กลเกมกลโกงหุ้น “วินด์ เอนเนอร์ยี่ (ภาค 3)” “ยุทธการทวงหนี้ค่าหุ้น”

จากกรณีที่ KPNEH และ Fullerton (ของกลุ่มณรงค์เดช) ไม่ได้ดำเนินการชำระค่าหุ้นงวดแรกให้ครบตามสัญญาที่ทำร่วมกันไว้จำนวน 175 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ได้ชำระเพียง 90 ล้านเหรียญสหรัฐ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “ยุทธการทวงหนี้ค่าหุ้น” โดยบริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จำกัด (SPL), บริษัท เน็กซ์ โกลบอล อินเวสต์เมนท์ จำกัด (NGI) และบริษัท ไดนามิค ลิงค์ เวนเจอร์ส จำกัด) DLV (ของนพพร ศุภพิพัฒน์) ตัดสินใจดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย ต่ออนุญาโตตุลาการของสภาหอการค้านานาชาติ (ICC) เพื่อให้มีการพิจารณาเรื่องนี้


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

จากกรณีที่ KPNEH และ Fullerton (ของกลุ่มณรงค์เดช) ไม่ได้ดำเนินการชำระค่าหุ้นงวดแรกให้ครบตามสัญญาที่ทำร่วมกันไว้จำนวน 175 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ได้ชำระเพียง 90 ล้านเหรียญสหรัฐ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “ยุทธการทวงหนี้ค่าหุ้น” โดยบริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จำกัด (SPL), บริษัท เน็กซ์ โกลบอล อินเวสต์เมนท์ จำกัด (NGI) และบริษัท ไดนามิค ลิงค์ เวนเจอร์ส จำกัด) DLV (ของนพพร ศุภพิพัฒน์) ตัดสินใจดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย ต่ออนุญาโตตุลาการของสภาหอการค้านานาชาติ (ICC) เพื่อให้มีการพิจารณาเรื่องนี้

ทว่า..อนุญาโตตุลาการของสภาหอการค้านานาชาติ (ICC) มีคำสั่งในเดือนกันยายน 2560 ให้ผู้ซื้อ (กลุ่มณรงค์เดช) ดำเนินการชำระค่าหุ้นให้ครบ ในฐานะลูกหนี้ พร้อมห้ามจำหน่ายจ่ายโอนหุ้น WEH ทั้งหมด แต่ไม่ได้สั่งให้ยกเลิกการซื้อขาย นั่นหมายถึง “แม้ผู้ซื้อไม่อยากจ่ายเงิน ก็ไม่จำเป็นต้องนำหุ้นมาคืนแม้แต่หุ้นเดียว”

ล่าสุด 23 มกราคม 2561 กลุ่ม SPL NGI และ DLV (ของนพพร ศุภพิพัฒน์) ร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มณรงค์เดชกับพวกรวม 12 ราย ต่อศาลอาญาแขวงพระนครใต้ ในข้อหา “ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้” โดยศาลประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.157/2561

ในคำฟ้องดังกล่าว ระบุว่า ช่วงระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา “กลุ่มณรงค์เดช” ได้ตกลงซื้อหุ้น KPNET จำนวน 98.94% จาก SPL NGI และ DLV (ของนพพร) จากนั้น SPL มีการโอนหุ้น KPNET ให้กับ Fullerton ไปแล้ว แต่พอถึงกำหนดชำระเงินตามสัญญาปรากฏว่า Fullerton กับ (ชักดาบ) ไม่ยอมจ่ายเงินงวดแรกซะอย่างงั้น..!??

ทำให้ SPL NGI และ DLV ร้องต่ออนุญาโตตุลาการของสภาหอการค้านานาชาติ (ICC) ให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ และอนุญาโตตุลาการฯ มีคำสั่งชี้ขาดในเดือนกันยายน 2560 ให้ผู้ซื้อกลุ่มณรงค์เดช ดำเนินการชำระค่าหุ้นให้ครบ แต่กลับไม่มีการชำระเงินแต่อย่างใด

นั่นจึงเป็นเหตุทำให้ SPL NGI และ DLV ได้รับความเสียหาย แยกกันเป็นรายตัวคือ 1) SPL ได้รับความเสียหาย 16,056.88 ล้านบาท 2) NGI ได้รับความเสียหาย 198.48 ล้านบาท 3) DLV ได้รับความเสียหาย 6,942.38 ล้านบาท รวมค่าเสียหาย 29,731.66 ล้านบาท..

คดีนี้..ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 27 มิถุนายน 2561 (เลื่อนไต่สวนจากกำหนดเดิม 8 พฤษภาคม 2561)

ก่อนหน้านั้น 3 พฤศจิกายน 2559 บริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จำกัด (SPL) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “กลุ่มณรงค์เดช” กับพวกรวม 12 ราย (ทั้ง Fullerton, KPN, KPNET รวมถึง WEH อีกด้วย) ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในข้อหา “ละเมิด ผิดสัญญา ฝ่าฝืนคำสั่งอนุญาโตตุลาการ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 50,000 ล้านบาท (พร้อมดอกเบี้ย)” ศาลแพ่งฯ มีคำสั่งรับคำฟ้องเป็นคดีดำหมายเลข พ.2287/2559

คดีนี้บริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จำกัด (SPL) กล่าวอ้างว่า ผู้ถูกฟ้องทั้ง 12 ราย ร่วมกันโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของ WEH ไปยังบัญชีธนาคารของ KPN จำนวน 300 ล้านบาท โดยมิชอบ..

จึงถือว่าขัดต่อคำสั่งของอนุญาโตตุลาการฯ และคำสั่งของ The Eastern Caribbean Supreme Court ที่ห้ามมิให้ Fullerton และ KPN โอนหุ้นใน KPNET หรือกระทำอย่างอันใดที่มีผลเป็นอย่างเดียวกันกับการโอนหุ้น (การโอนเงินจาก WEH ออกไป 300 ล้านบาท จึงส่งผลต่อ KPNET นั่นเอง)

ไม่เพียงแค่นั้น..มีการอ้างว่า มีการร่วมกันเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่ม กรรมการ จำนวนกรรมการ การแต่งตั้งกรรมการใหม่ และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ KPNET

ถือว่าเป็นการร่วมกันกระทำผิด และหรือให้การสนับสนุนการขัดคำสั่งอนุญาโตตุลาการฯ และคำสั่งของ The Eastern Caribbean Supreme Court  คดีนี้ศาลมีคำสั่งนัดสืบพยานโจทก์ วันที่ 21-22 มิถุนายน 2561 และนัดสืบพยานจำเลย วันที่ 26-28 มิถุนายน 2561

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มของ “ยุทธการทวงหนี้ค่าหุ้น” เท่านั้น สุดท้าย “กลุ่มณรงค์เดช ผิดหรือถูก” หรือว่า “นพพร ผิดหรือถูก” หรือจะมีคดีใหม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่..มิอาจนั่งทางใน หรือหยั่งรู้คำสั่งศาลล่วงหน้าได้..!?

จากความไม่แน่นอนทั้งเรื่องการฟ้องร้องของผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่เชื่อมโยงอีรุงตุงนัง เป็นใยแมงมุมและคดีความที่ไม่รู้ว่าจะออกทางไหน..!??

แต่ไฉนเลย “ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB สวมหัวใจเสือ แบบใจถึงพึ่งได้..หาญกล้าปล่อยเงินกู้ให้ WEH กว่า 37,000 ล้านบาท อันเป็นการ “แหกจารีต” เดิม ที่จะไม่ปล่อยกู้ให้บริษัทหรือโครงการใดที่กำลังมีปัญหาแบบนี้อย่างแน่นอน..

ปล.หรือว่า WEH จะมีข้อยกเว้นหรือเงื่อนไขพิเศษอะไรหรือเปล่า..!!? โปรดติดตามตอนต่อไป..!???

…อิ อิ อิ…

Back to top button