เปิดหุ้นฟันกำไร Q1/61 โตกว่า 100%

เส้นทางนักลงทุน

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” มีการรวบรวมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (หลักทรัพย์กลุ่ม SET) ที่สามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2561 เติบโตเกินกว่า 100% หรือ 1 เท่าตัวขึ้นไป เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ

สำหรับตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 1/2561 เติบโตแกร่งเกินว่า 100% จะพบว่า มากสุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ซึ่งมีหุ้น ได้แก่ AMATAV, WHA, S, PF, SC, ORI, TICON, NNCL, GOLD

ถัดมาคือกลุ่มธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ UP, CWT, UTP, PMTA, THE ถัดมาคือกลุ่มธุรกิจการเงิน ได้แก่ BFIT, NSI, TVI, AMANAH, MFC ถัดมาคือกลุ่มธุรกิจทรัพยากร ได้แก่ WP, EGCO, AI, WHAUP ถัดมาคือกลุ่มธุรกิจบริการ ได้แก่ IT, RS, RPH, WPH

ถัดมาคือกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ STA, EE, TVO ถัดมาคือกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ได้แก่ THCOM, DTAC, FORTH และกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ L&E, TNR

ส่วนรายละเอียดตัวเลขกำไรสุทธิสามารถดูจากตารางประกอบ

ขณะที่บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2561 เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่สูงสุด 5 ลำดับแรก ในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET (วัดจากสัดส่วน %) ที่เพิ่มขึ้นมากสุด

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 สามารถทำกำไรสุทธิ 831.82 ล้านบาท หรือ 0.54 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 10,890.63% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.57 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น

การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ โดยหลักเป็นผลมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 9.7 ล้านบาท แต่ยังคงสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 19.8 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลขาดทุนของเงินกู้ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ของบริษัทย่อยจำนวน 48.7 ล้านบาท สืบเนื่องจากค่าเงินรูเปียอินโดนีเซีย (IDR) ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD       ในไตรมาสที่ 1/2561

บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ  AMATAV รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 สามารถทำกำไรสุทธิ 132.87 ล้านบาท หรือ 0.142 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 6,520.18% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.01 ล้านบาท หรือ 0.002 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากบริษัทมีกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น

บริษัท ยูเนี่ยนพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ UP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 สามารถทำกำไรสุทธิ 24.58 ล้านบาท หรือ 0.98 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1,967.28% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.19 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีการบันทึกรับรู้รายได้จากเงินลงทุน จำนวน 34.4 ล้านบาท และกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นจำนวน 3.5 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยสำหรับภาระผูกพันตามโครงการผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งทั้ง 2 รายการเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2561 มีความแตกต่างจากงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  WHA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 สามารถทำกำไรสุทธิ 779.91 ล้านบาท หรือ 0.0544 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 865.51% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 80.78 ล้านบาท หรือ 0.0056 บาทต่อหุ้น

การเพิ่มขึ้นของกำไรเนื่องมาจากบริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 152.5 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของรายได้การขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) พื้นที่เช่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 55,131 ตร.ม เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา

รวมทั้งยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าในธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 162.3 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน มีจำนวนวันในการพร้อมจ่ายไฟฟ้ามากกว่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีการปิดปรับปรุงซ่อมบำรุงตามแผนงาน รวมถึงเริ่มทยอยทำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กเพิ่มขึ้นจำนวน 5 โรงไฟฟ้า ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2/2560 ถึงไตรมาส 1/2561 ทําให้จํานวนเมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 510.5 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกันต้นทุนทางการเงินลดลงร้อยละ 30.8 เนื่องจากการที่บริษัทฯ ได้มีการทยอยชำระคืนหนี้สินตั้งแต่ปลายปี 2559 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตามหุ้นที่สามารถทำกำไรในไตรมาส 1/2561 ได้อย่างกระฉูด ถือว่าหลาย ๆ ตัวเป็นหุ้นพื้นฐาน ประกอบกับหุ้นบางตัวค่อย ๆ ฟื้นตัวโดยเฉพาะก่อนหน้าที่เริ่มมีกำไรที่ดีจนกระทั่งในไตรมาสแรกของปีนี้สร้างผลงานได้ดี

ตัวเลขกำไรสุทธิไตรมาส 1/2561 ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่บอกอนาคตแบบเป็นนัยๆ !