สังคมข่าวหุ้น

*ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาได้เพียง 3 วันจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุน แต่ล่าสุด เมื่อวานนี้กลับออกมาขายหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย IVL และในกลุ่ม SET100 อีกหลายตัว ทำให้ปิดตลาด ดัชนีเกือบจะหลุด 1,600 จุด ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยหัวคะมำกันถ้วนหน้า


คาเฟอีน

*ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาได้เพียง 3 วันจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุน แต่ล่าสุด เมื่อวานนี้กลับออกมาขายหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย IVL และในกลุ่ม SET100 อีกหลายตัว ทำให้ปิดตลาด ดัชนีเกือบจะหลุด 1,600 จุด ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยหัวคะมำกันถ้วนหน้า

*นับจากต้นปี รายย่อยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 1.12 แสนล้านบาท ทำให้เห็นว่ารายย่อยมีความเชื่อมั่นของระบบเศรษฐกิจไทย และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันก็ซื้อสุทธิเช่นกัน แต่ที่ทำตลาดร่วงหนักมาตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ถึงปัจจุบัน มาจากการขายของนักลงทุนต่างชาติ เป็นหลักกว่า 1.80 แสนล้านบาท และยังไม่มีใครตอบได้ว่าต่างชาติจะหยุดขายเมื่อไหร่ และเงินบนหน้าตักของรายย่อยกับกองทุน รองรับอีกได้แค่ไหน ดัชนีที่ว่ากันว่าอาจจะร่วงไปแตะ 1,500 จุด อาจจะได้เห็นกัน

*หุ้น BEAUTY ราคาร่วงเกือบติดฟอลร์อีก 1 วัน หลังผู้บริหารไม่ได้แสดงอะไรเพื่อให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นได้เลย ขณะที่บรรดาโบรกฯ เอง ต่างปรับลดราคาเป้าหมายลงมาเหลือต่ำกว่า 10 บาท แต่ราคาหุ้นเมื่อวานนี้ปิดที่ 7.20 บาท ยังถือว่า สูงกว่าไอพีโอค่อนข้างมาก เพราะราคาตอนไอพีโอ 8.00 บาท พาร์อยู่ที่ 1 บาท ส่วนตอนนี้พาร์เป็น 0.10 บาท จะเห็นว่า ใครถือหุ้นตั้งแต่ราคาไอพีโอ หรือก่อนไอพีโอ ก็ยังมีกำไรเกือบ 10 เท่า นี่ยังไม่รวมกับตอนที่มีการดันราคาขึ้นไป 20 กว่าบาท (พาร์ 0.10 บาท) ลองหยิบเครื่องคิดเลขมาคำนวณดู ขายหุ้นตอนนี้ราคานั้น กำไรจะได้เท่าไหร่ พุงกางกันเลย รายย่อยเจ็บตามเคย

*หุ้นเมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC ของเฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วง 1 วัน ขึ้น 1 วัน  ดูแล้วชวนเวียนหัวจริง ๆ แต่ล่าสุด มีการประชุมระหว่างผู้บริหารกับโบรกฯ แล้วมีการดีดลูกคิดออกมา คาดกำไรไตรมาส 2 ยังทำนิวไฮ รายไตรมาสเติบโตมากกว่า 50% หรือกว่า 890 ล้านบาท สินเชื่อยังเติบโตดีกว่า 40% ล่าสุด บินไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น  มีบรรดากองทุนขนาดยักษ์หลายแห่งปูเสื่อรอนั่งฟังกันคึกคัก

*มาที่หุ้นโรงกลั่นกันบ้าง เช่น TOP ราคาลงหนักมาก หลังจากเคยขึ้นไปเหนือ 100 บาทก่อนหน้านี้ ล่าสุด ลงมาเหลือ 70.25 บาท และก็มีแนวโน้มว่าจะลงไปได้อีก จนอาจไปอยู่ประมาณ 65 บาท บวกลบเล็กน้อย เพราะมีการคำนวณว่า หากเอา GRM ราคาน่าจะอยู่ 65+/- นะ แต่จากสต๊อกน้ำมันสูง ราคาก็น่าจะ 70+/- ได้เล็กน้อย ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ต่างพอจะรับทราบกันแล้วว่า ไม่น่าจะออกมาดีมาก แต่ก็อาจมีคำถามว่า แล้วจะฟื้นเมื่อไหร่ คำตอบคือ ไปรอปลายไตรมาส 3 โน่นเลยล่ะ

*JAS ของ เสี่ยพิชญ์ โพธารามิก วันนี้จ่ายเงินปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น หากใครเข้าไปเล่นแบบเก็งรับเงินปันผล แล้วออกไม่ทัน หรือคำนวณกันไม่ดี ก็มีสิทธิขาดทุนได้ เพราะราคาล่าสุดปิด 4.46 บาท ต่างจากราคาก่อนขึ้น XD ที่อยู่ประมาณ 5.90–6.05 บาท ค่อนข้างมาก คงได้แค่นั่งเซ็งเป็ดกันไป และผ่านมาถึงวันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่า ราคาหุ้นจะบิดกลับไปเหนือ 5 บาทได้อีกหรือไม่ เพราะยังไม่เห็นเงาของข่าวเชิงบวกที่จะเข้ามาหนุนราคาหุ้นเลย

*หุ้นอีกตัว ที่นักลงทุนรายย่อยเจ็บกันถ้วนหน้า ก็คือ SUPER หลังถูกมนต์กฤษณะกาลีเล่นงาน ราคาวิ่งขึ้นลง เป็นรถไฟเหาะตีลังกา ส่วนปัญหาที่ยังคาใจนักลงทุนคือ ตอนที่ราคาถูกลากขึ้นไปแตะ 1.50 บาทนั้น ใครเป็นคนลาก และทุบลงมา ซึ่งหากอยากรู้คำตอบก็ต้องไปดูว่า ก่อนหน้านี้ใครเข้ามา “ซื้อ DW ที่อ้างอิงหุ้น SUPER” เพื่อให้โบรกฯ ที่ออก DW ดังกล่าว ต้องเข้าไปเก็บหุ้น SUPER (เพื่อปิดความเสี่ยง) ซึ่งเขาเรียกว่า เป็นการยืมมือคนอื่น เข้ามาดันราคาหุ้น  หุ หุ………

Back to top button