หุ้นเข้า SET50

คาดว่าในช่วงวันที่ 12-15 มิถุนายนนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 หุ้นที่ได้เข้าและออกรอบล่าสุดนี้ จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่  2 กรกฎาคม 2561–31 ธันวาคม 2561


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

คาดว่าในช่วงวันที่ 12-15 มิถุนายนนี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100

หุ้นที่ได้เข้าและออกรอบล่าสุดนี้ จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่  2 กรกฎาคม 2561–31 ธันวาคม 2561

ก่อนหน้านี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลายแห่งต่างคาดการณ์ด้วยการนำเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ใช้ในการคัดเลือกหุ้นเข้าและออกใน SET50 และ SET100 มาคำนวณ และพบว่าส่วนใหญ่หุ้นจะออกมาตรงกัน

เช่น ของ บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดหุ้นเข้า SET50 ในรอบนี้ไว้จำนวน 7 บริษัท

ประกอบด้วยหุ้น GLOW, DELTA, KTC, TOA, RATCH, BGRIM และ GULF

สำหรับ GULF มีการระบุไว้ในวงเล็บว่า “มีโอกาส 90%”

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะหุ้น GULF เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 หรือขาดไปเพียง 5 วัน ของวันที่นำมาใช้เป็นข้อมูลเพื่อคัดเลือกหุ้น

แต่หากดูข้อมูลเรื่องมาร์เก็ตแคป มูลค่าการซื้อขาย และเกณฑ์อื่น ๆ ต่างเข้าองค์ประกอบทั้งหมด

ทำให้บางโบรกฯ ระบุว่า อาจอยู่ที่ “ดุลยพินิจ” ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ส่วนหุ้นที่ออกจาก SET50 นั้น คือ GLOBAL, WHA, TPIPP, CBG, BCP, PSH และ KCE

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คาดการณ์หุ้นเข้า SET50 เกือบจะเหมือนกับของ บล.โนมูระฯ

นั่นคือ DELTA, KTC, TOA, RATCH, BGRIM และ ESSO

ส่วนหุ้นคาดการณ์แตกต่างออกไปจาก บล.โนมูระฯ คือ ESSO และ GULF

และหุ้นที่ถูกดึงออกไปคือ  BCP, CBG, KCE, PSH, TPIPP และ WHA ซึ่งทั้ง 6 หุ้นนี้ คาดการณ์เหมือนกับ บล.โนมูระฯ และที่ต่างออกไปคือ GLOBAL

มาดูของ บล.ทรีนีตี้ กันบ้าง

หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้ มีหุ้น KTC, TOA, RATCH, BGRIM และ ESSO

หุ้นทั้ง 5 บริษัท ที่ว่านี้จะมองตรงกันกับของ บล.ดีบีเอสฯ แต่หากไปเทียบกับของ บล.โนมูระฯ ด้วย  หรือเป็นหุ้นที่คาดตรงกันจำนวน 3 โบรกฯ จะมีอยู่ 4 หุ้น คือ KTC, TOA, RATCH และ BGRIM

ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะถูกตัดออกจาก SET50 ได้แก่ WHA, TPIPP, BCP, PSH และ KCE

ปกติแล้วหุ้นที่ถูกเลือกเข้า SET50 จะมีราคาปรับขึ้นได้ดีกว่าตลาดฯ หรือ Outperform ในช่วงหลังประกาศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปจนมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ก.ค.

แต่หุ้นที่ถูกเลือกเข้า SET100 จะมีผลน้อยกว่าครับ

สาเหตุก็เพราะกองทุน Index fund ส่วนใหญ่จะลงทุนในหุ้น SET50 เป็นหลัก

ทว่า หุ้นใน SET50 ที่ถูกคาดหมายว่าจะเข้าในรอบครึ่งปีหลัง และคาดออกมาตรงกัน 4 หุ้น คือ KTC ราคาหุ้นปรับจากสิ้นปี 2560 มาจนถึงปัจจุบัน บวกขึ้นมาแล้ว 86.55%

ล่าสุดราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 347 บาทต่อหุ้น

ส่วนค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายของ KTC อยู่ที่ 327 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคา ณ ปัจจุบัน

โบรกฯ ส่วนใหญ่จึงแนะนำ “ถือ”

หุ้น BGRIM ราคาปิดล่าสุด คือ 24.00 บาท

และจากการดูราคาเป้าหมายของโบรกฯ 11 แห่งพบว่า ราคาเป้าหมายสูงสุด  36.50 บาท และต่ำสุด 24.50 บาท

และราคาเป้าหมายเฉลี่ย หรือ IAA Consensus อยู่ที่ 30.92 บาท

ราคาหุ้น BGRIM จึงยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าเหมายเฉลี่ยพอสมควร และนักวิเคราะห์ต่างยังคงแนะนำ “ซื้อ”

แต่ BGRIM มีปัจจัยลบเข้ามาจากเรื่องการต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ในการสร้างโรงไฟฟ้า ทำให้ราคาหุ้นปรับลง และยังคงต้องติดตามว่าจะไปก่อสร้างยังสถานที่แห่งใด

มาดูหุ้น RATCH กัน

ล่าสุดราคาปิด 52.00 บาท

ราคาเป้าหมายจาก 4 โบรกฯ ที่ Cover หุ้น RATCH ให้ราคาสูงสุด 64.00 บาท และต่ำสุด 60.00 บาท

และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ย 61.25 บาท ทุกโบรกฯ จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”

สุดท้ายคือ หุ้น TOA ราคาปิดล่าสุด 41.75 บาท

ราคาเป้าหมายจาก 3 โบรกฯ ให้ราคาสูงสุด 36.25 บาท และต่ำสุด 32.00 บาท หรือมีค่าเฉลี่ย 24.75 บาท

ราคาปิดล่าสุดของ TOA จึงสูงกว่าราคา IAA Consensus  แล้ว ทำให้คำแนะนำมีทั้ง “ถือ” และ “ขาย”

Back to top button