หมู่บ้านกระสุนตก

*ต้องยอมรับว่า ตอนนี้กระแสของสังคมพุ่งเป้าไปยังเรื่องฉาว ๆ คาว ๆ มากกว่าเรื่องแฮปปี้ ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นขาดภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อเกิดเรื่องที่กระทบจิตใจขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว จึงพากันเทขายหุ้นทิ้งแบบไม่ดูดำดูดี เพราะเริ่มหูตาสว่างมากขึ้นกว่าแต่ก่อน “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตประสบการณ์ที่ทำให้รู้ว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้ต้องเล่นกันเร็วเป็นพิเศษนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ต้องยอมรับว่า ตอนนี้กระแสของสังคมพุ่งเป้าไปยังเรื่องฉาว ๆ คาว ๆ มากกว่าเรื่องแฮปปี้ ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นขาดภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อเกิดเรื่องที่กระทบจิตใจขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว จึงพากันเทขายหุ้นทิ้งแบบไม่ดูดำดูดี เพราะเริ่มหูตาสว่างมากขึ้นกว่าแต่ก่อน “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตประสบการณ์ที่ทำให้รู้ว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้ต้องเล่นกันเร็วเป็นพิเศษนะจะบอกให้

*เนื่องจากข่าวสารที่ปรากฏในแต่ละช่วงเวลามีการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำ ดัชนีถึงแกว่งตัวผันผวนทั้งในแดนบวกและแดนลบ ซึ่งเหมือนกับอาการวานนี้ที่สะท้อนให้เห็นว่า ช่วงเช้าดัชนีรูดลงไปถึง 10 จุด พอบ่ายแก่ ๆ เริ่มไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายขึ้นมายืนอยู่ที่ 1,732.71 จุด บวกไป 11.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.99 หมื่นล้านบาท มันเป็นเกมที่พลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลยนะเนี่ย

*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องแยกแยะประเด็นที่เกิดขึ้นให้เข้าใจเสียก่อน เพราะแต่ละสตอรี่มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง “โมนิก้า” ถึงชอบแส่หาเรื่องไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ไฟนอลสุด ๆ หลังข้อมูลข่าวสารที่แพร่กระจายเต็มห้องค้า มักมีการใส่สีตีไข่กันอย่างสนุกสนาน ขณะที่ผู้บริหารออกมาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ พร้อมกับมีการเล่นละครตบตาชาวหุ้นแบบหน้าบาง ๆ (ประชด) จึงไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์สักทีไงล่ะคะ

*กรณีดังกล่าวคล้ายกับการสาดหุ้น BEAUTY จนลงไปกองอยู่ที่ระดับ 13.70 บาท ต่อจากนั้นดันหุ้นขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 16.10 บาท ก่อนจะลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 15.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของความคลุมเครือของเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงทำให้หุ้นสวิงสวายตลอดเวลา บวกกับวันนี้เทรดหุ้นบนค่า P/E 35 เท่าเสียด้วย..เลยกลายเป็นเรื่องที่น่าเสียวไส้สุด ๆ นะจะบอก

*เหมือนกับในรายของ SUPER เด้งขึ้นมาปิดที่ 1.11 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.43 พันล้านบาท ทั้งที่เรื่องราวยังคาราคาซังอยู่แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นความสุ่มเสี่ยงที่นักลงทุนต้องอ่านเกมให้ออก ยิ่งเดินเกมแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการยื่นหนังสือต่อเสือกระดาษ ก.ล.ต. ยิ่งทำให้เห็นการประวิงเวลาเพื่อทำอะไรบางอย่าง เดี๊ยนบอกตรง ๆ มันเป็นภาพที่ไม่สวยงามเอาเสียเลยในหมู่นักเล่นหุ้น เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ไผเป็นไผ!

*เช่นเดียวกับ MBKET ภายใต้การกุมบังเหียนของเสือรุ่นลายคราม “มนตรี” ก็เป็นอีกรายที่โดนมรสุมข่าวร้ายโจมตีไม่หยุดหย่อน ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องฟ้องร้องกับคู่ปรับ บล.หยวนต้า ต่อมาเป็นเรื่องเตรียมเอาผิดมาร์เก็ตติ้งผู้ปล่อยข่าว ล่าสุดเป็นคิวเชือดเฮียอ้วนผู้มีเสียงหัวเราะอันทรงพลังนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาคิดกันนิดหนึ่งว่า เรื่องทั้งหมดใช่อย่างที่พูดกันปากต่อปากหรือเปล่า? หรือแม้กระทั่งการร่วงหล่นลงมาปิดที่ 14.30 บาท ลบไป 3.40 บาท หรือลงไป 19.20% ด้วยมูลค่า 1.94 พันล้านบาท ใช่เหตุไหม?..ลองคิดกันหน่อยพวก dr.doom..อิอิอิ

*ส่วนรายที่มีเหตุให้ต้องทิ้งหุ้นไม่หยุดหย่อนอย่าง FSMART น่าจะมาจากมูลเหตุพวก VI ตีตัวออกห่างมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับช่วงหลังมีแต่ข่าวลบเกี่ยวกับการทำธุรกิจในอนาคต “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.45 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 79 ล้านบาท เพราะมันไม่มีแรงจูงใจให้เข้าลงทุนอีกต่อไปนั่นเองเจ้าคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AU มีข่าวหนาหูมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทำนองว่า ร้านขนมคนน้อยลง การขยายสาขาไม่เวิร์ก แผนการเติบโตเริ่มสะดุด หุ้นถึงโรยตัวลงมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับมีคำแนะนำให้มองงบไตรมาส 2 จะเบ่งกำไรได้ขนาดไหน? “โมนิก้า” ถือเป็นความเสี่ยงที่ทุกคนเริ่มหนีจากหุ้นตัวนี้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ 10.90 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.80% ทั้งที่เดือน ก.พ. ยังยืนอยู่ที่ 15 บาทอยู่เลยนะจ๊ะ

*กรณีนี้คล้ายคลึงกับเรื่องที่เกิดกับ TRUE ไหลรูดลงมากองอยู่ที่ 6.60 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.33 พันล้านบาท ทั้งที่ต้นเดือน พ.ค. ขึ้นไปยืนถึงระดับ 8 บาท มันเป็นเรื่องที่ทำให้รู้ว่า เมื่อหุ้นจบรอบเล่นอย่างเป็นทางการ แนวรับไหนก็เอาไม่อยู่ทั้งนั้น เพราะเหล่านักเล่นต้องการโยกเงินไปลงทุนหุ้นตัวอื่น สภาพของหุ้นถึงดูไม่จืดไงล่ะคะ

*ตบท้ายกันที่ดูไม่ได้เลยอย่างเช่น VNG ถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้รู้ว่า เมื่อผลงานไม่เข้าเป้าตามที่วางแผนไว้ ราคาหุ้นก็หมดสภาพอย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ เห็นกันในเวลานี้ ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดให้พวกแมงเม่าปีกอ่อนได้รู้ว่า เมื่อถึงเวลาต้องตัดทิ้งขึ้นมาจริง ๆ ก็ไม่มีเวลามาอิดออดอะไรทั้งสิ้น เพราะเมื่อปีก่อนหุ้นยืนอยู่ที่ 16 บาท มาวันนี้ยืนอยู่ที่ 8.15 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไปอีก 3% วอลุ่มบางสุด ๆ แสดงว่าไม่มีคนคิดจะเล่นใช่ไหม?

Back to top button