AH ผลกำไรยอดเยี่ยม

จากนี้ไปปัจจัยบวกคงมีอย่างต่อเนื่อง สำหรับd AH เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ยังมีโอกาสฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินยอดขายผลิตรถยนต์ในปี 2561 เท่ากับ 2.1 ล้านคัน เติบโต 5.5% แรงหนุนตลาดในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง และตลาดส่งออกจะฟื้นตัวดีขึ้น


คุณค่าบริษัท

จากนี้ไปปัจจัยบวกคงมีอย่างต่อเนื่อง สำหรับ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ยังมีโอกาสฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินยอดขายผลิตรถยนต์ในปี 2561 เท่ากับ 2.1 ล้านคัน เติบโต 5.5% แรงหนุนตลาดในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง และตลาดส่งออกจะฟื้นตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ยอดขายของ AH จะเติบโตในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม โดยผลประกอบการในไตรมาส 2-4 ทางผู้บริหารประเมินว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปี 2560 กำไรสามารถทำสถิติสูงสุดได้ใหม่ถึง 1,15761 ล้านบาท และคาดปี 2561 จะดีกว่าปีก่อน

เนื่องจากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 บริษัทสามารถมีรายได้รวม 4,496.37 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,946.12 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 397.06 ล้านบาท หรือ 1.25 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 224.03 ล้านบาท หรือ 0.71 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้บริษัทมีปัจจัยบวกใหม่หลังเข้าลงทุนในพันธมิตร Sakthi Global Auto Holdings Limited หรือ (SGAH) ผู้ผลิตชิ้นส่วนใน อินเดีย-โปรตุเกส-สหรัฐฯ-จีน ช่วยสร้าง Global Footprints มีศักยภาพในอนาคตที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศ อินเดีย สหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงกำลังมองหาโอกาสการลงทุนแห่งใหม่คือประเทศเวียดนาม

ผลประโยชน์ที่ AH จะได้รับจากการเข้าลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน SGAH ดอกเบี้ยรับจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เป็นเวลา 3 ปี และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 25.1% ซึ่งปีนี้จะรับรู้เต็มปี หลังจากปีก่อนรับรู้ในช่วงปลายไตรมาสสอง ช่วยเสริมยอดขายที่จะโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์ และอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น

อีกทั้ง AH ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากรถกระบะโมเดลใหม่ต่อเนื่องจากโมเดลปัจจุบัน โดยสัดส่วนรายได้ของรถกระบะรายนี้คิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายชิ้นส่วนรวม ช่วยเสริมความมั่นคงของรายได้อีก 8-10 ปีข้างหน้า

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 1,255 ล้านบาท โต 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ถ้าไม่รวมรายการพิเศษปีก่อนจะโตสูงถึง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 43 บาทต่อหุ้น บนฐาน P/E เท่ากับ 11 เท่า

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 48,810,897 หุ้น 15.13%
  2. MRS.TEO LEE NGO 31,691,346 หุ้น 9.82%
  3. MR.YEAP SWEE CHUAN 31,585,900 หุ้น 9.79%
  4. MISSYEAP XIN RHU 25,200,000 หุ้น 7.81%
  5. MISSYEAP XIN YI 18,967,323 หุ้น 5.88%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายซู ชวน เย็บ ประธานคณะกรรมการบริษัท
  2. นายซู ชวน เย็บ ประธานกรรมการบริหาร
  3. นางลี งอ เตียว กรรมการ
  4. นางวชิรา ณ ระนอง กรรมการ
  5. นายพิพัฒน์ เรืองรองปัญญา กรรมการอิสระ

Back to top button