พาราสาวะถี
เป็นประเด็นไม่จบสิ้นกรณีปฏิบัติการของชุดคอมมานโดกองปราบปรามบุกจับ สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ เหตุที่เป็นปัญหาประการแรกคือ เสียงวิจารณ์เรื่องการเข้าจับกุมกระทำเกินกว่าเหตุ ความจริงคงไม่มีอะไร หากไม่มีคำตำหนิออกมาจากปาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมขอโทษคนที่โวยวาย แทนตำรวจด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีข่าวว่าหลังฉากได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมครั้งนี้ไปเฉ่งเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะตามมาด้วยข้อเรียกร้องของ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สมาชิกกปปส.ให้ปลด พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจากกรณีดังกล่าวด้วย
อรชุน
เป็นประเด็นไม่จบสิ้นกรณีปฏิบัติการของชุดคอมมานโดกองปราบปรามบุกจับ สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ เหตุที่เป็นปัญหาประการแรกคือ เสียงวิจารณ์เรื่องการเข้าจับกุมกระทำเกินกว่าเหตุ ความจริงคงไม่มีอะไร หากไม่มีคำตำหนิออกมาจากปาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมขอโทษคนที่โวยวาย แทนตำรวจด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีข่าวว่าหลังฉากได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมครั้งนี้ไปเฉ่งเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะตามมาด้วยข้อเรียกร้องของ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สมาชิกกปปส.ให้ปลด พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจากกรณีดังกล่าวด้วย
ร้อนถึงบิ๊กตู่ต้องออกมาสยบข่าวดังกล่าวด้วยการประกาศว่า “จะปลดหรือไม่เป็นอำนาจของผม และผมทำงานโดยไม่ต้องให้ใครมากดดัน” ความจริงเรื่องนี้คงไม่มีอะไรหากไม่มีการไปขยายผลในแง่มุมดังกล่าว เพราะยิ่งขยาย ยิ่งทำให้บานปลาย เนื่องจากเกิดคำถามมาจากสังคมทั้งเรื่องการที่มีการจับกุมสุวิทย์วันเดียวกับที่มีการจับพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปที่เกี่ยวพันทุจริตเงินทอนวัด
คำถามที่กำลังเซ็งแซ่ก็คือ นี่เป็นเกมลดแรงกระเพื่อมของชาวพุทธที่เลื่อมใสศรัทธาอดีตพระทั้ง 5 รูปหรือไม่ จึงใช้พุทธะอิสระเป็นตัวแลกเปลี่ยน ต้องไม่ลืมว่า จนถึงวันนี้สุวิทย์ก็ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เปล่งวาจาสึกพ้นจากสมณเพศ นั่นหมายความว่า ถ้าได้รับการประกันตัวก็จะสามารถกลับไปห่มผ้าเหลืองได้อีก นี่เป็นสิ่งที่ต้องไปว่ากันหลังจากนี้ ซึ่งคนอย่างพุทธะอิสระก็หน้าทนและไม่สนเสียงวิจารณ์ใด ๆ อยู่แล้ว
เสียงวิจารณ์ต่อเกมการสยบแรงเสียดทานที่จะถาโถมเข้าใส่รัฐบาลนั่นก็เรื่องหนึ่ง ประเด็นที่น่าสนใจตามมาคือ สารพัดข้อเรียกร้องที่พุ่งตรงไปยังบิ๊กตู่นั่นเป็นเพราะพุทธะอิสระก็คือแกนนำของกปปส.คนหนึ่ง ซึ่งในความหมายของพวกม็อบนกหวีดก็คือ พวกเดียวกันกับเผด็จการคสช.นั่นเอง แล้วเหตุใดจึงต้องมาดำเนินการกับแกนนำอันเป็นที่รักของพวกตัวเองด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น การปรากฏภาพถ่ายใกล้ชิดของ 3 ศรีพี่น้องบูรพาพยัคฆ์เคียงข้างกับพุทธะอิสระ โดยบิ๊กตู่กับ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา มีแผ่นทองเจิมที่หน้าผากด้วยนั้น เป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย เพื่อตอกย้ำความเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด มันจึงทำให้เกิดโยงใยประเด็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงเกิดภาพด้านลบมากกว่ามุมบวกที่จะย้อนกลับไปยังรัฐบาลคสช.
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามพร้อมได้รับคำตอบที่ออกมาจากปากของ 3 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์เหมือนเป็นไปตามสคริปต์เดียวกันเป๊ะนั่นก็คือ งานดังกล่าวพุทธะอิสระเชิญอดีตผู้บัญชาการทหารบกไปร่วมเพื่อความขลัง ทั้งสามคนจึงไปร่วมโดยที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับพระที่เชิญแต่อย่างใด โดยที่ท่านผู้นำถึงกับเอ่ยปากว่าอย่านำภาพในอดีตมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
พูดง่าย ๆ คือ อย่าไปตีความจากภาพที่เห็นว่าเป็นลูกศิษย์ของอดีตพระที่กำลังตกเป็นผู้ต้องหา ทำให้กองเชียร์พุทธะอิสระยิ่งไม่พอใจหัวหน้าคสช.และคณะหนักข้อเข้าไปอีก เพราะนี่เท่ากับเป็นการตัดหางปล่อยวัด คนที่ออกมาโบกมือดักกวักมือเรียกให้เกิดรัฐประหารของเผด็จการคสช. ทำให้ทั้งหมดได้มานั่งชูคออยู่ในอำนาจจนถึงทุกวันนี้
แต่หากนี่คือเกม ทุกอย่างที่เห็นจึงไม่ใช่บทสรุปว่าจะต้องเป็นอย่างที่คนส่วนใหญ่คาดกันไว้ อาจมีอะไรพลิกผันได้ตลอดเวลา เพราะถ้าเปรียบเป็นหมากรุกการใช้เบี้ยแลกขุนถือว่าคุ้มแสนคุ้มอย่าบอกใคร ขอแต่เพียงอย่าเป็นมวยล้มต้มคนดูก็เท่านั้น อาการติ๊ดชึ่งของเผด็จการคสช.ต่อกรณีนี้จึงต้องจับตากันอย่ากะพริบ ยังจะมีอะไรดี ๆ ให้ได้เห็นกันอีกแน่นอน
ไม่ธรรมดากับการประชุมพรรคอนาคตใหม่ที่มีมติเลือก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่งหัวหน้าพรรค ทันทีทันใดว่าที่หัวหน้าพรรคก็แสดงวิสัยทัศน์จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้ท่านผู้นำและมือกฎหมายประจำรัฐบาลเผด็จการต้องออกมาปราบทันควันเหมือนกัน นั่นก็คือ การประกาศฉีกรัฐธรรมนูญปี 2560 และนิรโทษกรรมให้กับคนที่ถูกดำเนินคดีในช่วงรัฐบาลคสช.
โดยท่านผู้นำถึงกับบอกว่าจะทำอะไรขอให้ใช้สติปัญญา ใคร่ครวญให้ดี และจะต้องพิจารณาการกระทำครั้งนี้ด้วยว่าผิดกฎหมายใดหรือไม่ เช่นเดียวกับ วิษณุ เครืองาม ที่บอกว่าคำพูดที่ว่า “ฉีกทิ้ง” ขีดเส้นใต้ไว้หน่อย เพราะรุนแรง และจะทำให้เป็นปัญหาได้ ในยามนี้อย่าไปพูดอะไรให้มันเป็นปัญหา พยายามพูดให้อยู่ในร่องในรอยดีที่สุด ใครพูดอะไรทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง
แหม! คนระดับเนติบริกรออกโรงเตือนเองถือว่าไม่ธรรมดา แต่ถ้ามองว่าวาทกรรมของธนาธรคือแผนการตลาดก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ในแง่ของการกระตุ้นความสนใจ ส่วนสินค้าที่จะขายนั้นต้องไปดูในรายละเอียดของข้อกฎหมายว่า จะเป็นไปตามที่คุยโวได้หรือไม่ ยิ่งเป็นสินค้าที่ชื่อรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยแล้ว ไม่เชื่อว่าคนอย่างว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะไม่รู้ว่ามันแก้ไขได้ยากง่ายเพียงใด
มิเช่นนั้น ชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรธ.ผู้ที่ยกร่างกฎหมายสูงสุดฉบับนี้มากับมือคงไม่ออกมาพาดพิงคนที่ประกาศจะฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญของตัวเองด้วยท่วงทำนองที่ดุเดือด โดยมองว่านี่เป็นโยนหินถามทาง เป็นการแสดงตามบทบาททางการเมือง เหมือนเต้นแร้งเต้นกา อยากเป็นอิสระอยู่ในท้องทุ่ง ซึ่งการอยู่ร่วมกันก็ต้องอยู่กันด้วยกติกาตามกฎหมาย
พร้อมกับการประกาศท้าต่อว่า หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่รัฐบาลนี้ ก็มีขั้นตอนตามมาตรา 256 อยู่คือไปล่ารายชื่อประชาชนมา 50,000 คนเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทันที ฟังดูดีและเหมือนทำง่าย แต่เปล่าเลย หากไปพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ แล้วไม่มีทางที่จะทำสำเร็จ ถ้ามองว่าธนาธรเต้นแร้งเต้นกา อาการของกรธ.รายนี้ก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน เพราะเหมือนกับว่าตัวเองถูกตบหน้าจากการวางกับดักสารพัดไว้ในรัฐธรรมนูญ พอคนมาจี้ใจดำก็เลยปรี๊ดแตก นี่แหละธาตุแท้ของเผด็จการยุคนี้และลิ่วล้อ