สังคมข่าวหุ้น

คาเฟอีน

*นักลงทุนในตลาดหุ้นพากันลมจับ หลังจากในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ดัชนีร่วงลงมาแล้ว 34.80 จุด หลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิค 1,740 จุด ลงมาเรียบร้อย และยังลงไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 1,729 จุด แต่ยังดีที่ดัชนีหยุดอยู่แค่นั้น และกระเตื้องขึ้นมาได้เล็กน้อยปิดที่ 1,732.51 จุด ไม่เช่นนั้นคงได้ล้มหมอนนอนเสื่อกันยาวแน่

*หุ้นน้ำมันในกลุ่มเฮีย ปอ ทั้ง PTT PTTEP และ PTTGC ยังร่วงไม่หยุด หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติปรับพอร์ต ชิงปรับโพสิชั่น หลัง MSCI ลดน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย และจะมีผลในวันที่ 31 พ.ค.นี้ แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ในเมื่อหุ้นอย่าง PTT ทาง MSCI ได้เพิ่มน้ำหนักลงทุน แต่กลับถูกฝรั่งเทขายออกมา หรือว่าเป็นการขายทำกำไรออกไปก่อนหรือเปล่า หลังจากนั้น อาจรอจังหวะกลับเข้ามาอีกครั้ง

*สรุปตัวเลขให้รับทราบกันว่า นับจากต้นปี 2561 ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยไปแล้ว 1.13 แสนล้านบาท และเข้าใจว่าสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย น่าจะปรับลงมาต่ำกว่า 30% แล้วล่ะ ส่วนจะหยุดขายเมื่อไหร่ ยังตอบไม่ได้ และไม่มีใครสามารถตอบได้ รู้แต่เพียงว่า เราต้องช่วยตัวเราเองกันไป ขณะที่แรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุนดูจะแผ่ว ๆ ลงไป ก็ไม่รู้ว่า จะรอจังหวะถล่มซ้ำหรือเปล่า เพราะนับจากต้นปีที่ผ่านมา บรรดากองทุนได้เก็บหุ้นเข้ามาอยู่ในพอร์ตไว้เยอะเหมือนกัน หรือบางทีอาจเป็นการปรับพอร์ตเพื่อเปลี่ยนตัวเล่นก็ได้ จึงขอเตือนว่า หุ้นที่กองทุนถือเยอะ ๆ เช่น ค้าปลีก น้ำมัน และธนาคาร ยังไว้ใจไม่ได้

*BDMS ของคุณหมอ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ราคาพุ่งสวนตลาดมาหลายวัน หลังมีข่าวดีเกี่ยวกับผู้ป่วยเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก จากการขยายตลาด Insurance จากการร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกัน 3 ราย ได้แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต และ บริษัท Allianze อยุธยา โดยใน 1Q61 มีลูกค้าประกันเพิ่มขึ้น 24% และมีสัดส่วนรายได้ 29% หากแต่ทั้งปีคาดจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% และแนวโน้มการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติต่าง ๆ เช่น ในกลุ่มลูกค้าจีน ก็จะมากขึ้น ราคาเป้าหมายอยู่ระหว่าง 28-29 บาท

*ช่วงชิงจังหวะกันน่าดู ระหว่าง PLANB และ VGI หลังจากก่อนหน้านี้ วีจีไอฯ บอกถึงแผนการเตรียมเข้าซื้อหุ้นเคอรี่ และล่าสุด แพลนบี จะเข้าซื้อหุ้น BNK48 เพื่อต่อยอดธุรกิจของตนเอง ขณะที่ในมุมมองของโบรกฯ แนะนำถือ VGI เพราะราคาขึ้นมาเกือบเต็มมูลค่าแล้ว ส่วนแพลนบี มีการแนะนำสลับกันไป และเข้าใจว่าวันนี้น่าจะมีบทวิเคราะห์ออกมา หลังจากวานนี้มีประชุมกันกับนักวิเคราะห์และผู้บริหารของแพลนบี

*วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นว่า  ต้องจับตาอย่ากระพริบเพราะมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นได้อีก และไทยมีความต้องการใช้น้ำมันค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และเมื่อน้ำมันมีราคาสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการบริโภค รวมทั้งต้นทุนธุรกิจ และต้นทุนทางเศรษฐกิจที่จะต้องสูงขึ้นด้วย พร้อมกับแนะนำว่า เราคงต้องมาทบทวนตัวเอง ถึงการใช้ก๊าซ ใช้น้ำมันในปริมาณสูง

*ข่าวดีของ KTB เมื่อ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน สกุลเงินเหรียญสหรัฐของธนาคารกรุงไทย  (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ‘AA+(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ ‘AA+(tha)’ โดยหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี นับจากวันออกตราสาร วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้คือเพื่อการบริหารสภาพคล่องสกุลเงินเหรียญสหรัฐและเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการของธนาคาร