ความจริง..ที่ไม่มีอยู่จริง
*หากติดตามข่าวฉาวของตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์จะเห็นว่า ประเด็นหลักอยู่ที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ก่อนเรื่องอื่น ต่อจากนั้นจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับพวกขาใหญ่ และเป็นช็อตที่โยงไปถึงโบรกเกอร์ตัวแสบอีกด้วย “โมนิก้า” ถึงเห็นปรากฏการณ์สาดขี้เกิดขึ้นอุตลุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องดังกล่าวอยู่ตรงไหน? มันเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนอนาถใจเหลือเกินเจ้าคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากติดตามข่าวฉาวของตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์จะเห็นว่า ประเด็นหลักอยู่ที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ก่อนเรื่องอื่น ต่อจากนั้นจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับพวกขาใหญ่ และเป็นช็อตที่โยงไปถึงโบรกเกอร์ตัวแสบอีกด้วย “โมนิก้า” ถึงเห็นปรากฏการณ์สาดขี้เกิดขึ้นอุตลุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนไม่มีใครรู้ความจริงเรื่องดังกล่าวอยู่ตรงไหน? มันเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนอนาถใจเหลือเกินเจ้าคะ
*เนื่องจากตอนที่ช่วยกันดันหุ้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า don’t worry! พอผ่านมาสักระยะหนึ่งดันเกิดรายการแตกแถว และเริ่มพูดจากันไม่รู้เรื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ คนหนึ่งพูดไปทางนั้น..อีกคนพูดไปทางนี้ ความบรรลัยเลยเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับเกิดรายการล่าความจริง! “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า เสียเวลาเปล่า! เพราะโลกของการลงทุนในวันนี้..ชอบพูดความจริงครึ่งเดียวนะจะบอกให้
*เมื่อทุกอย่างไม่มีอะไรแน่ชัด และไม่มีอะไรชัดเจน ภาพของการลงทุนถึงไม่มีอะไรน่าปลื้มใจสักอย่าง ดัชนีถึงแกว่งตัวผันผวนตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,721.29 จุด บวกไป 1.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.34 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า สถานการณ์โดยรวมไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่? พร้อมกับเปิดช่องให้นักเก็งกำไรเข้ามาทุบ ๆ ดัน ๆ ตลอดเวลาไงล่ะจ๊ะ
*เหมือนกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน SUPER ทุกคนลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ป.พาเพลิน เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด บวกกับถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่? กระแสสังคมถึงออกในแนวก่นด่ามากกว่าชื่นชม พร้อมกับมีคำอธิบายเกี่ยวกับท่าทีดุดันในการฟ้องร้องมาร์เก็ตติ้งโบรกเกอร์แห่งหนึ่งนั้น “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่เป็นการแก้เกมเพื่อทำให้อารมณ์เกรี้ยวกราดของนักลงทุนลดลงเท่านั้นจ้า
*เมื่อเรื่องเดินมาถึงตรงนี้ “โมนิก้า” ก็อยากรู้เหมือนกันว่า เรื่องนี้จะจบตรงไหน? เพราะสิ่งที่ทุกคนอยากรู้คือ หุ้นที่ถูกทิ้งลงมาก่อนหน้านี้เกิดจากใคร? แถมก่อนจะมีการตั้งโต๊ะเปิดใจกับกระจอกข่าวมีการพูดถึงชอร์ตเซล พอผ่านมาระยะหนึ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องฟอร์ซเซล หลังจากนั้นก็พูดถึงประเด็นขาใหญ่เป็นตัวการสำคัญ เดี๊ยนถึงมองว่า ตอบไม่เคลียร์! ก็ไม่ควรให้ราคากับหุ้นตัวนี้อีกต่อไป และการเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.09 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.19 พันล้านบาท มันผิดธรรมชาติมากเกินไปค่ะ
*เหมือนกับในรายของ BEAUTY ถูกเทขายอย่างไม่ดูดำดูดี พร้อมกับมีข่าวเม้าท์เซ็งแซ่ไปทุกห้องค้า จบเกม! เพราะออเดอร์สินค้าที่เมกสุดฤทธิ์ก่อนหน้านี้ ไม่ขลังเหมือนในช่วงแรก ๆ สภาพของหุ้นถึงทรุดโทรมอย่างหนักแบบนี้ “โมนิก้า” คงต้องเปิดพื้นที่ให้หมอจอมซ่าชี้แจงด้วยตนเองอีกครั้ง เพราะการลงมายืนปิดที่ 15.70 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไป 9.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.77 พันล้านบาท มันหมายความว่า ไม่มีคนเอาจริง ๆ ..ทุกอย่างเลยดูบูด ๆ เบี้ยว ๆ ไปหมดไงล่ะคะ
*อีกหนึ่งรายที่น่าหนักใจเหลือเกิน แต่ทุกคนพอจะทำใจได้อย่างหุ้น BEC ยังคงเป็นเรื่องอลวังอลเวงที่ไม่รู้จะมีความชัดเจนขึ้นเมื่อไหร่? เพราะดูเหมือนผู้บริหารจะพยายามบิ้วท์อารมณ์ให้ทุกคนเชื่อมั่นในฝีไม้ลายมือ แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรดีขึ้นเป็นรูปธรรม หุ้นถึงทิ้งดิ่งลงมาแบบไม่มีดิสเบรกอีกรอบ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 8.70 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 5.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165 ล้านบาท น้องโมบอกได้แค่ว่า อย่าเสียเวลากับหุ้นตัวนี้เลยค่ะ
*ขนาดพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยกันขายหนัง JKN ก็โดนถล่มแบบไม่ปรานีปราศรัย หลังมีข่าวเล็ดลอดออกมาในทำนองว่า ยอดขายไม่เวิร์ก..เริ่มถึงจุดอิ่มตัว เพียงเท่านี้ก็ทำให้นักเล่นเกิดอาการขวัญเสียกันอย่างถ้วนหน้า “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องเริ่มใช้วิจารณญาณส่วนตัวกันมากหน่อย เพราะการลงมายืนอยู่ที่ระดับ 9 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 6.25% แถมเป็นการปรับตัวลงหลายวันติดต่อกันแบบนี้..เดี๋ยวก็มี new low อีก..เชื่อเถอะ!
*ส่วนรายที่ “ไปไม่กลับ..หลับไม่ตื่น..ฟื้นไม่มี” อย่างเช่น GL พังยับเยินจนไร้หนทางเยียวยาก็เป็นผลมาจากพูดความจริงไม่หมด เมื่อถูกขุดคุ้ยข้อมูลออกมาเรื่อย ๆ สังคมเลยได้รับรู้ทุกอย่างแบบหมดไส้หมดพุง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นทรุดลงหนักมาปิดที่ 5.80 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 7.95% เพราะทันทีที่ศาลอุทธรณ์ประเทศสิงคโปร์สั่งคุ้มครองชั่วคราว “เจทรัส” พร้อมกับออกคำสั่งห้าม GLH ซึ่งเป็นบริษัทลูกของจีแอลทำธุรกรรมทั้งหมด..เท่ากับเป็นการตัดช่องทางทำมาหากินบริษัทไปเลยนะคะ
*ป.ล. วันนี้ “โมนิก้า” ไม่โทษหน่วยงานไหนทั้งสิ้นที่ปล่อยให้เกิดเรื่องอุบาทว์เกิดขึ้นเยอะแยะ เพราะสิ่งที่ทุกคนโดนกับตัวเองกันอย่างถ้วนหน้าก็คือ พูดความจริงไม่หมด..ก็เลยไม่รู้ความจริง มันอยู่ที่ไหน? จึงอย่าไปคาดหวังอะไรมากมายกับหุ้นกเฬวรากเลยเจ้าคะ