พาราสาวะถี

ภารกิจนำ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ของศูนย์อำนวยการร่วมฯ ที่มีการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายของไทยกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ วานนี้คนไทยต่างส่งใจไปช่วยขอให้นำ 5 ชีวิตที่ยังอยู่ภายในเนินนมสาวออกจากถ้ำด้วยความปลอดภัยและให้ถือเป็นการปิดปฏิบัติการอันยากลำบากนี้ด้วยความสวยงาม


อรชุน

ภารกิจนำ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ของศูนย์อำนวยการร่วมฯ ที่มีการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายของไทยกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ วานนี้คนไทยต่างส่งใจไปช่วยขอให้นำ 5 ชีวิตที่ยังอยู่ภายในเนินนมสาวออกจากถ้ำด้วยความปลอดภัยและให้ถือเป็นการปิดปฏิบัติการอันยากลำบากนี้ด้วยความสวยงาม

ไม่ใช่เฉพาะทางการไทยเท่านั้นที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นกรณีศึกษา นานาประเทศเองก็มองเห็นความสำคัญในการกู้ภัยเหตุสุดวิสัยในลักษณะนี้ ที่น่ายินดีคือมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศมาร่วมมือกันแสดงออกถึงความมีน้ำใจ ความใส่ใจในความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมโลก แน่นอนว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกู้ชีพกู้ภัยของไทย อาจต้องส่งคนไปศึกษาวิชาที่ไม่มีตำราเรื่องแบบนี้จากผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วย 13 ชีวิตจากถ้ำหลวงจังหวัดเชียงรายแล้ว ยังมีเรื่องที่รัฐบาลคสช.จะต้องโฟกัสและให้ความสำคัญเป็นลำดับต่อไปนั่นก็คือ กรณีเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันจันทร์ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปตรวจเยี่ยมพร้อมร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องก็ได้แสดงอาการฉุนเฉียวกับเจ้าหน้าที่ต่อมาตรการและระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งก็ไม่รู้ว่า การระเบิดอารมณ์ดังกล่าวจะเกิดประโยชน์อย่างไร

สิ่งที่ท่านผู้นำกล่าวไปนั้นอธิบายในตัวของมันเอง “หรือมีแค่นี้ก็พอใจแล้ว ควรจะมีระบบอื่นอะไรอีกไหม เคยไปดูงานต่างประเทศหรือเปล่า แล้วใครไปดูงานต่างประเทศ ก็ลูกพี่คุณไงเล่า หากไม่มีอะไรมาเปลี่ยนให้คุณ ก็ต้องไปด่าลูกพี่คุณ เข้าใจหรือเปล่า คุณต้องรู้ว่าเรือมันอยู่ตรงไหน ถ้าไม่มีก็ขอมา มีแต่ขอบ้าบอคอแตก อย่าเถียง ถ้าผมพูดไม่ถูกก็ว่ามา แต่ถ้าผมพูดถูก อย่าเถียง”

คำถามก็คือ ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชารู้แต่ “ลูกพี่” ในความหมายของท่านผู้นำมองไม่เห็นตามนั้นหรือไม่ให้ความสำคัญ ถามว่าแล้วแต่ละเรื่องมันจะเดินไปอย่างไร เรื่องนี้แทนที่จะไปลงที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องไปสะสางกันทั้งระบบว่าปัญหามันเกิดขึ้นจากจุดไหน ใครคือพวกที่ประมาท เลินเล่อ หรือมองไม่เห็นว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่ควรจะมีนั้นมันไม่จำเป็น อย่าเล่นบทโชว์ความดุดัน ได้ความสะใจแล้วปรากฏเป็นข่าว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็หายไปกับสายลม

เหมือนอย่างที่ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่นปะไรที่กล่าวถึงเหตุการณ์เรือล่มในทำนอง “ความสูญเสียของนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวจีนไม่ฟังคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงเข้ามาท่องเที่ยวกับทัวร์ผิดกฎหมาย” ตรงนี้ก็น่าจะเกิดจากความหวังดีของลูกน้อง รายงานให้ลูกพี่จนนำไปพูดแล้วเกิดปัญหา

แม้รัฐบาลจีนจะไม่ได้ติดใจต่อเรื่องนี้ แต่โซเชียลมีเดียของคนจีนด่าเสนาบดีของรัฐบาลเผด็จการซะเสียหาย จนพี่ใหญ่ต้องรีบออกมาขอโทษแบบวางฟอร์ม “ถ้าผมพูดอะไรไม่พอใจก็ขอโทษ ซึ่งผมได้รับรายงานมาอย่างนั้นจริง ๆ ขออย่านำมาปนกัน” เข้าใจได้ว่าสิ่งที่รัฐบาลนี้มองเห็นและเดินหน้าปราบปรามคือทัวร์ศูนย์เหรียญ และนั่นถูกคาดหมายว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมหนนี้

แต่การจะเอ่ยเช่นนั้น มันต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์ไม่ใช่ฟังแต่รายงานอย่างเดียว และเชื่อว่าน่าจะมาจากลูกน้องคนโปรดที่เป็นระดับรองของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวแต่บทบาทโดดเด่นกว่าคนที่เป็นผู้บัญชาการเสียอีก ซึ่งคนคนนี้ก็มีเรื่องให้หน้าแหกมาสองหนติด ๆ ในช่วงระยะเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา ทัวร์ศูนย์เหรียญก็เป็นหนึ่งในนั้น

เพราะลูกน้องคนโปรดของบิ๊กป้อมยืนยันกับสื่อว่าไม่มีทัวร์ศูนย์เหรียญหลงเหลืออยู่แล้ว แต่พอเกิดเหตุเรือล่มกลับพุ่งเป้าไปที่นอมินีคนไทยและนายทุนจากจีนทันทีทันใด ซึ่งมันขัดแย้งกับสิ่งที่ตัวเองการันตี เช่นเดียวกับการกวาดล้างพวกไกด์เถื่อน สามล้อหน้าเลือดที่ไปขูดรีดกับนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดกับวัง คนคนเดียวกันก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าไม่มีเหลืออยู่แล้ว

พอผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบกลับพบว่ายังเป็นปัญหา จนสุดท้ายก็ต้องแสดงบทบาทลุยปราบปรามกันอีกรอบ ปัญหาพวกนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดแต่มีมานานแล้ว ดังนั้น กระบวนการจัดการจึงต้องรัดกุม รอบคอบและทำกันอย่างต่อเนื่องจริงจัง ไม่ใช่ลักษณะไฟไหม้ฟาง เชิญนักข่าวไปถ่ายภาพการปราบปราม จับกุม แล้วนำตัวเลขไปรายงานเจ้านาย แต่หลังจากนั้นก็ปล่อยปละละเลย ท้ายที่สุดทุกอย่างก็วกกลับมาเหมือนเดิมและต้องไปเริ่มต้นกันใหม่

ไม่รู้ว่าจะมึนงงหรือเปล่าสำหรับ อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทสเปซเอ็กซ์ บริษัทเทสลามอเตอร์สและอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เดินทางมาติดตามการทำงานของทีมวิศวกรของบริษัทตัวเองที่ส่งมาช่วยวิเคราะห์และวางแนวทางในการช่วยเหลือทีมหมูป่า พร้อมส่งมินิแคปซูลมาให้เป็นทางเลือกของเจ้าหน้าที่ในการนำทั้งหมดออกมาจากถ้ำหลวง

เพราะการที่เจ้าตัวได้พบกับผู้นำประเทศไทยและมีการพูดคุยกันนานกว่า 40 นาที ยืนยันว่าบิ๊กตู่ชวนอีลอน มัสก์ มาร่วมลงทุนในอีอีซี แน่นอนว่าประสานักธุรกิจระดับโลกย่อมไม่ปฏิเสธสิ่งที่ผู้นำประเทศซึ่งตนมาเยือนหยิบยื่นให้ จึงบอกว่ามีความสนใจ แต่ตอนนี้จะต้องเดินทางไปประเทศจีนก่อนแล้วจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง

เข้าใจความปรารถนาดีของท่านผู้นำที่ทำตัวเป็นนักการตลาด เชิญชวนนักธุรกิจใหญ่มาลงทุน แต่ในบริบทที่กำลังอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน น่าจะเน้นย้ำเรื่องการขอบคุณความปรารถนาดีของอภิมหาเศรษฐีของโลกที่เสียสละทั้งเวลาและทรัพยากรที่มีมาช่วยเหลือ 13 ชีวิตหมูป่าในครั้งนี้ เรื่องอื่น ๆ ค่อยสื่อสารหรือเชื้อเชิญภายหลังก็คงไม่น่าเกลียด

บางครั้งบางสิ่งบางอย่างมันสมควรที่จะใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา เนื่องจากมันจะสัมพันธ์กับคำว่ามารยาทและกาละเทศะ ที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจภาพใหญ่คงไม่ต้องแสดงอะไรมากแล้วกระมัง ก็ฝ่ายกุมอำนาจโพนทะนากันแทบจะทุกเวลาว่าตัวเลขนี่โน่นนั่นยอดเยี่ยมเป็นที่สุด ถ้าจะให้ดีรอให้เศรษฐกิจฐานรากคนยากคนจนมีเงินจนกระเป๋าตุงแล้วค่อยมาคุยฟุ้ง น่าจะดูดีมีความสง่างามมากกว่า

Back to top button