รอช้อนดีกว่า ?

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอย้ำอีกครั้งว่า หากดัชนียังแกว่งตัวไปมาตรงเส้นแนวรับ 75 วันที่บริเวณ 1,780 จุดได้อย่างหวาดเสียว แต่ยังมีแรงซื้อไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล เพราะมันเป็นจังหวะของการประลองกำลังขายกับซื้อ ซึ่งเป็นที่มาของคำแนะนำให้แฟนคลับหลบไปตั้งหลัก! เพื่อดูทิศทางลมให้แน่ใจ ก่อนจะทุ่มทุนซื้อหุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอย้ำอีกครั้งว่า หากดัชนียังแกว่งตัวไปมาตรงเส้นแนวรับ 75 วันที่บริเวณ 1,780 จุดได้อย่างหวาดเสียว แต่ยังมีแรงซื้อไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล เพราะมันเป็นจังหวะของการประลองกำลังขายกับซื้อ ซึ่งเป็นที่มาของคำแนะนำให้แฟนคลับหลบไปตั้งหลัก! เพื่อดูทิศทางลมให้แน่ใจ ก่อนจะทุ่มทุนซื้อหุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวนะจ๊ะ

*งานนี้ไม่ได้ห้ามซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต แต่ต้องการเตือนสติให้ทุกคนรู้ว่า ความเสี่ยงในการลงทุนจังหวะนี้จะสูงมาก เพราะหุ้นบางตัวอยู่ในจังหวะ sell on fact ขณะที่หุ้นบางตัวก็อยู่ในจังหวะ buy on rumor หรือแม้กระทั่งหุ้นขึ้นลงจากแรงเก็งกำไรล้วน ๆ โซดา น้ำเปล่า ไม่ต้อง ก็มีให้เห็นตั้งเยอะแยะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาถึงเหตุผลในการเข้าซื้อหุ้นเที่ยวนี้ให้ดีไงล่ะคะ

*เหมือนกับวินาทีที่มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้น TRUE จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.95 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.82 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี 7 เดือน “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ทุกอย่างเป็นใจอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ผลลัพธ์ที่ออกมาถึงดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างเยอะ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ยิ่งมีการออฟไซด์มากเท่าไหร่ ยิ่งมีการไล่ราคามากขึ้นเท่านั้น..ไม่เชื่อลองถามขาลุยดูก็ได้นะคะ

*ส่วนในรายของ GULF ถูกปูเสื่อด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย แต่ในระหว่างทางที่กำลังไต่ระดับขึ้นไปยอดเดิม กลับมีแรงขายปรากฏให้เห็นเยอะแยะไปหมดนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจสาเหตุที่ทำให้หุ้นทิ้งตัวลงในระหว่างวัน ก่อนจะเด้งขึ้นมาปิดที่ 72.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท มันเป็นจังหวะดักเก็บของที่ชัดเจนสุด ๆ อีกครั้งหนึ่งนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ IVL เพราะรายนี้ก่อร่างสร้างตัวจากเส้นแนวรับ 10 วันมาเป็นเวลานาน และทุกครั้งที่หุ้นอ่อนตัวลงมาแตะเส้นแนวรับดังกล่าวทีไร มักเด้งกลับขึ้นไปได้เป็นประจำ บวกกับเส้นแนวรับดังกล่าวยังตั้งคอชูชัน 45 องศา “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 60.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท ใช่จังหวะของการช้อนหรือเปล่า ?

*ส่วนม้านอกสายตาอย่าง JAS ยังคงเป็นทีเด็ดของนักเก็งกำไรแบบสุดโต่ง เพราะหุ้นไม่มีแพทเทิร์นที่ชัดเจน แถมแรงซื้อที่เข้ามาในแต่ละรอบก็เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่นิยมเล่นแบบสุดซอย เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.25 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 706 ล้านบาท เพราะมันไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปตามหาคำอธิบาย ขึ้นไม่ขึ้น..อยู่ที่เจ้ามือล้วน ๆ น่ะซี

*เหมือนกับในรายของ BANPU หากเฝ้าดูแพทเทิร์นของหุ้นที่ก่อตัวแบบ v-shape ย่อมเป็นคำอธิบายที่สมน้ำสมเนื้อมาก ๆ เพราะในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน ยังไม่มีอะไรแน่นอนอีกหลายเรื่อง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเล่นตามจังหวะนี้ไปก่อน หลังหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 20.10 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 906 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่มองได้ว่า หุ้นจะเด้งกลับแถว ๆ 20 บาท หรืออาจเด้งแถว 19.50 บาทนะเจ้าคะ

*สำหรับในรายของ EPG กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง จนขึ้นมาปิดที่ 7.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท พร้อมกับปรากฏแท่งเทียนยาวโด่เด่ภายในวันเดียวแบบนี้ ตามตำราเขาพูดถึงหุ้นลักษณะนี้ไว้ว่า “ลากไปเชือด” “โมนิก้า” ถึงไม่อยากให้แฟนคลับฝากความหวังไว้ที่หุ้นตัวนี้มากนัก เพราะธรรมชาติของหุ้นมันไม่เคยเป็นแบบนี้ จู่ ๆ เกิดอาการกลัดมันสุด ๆ แสดงว่า ต้องมีอะไรผิดปกตินะจะบอกให้

*ส่วนในรายของ CENTEL อุตส่าห์ฟอร์มตัวมาดี ทุกอย่างเป็นไปตามสเต็ปที่วางไว้ พอสภาวะการลงทุนไม่เป็นใจ หุ้นถึงกับมีอาการคอตก พร้อมกับลงมาปิดที่ 50 บาท ลบไปถึง 2.50 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่า 545 ล้านบาท “โมนิก้า”  ถือเป็นช็อตที่มีลุ้นเด้งกลับขึ้นไปแถว 55 บาท เพราะแพทเทิร์นของหุ้นแกว่งตัวแบบ w-shape มาโดยตลอด แถมหุ้นอ่อนตัวลงมาจากจุดสูงสุดของวันที่ 53.50 บาท..มันเป็นโอกาสมากกว่าอุปสรรคอย่างแน่นอน..เชื่อเดี๊ยนไหม ?

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่มีโอกาสเด้งขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพูดถึงพัฒนาการที่น่าจะดีขึ้นของหุ้น SCI ให้ได้ทราบอีกสักหน่อยว่า แรงซื้อที่เข้ามาดันหุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว น่าจะเป็นเรื่องราวที่บอกให้แฟนคลับรู้ว่า ทุกอย่างกำลังกลับเข้าสู่ลู่ทางที่ควรจะเป็น  จึงเป็นจังหวะของนักโหนกระแสอีกครั้ง หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.32 บาท บวกไป 0.82 บาท หรือขึ้นไป 23.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาท ..ถือเป็นการบังคับให้หุ้นต้องขึ้นต่อ หากไม่ขึ้นถือว่า เกมโอเวอร์! นะเจ้าคะ

Back to top button