เดี๋ยวจะเอาไม่อยู่!

*ดูเหมือนในช่วงที่ทุกอย่างยังไม่สุกงอมเต็มที่ และบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องพากันใส่เกียร์ว่าง บวกกับข่าวสารใหม่ ๆ ไม่ค่อยมีอะไรจรรโลงจิตใจเหมือนที่ควรจะเป็น สภาพของการลงทุนถึงดูอึมครึมต่อไปอย่างไม่มีกำหนด “โมนิก้า” ถึงนั่งเทียน..อุ๊ย..นั่งคิด ถึงเหตุการณ์ในอนาคตจะเป็นเช่นไร ? ในเมื่อไม่มีสัญญาณอะไรที่บอกให้รู้เลยว่า ดัชนีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนในช่วงที่ทุกอย่างยังไม่สุกงอมเต็มที่ และบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องพากันใส่เกียร์ว่าง บวกกับข่าวสารใหม่ ๆ ไม่ค่อยมีอะไรจรรโลงจิตใจเหมือนที่ควรจะเป็น สภาพของการลงทุนถึงดูอึมครึมต่อไปอย่างไม่มีกำหนด “โมนิก้า” ถึงนั่งเทียน..อุ๊ย..นั่งคิด ถึงเหตุการณ์ในอนาคตจะเป็นเช่นไร ? ในเมื่อไม่มีสัญญาณอะไรที่บอกให้รู้เลยว่า ดัชนีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งไงล่ะคะ

*เมื่อทุกอย่างออกมาในรูปแทงกั๊กมาระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงลงไปในทันทีว่า หากตลาดหุ้นเป็นแบบนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทำนบจะแตกในไม่ช้าอย่างแน่นอน เพราะนักลงทุนสถาบันยังคงเทขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน รวมทั้งข่าวแว่ว ๆ เกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 1 อาจออกมาไม่ดีเป็นส่วนใหญ่ สภาพของหุ้นหลายตัวถึงดูไม่ดีเอาเสียเลยนะจะบอกให้

*วานนี้ถึงเห็นดัชนีทรุดตัวลงมายืนที่ระดับ 1,771.65 จุด ก่อนจะเด้งกลับในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย จนลงเอยที่ 1,791.13 จุด บวกไป 11.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.64 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำเตือนให้นักเล่นรู้ว่า หลายคนเริ่มถอยห่างจากตลาดหุ้นมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในช่วงหลังเริ่มต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นตัวแปรที่ทำให้การทะยานขึ้นในช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยแข็งแกร่งสักเท่าไหร่! จึงต้องรีบปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นะคะ

*ขนาดพี่เบิ้มของตลาดหุ้นอย่าง PTT มีข่าวดีรองรับเต็มประตูหน้าต่างอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ยังถูกเทขายเหมือนไม่มีอะไรต้องจดจำอีกต่อไปแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการเล่นรอบมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน จึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจเหตุผลที่หุ้นทรุดตัว ก่อนจะตีกลับขึ้นมาปิดที่ 57 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.19 พันล้านบาท ทำให้แผนตั้งรับน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุดเจ้าค่ะ

*ส่วนรายของปูนใหญ่ SCC คงต้องถอยร่นลงไปลึกค่อนข้างเยอะ หลังผลงานไตรมาส 1 ไม่ประทับใจจอร์จเอาเสียเลย บวกกับแรงเทขายยังถล่มออกมาไม่หยุดหย่อน จนหุ้นลงมายืนจุดเด้งกลับบริเวณ 460 บาทเป็นครั้งที่ 3 “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับดูราคาปิดที่ 468 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท ใช่จุดสำหรับการลงทุนรอบใหม่หรือเปล่า ? ลองถามใจเธอดูนะคะ

*เหมือนกับในรายของ WHA แสดงอาการย่ำฐานไปมาที่บริเวณ 4 บาทเป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ ก่อนวานนี้จะลงเอยที่ระดับ 4.02 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 434 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ราคาหุ้นกำลังเลือกทางเดินระหว่าง “ขึ้น” กับ “ลง” จึงต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะการขยับขึ้นยืนปิดบวกได้วันละนิดต่อจากนี้มันหมายถึง แรงเทขายสะเด็ดน้ำแล้วนะจ๊ะ

*อาการดังกล่าวสังเกตได้จาก BANPU กระชากขึ้นมาปิดที่ 20.60 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.34 พันล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากราคาถ่านหินขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง บวกกับราคาหุ้นตอบรับข่าวเชิงลบเยอะพอสมควร จึงเป็นจังหวะของการไล่หุ้นสั้น ๆ เหมือนรอบก่อนหน้านี้ เพียงแต่การเล่นเที่ยวนี้ยังหวังอะไรยาว ๆ ไม่ได้..มีกำไรปุ๊บ ต้องขายปั๊บ พะย่ะค่ะ

*หากมองภาพการเล่นสั้นไม่ออก “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับย้อนกลับไปดูการเคลื่อนตัวของหุ้น JMART ก่อนหน้านี้เฟื่องฟูสุดขีดอย่างไร ? วันนี้ทำไมถึงมีสภาพทรุดโทรมอย่างไม่น่าเชื่อ! มันมีเหตุผลที่ใช้อธิบายเยอะแยะหลายข้อด้วยกัน แต่มีคำอธิบายข้อหนึ่งที่ใช้ได้ดีทุกยุคทุกสมัยก็คือ กำไรลด! บรรดานกรู้ถึงพากันเทขายหุ้นออกมาตลอดเวลา จนหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 11.30 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 8.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท เขาเรียกว่า หมดสภาพ..อ้อ!บรรดาสาวกเงินดิจิทัล JFIN คงซาบซึ้งอุรากันอย่างถ้วนหน้า เพราะจองซื้ออยู่ที่ 6 บาท พอวานนี้เทรดจริงดันเหลือแค่ 3.60 บาทนะคะ

*เหมือนกับในรายของ SYNTEC หุ้นรับเหมาก่อสร้างโค้งตัวลงต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 4 เดือน พร้อมกับมีแรงเทขายไหลออกมาเป็นระลอก จนวานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ 4.20 บาท ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 178 ล้านบาท คือสัญญาณที่บอกให้นักเล่นได้รู้ล่วงหน้าว่า ผลงานในไตรมาส 1 น่าจะออกมาไม่ดี จึงมีแรงเทขายกระหน่ำออกมาไม่หยุดหย่อน จนกลายเป็นหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงไงล่ะคะ

*ส่วนหุ้นลีสซิ่งสองคู่ชู้ชื่นอย่าง SAWAD กับ MTC โดนพิษข่าวเม้าท์เล่นงานจนสะบักสะบอม จนมองไม่เห็นหนทางที่จะทำให้หุ้นฟื้นตัวได้ในเร็ววันนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องจังหวะของเซียนหุ้นถนัดแบบไหน ? หากมองสั้น ๆ อย่าเพิ่งเข้าไปลุย! หากมองยาว ๆ น่าทยอยเก็บ! เดี๊ยนถึงมองข่าวเม้าท์ที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า ตลาดอิงอารมณ์ของหุ้นมากกว่าพื้นฐาน..วานนี้ถึงเห็นรายแรกปิดเสมอตัวที่ 52 บาท ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาท ส่วนรายหลังโดนหนักหน่อย ถึงทรุดลงมาปิดที่ 35 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาทพะย่ะค่ะ

Back to top button