่ 366 บาท บวกไป 18 บาท หรือขึ้นไป 5.17% ด้วยมูลค่า 1.55 พันล้านบาท เดินหน้าทุบสถิติออลไทม์ไฮต่อเนื่อง งานนี้ไม่ต้องพึ่งข่าวดีถูกนำเข้าบรรจุใน MSCI ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าวิ่งทะลุทุกเป้าหมายไปแล้ว ถือเป็นกระแสจุดติดที่มีต่อเนื่อง บรรดาแฟนคลับขาลุยถึงกระโจนใส่ไม่ยั้ง ราคาหุ้นถึงแรงดีไม่มีตกแบบนี้ยังไงล่ะเจ้าคะ
* ในรายของ SGP ประกาศข่าวดีแตกพาร์เหลือ 0.50 บาท จากเดิม 1 บาท หากเทียบจากราคาปิด 30 บาท เท่ากับว่าราคาหุ้น SGP จะเหลือแค่ 15 บาทเท่านั้น ล่าสุดราคาหุ้นมาอยู่ที่ระดับ 30 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือ 1.64% ด้วยมูลค่า 146.43 ล้านบาท “เดี๊ยน” มองเป็นโอกาสเข้าลงทุนของเหล่าเม่าขาซิ่งที่อยากมีหุ้นในดวงใจเอาไว้ในเมื่อมีหุ้นพื้นฐานดีเทรนด์เทคนิคบรรเจิดสุด ๆ จะรออะไรอยู่ล่ะคะ
* เหลือบมามอง BIG ได้เห็นแรงเทขายออกมาไม่ขาดสาย ล่าสุดย่อตัวลงมาปิดที่ 2.62 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือ 5.07% ด้วยมูลค่า 63.17 ล้านบาท สัญญาณเทคนิคเข้าเขตขายมากเกินไป ยังมีลุ้นจากแท่งเทียนที่มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้าย “โมนิก้า” มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องถือเป็นจังหวะเข้าเก็บของถูกด้วยปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ต่ำเพียง 12.58 เท่า พร้อมปันผลสูงเกือบ 5% ถือว่าล่อตาล่อใจเหลือเกิน จริงอ๊ะป่าวตัวเอง
* ปิดท้ายกันด้วย WIIK โดนทุบร่วงลงมาหนักจนปิดที่ 2.66 บาท ลบไป 0.28 บาท หรือลงไป 9.52% ด้วยมูลค่า 10.20 ล้านบาท ทำนิวโลว์ในรอบกว่า 3 ปี หลังบอร์ดอนุมัติแผนเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น คิดเป็น 40% ของหุ้นจดทะเบียนที่ชำระแล้ว การแพนิกจากราคาหุ้นที่จะไดลูชั่นเอฟเฟกต์เป็นปกติที่มีให้เห็นทั่วไปทุกครั้งที่เพิ่มทุน สิ่งที่ต้องจับตาต่อคงเป็นแผนของการใช้เงินเพิ่มทุนในครั้งนี้ว่าจะ “คุ้มค่า” หรือเปล่านะเจ้าคะ….อิอิ