ใครผิด? น้ำมันแพง
น้ำมันแพงคราใด ปตท.ต้องตกเป็น “ผู้ร้าย” โดนรุมสกรัมเละเทะทุกทีไป มีทั้งที่เป็นข้อจริงบ้าง เท็จบ้าง และกึ่งจริงกึ่งเท็จ สารพัดจะประเคนอาวุธกันเข้ามา
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
น้ำมันแพงคราใด ปตท.ต้องตกเป็น “ผู้ร้าย” โดนรุมสกรัมเละเทะทุกทีไป มีทั้งที่เป็นข้อจริงบ้าง เท็จบ้าง และกึ่งจริงกึ่งเท็จ สารพัดจะประเคนอาวุธกันเข้ามา
อาทิเช่นเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปตท.กินเงินเดือน 4.5 ล้านบาทอย่างเนี้ย แท้จริงแล้วก็เป็น 4 ล้านกว่าเหมือนกันครับ แต่เป็นค่าตอบแทนทั้งปี
จากบัญชีโบนัสและเบี้ยประชุมในฐานะบอร์ดบริหารปตท.
เรื่องโจ๊ก ๆ ที่ไม่น่าให้ความน่าเชื่อถืออย่างเช่นประเทศไทยมีน้ำมันสำรองมากกว่าซาอุดีอาระเบีย แต่ถูกปตท.ปกปิดเอาไว้ ก็ยังได้โอกาสโผล่เข้ามาตามไลน์กลุ่มต่าง ๆ
แล้วก็มาลงเอยทุกครั้งไปกับการก่นด่าว่าปตท.ขูดรีดประชาชน มีการปลุกระดมให้ประชาชนไปใช้บริการปั๊มน้ำมันตราอื่น ซึ่งก็เป็นหลักคิดที่อ่อนแอมาก
ปั๊มน้ำมันตราอื่นเช่น เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ กระทั่งบางจาก ซัสโก้ หรือพีที จะไปขายน้ำมันถูกกว่าปตท.ได้อย่างไร
ราคาน้ำมัน แพงตรงไหน? มันต้องมาดูกันที่โครงสร้างราคาครับ ซึ่งแบ่งเป็นองค์ประกอบได้ 3 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน
หนึ่ง.คือราคาเนื้อน้ำมันล้วน ๆ หรือที่เรียกว่าราคาหน้าโรงกลั่น สอง.ภาษีและเงินกองทุนต่าง ๆ ซึ่งแล้วแต่นโยบายรัฐว่าจะเก็บแพงหรือเก็บถูก และค่าการตลาด ซึ่งเป็นรายได้ของผู้ประกอบการ ซึ่งหมายรวมทั้งบริษัทน้ำมันและสถานีบริการ
น้ำมันดีเซล ราคาจำหน่ายปลีก 29.79 บาท แท้จริงแล้วเป็นราคาหน้าโรงกลั่นแค่ 19.29 บาทเอง ที่เหลือก็เป็นภาคภาษีและกองทุนต่าง ๆ รวม 8.48 บาท และค่าการตลาดอีก 2.00 บาท
ภาคภาษีและกองทุน สามารถเจียระไนออกมาได้ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต 5.85 บาท ภาษีท้องถิ่น 0.585 บาท เงินเข้ากองทุนน้ำมัน 1 ส.ต. กองทุนอนุรักษ์พลังงาน 10 ส.ต. VAT ค้าส่ง 1.8089 บาท และภาษี VAT ค้าปลีกอีก 0.14 บาท
สรุป ในราคาจำหน่ายปลีก 29.79 บาทน่ะ เป็นราคาตามเนื้อน้ำมันจริงแค่ 19.2958 บาทเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นภาษีและกองทุนอีก 8 บาทกว่า และค่าการตลาดเอกชนเสีย 2 บาท
สามารถจะคิดย้อนกลับไปได้อีกเหมือนกันว่า ถ้าอยากให้น้ำมันราคาถูกกว่านี้ ก็สามารถจะปรับลดค่าภาษีและการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนลงมา ก็จะทำให้ลดราคาน้ำมันลงมาได้บ้าง
ปัญหาสำคัญอยู่ที่รัฐบาลจะกล้าเฉือนเนื้อตัวเองลงมาหรือเปล่า
ราคาน้ำมันจำหน่ายปลีก 30.25 บาทของแก๊สโซฮอล์ 95 ก็เช่นเดียวกัน ราคาเนื้อน้ำมันจริงแค่ 19.48 บาทเท่านั้น
ส่วนราคาน้ำมันออกเทน 95 ที่ขายกัน 37.52 บาทนี่ก็หนักเลย ราคาหน้าโรงกลั่นแค่ 19.07 บาทเท่านั้น บวก ๆ กันไปหนักมากเกือบเท่าตัว
ที่พูดต่อ ๆ กันไปว่า ราคาน้ำมันส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแค่ 10 กว่าบาทก็ราคานี้ไง เป็นราคาที่ไม่รวมภาษี เงินกองทุน และค่าการตลาดซึ่งก็เป็นความจริงแค่ครึ่งเดียวไง
อย่าเอาแต่ด่าปตท.คนเดียวต้องรับผิดชอบกรณีราคาน้ำมันแพงเลยครับ นโยบายของภาครัฐนั่นละส่วนสำคัญเลย
ถ้าคุณเก็บภาษีแพงและตั้งอัตราเงินเข้ากองทุนสูง ราคาน้ำมันจำหน่ายปลีกให้ประชาชน มันก็ต้องแพง แต่ถ้าคุณลดการจัดเก็บลงมาเช่นสักครึ่งหนึ่ง ราคาน้ำมันจำหน่ายปลีกก็จะถูกลงเป็นอันมาก
ตอนนี้ เงินกองทุนน้ำมันยังมีฐานะสุทธิเป็นบวกอยู่ตั้ง 3 หมื่นล้านบาท ช่วงนี้ยังพอเอามาพยุงราคาได้สบาย ๆ ซึ่งรมว.พลังงานศิริ จิระพงษ์พันธุก็ยังเปรย ๆ ออกมาว่า สามารถพยุงราคาได้ตั้ง 10 เดือนถึงจะหมด
พูดความจริงออกมาให้หมดเถอะครับ ถึงจะรู้ความจริงว่า ใคร ผู้ร้ายตัวจริงหรือตัวปลอม นโยบายพลังงานจากกระทรวงพลังงานนั่นแหละ มีส่วนสำคัญอย่างมาก
รัฐมนตรีพลังงานก็ต้องยืนให้ตรง ไม่ใช่ส่ายไปส่ายมา