เศรษฐกิจไม่ตกต่ำๆๆ ทายท้าวิชามาร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านมีไอเดียดีๆ เยอะนะครับ ท่านเสนอให้ออกเลขท้ายลอตเตอรี่ 3 ตัวหน้า กองสลากก็ขานรับทันที เสนอให้กระทรวงศึกษาแยกแบบฝึกหัดจากแบบเรียน เลขา สพฐ.ก็ “เด้งรับ” วันศุกร์ที่ผ่านมาท่านก็พูดเรื่องขยะเป็นวาระแห่งชาติ รณรงค์ให้เลิกใช้โฟมใช้ถุงพลาสติก แล้วขอร้องว่าอย่าต้านโรงไฟฟ้า (แหม...มี ม.44 อยู่ใครจะกล้า)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านมีไอเดียดีๆ เยอะนะครับ ท่านเสนอให้ออกเลขท้ายลอตเตอรี่ 3 ตัวหน้า กองสลากก็ขานรับทันที เสนอให้กระทรวงศึกษาแยกแบบฝึกหัดจากแบบเรียน เลขา สพฐ.ก็ “เด้งรับ” วันศุกร์ที่ผ่านมาท่านก็พูดเรื่องขยะเป็นวาระแห่งชาติ รณรงค์ให้เลิกใช้โฟมใช้ถุงพลาสติก แล้วขอร้องว่าอย่าต้านโรงไฟฟ้า (แหม…มี ม.44 อยู่ใครจะกล้า)
ท่านนายกฯ ยังบอกว่าประชาชนอย่าไปเชื่อ ที่ใครพูดเศรษฐกิจตกต่ำ เพราะตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มตั้ง 30% ประเทศได้รับความเชื่อมั่นจากศักยภาพของรัฐบาล มีความปลอดภัย มีความสงบสุข ใครที่ยังพูดจาให้เสียหาย ก็ระมัดระวังด้วย (อ้าว…นักวิเคราะห์ทั้งหลายระวังปากไว้)
ขณะเดียวกัน ท่านนายกฯ ก็ดูจะรู้ดีว่า ท่านอยู่มา 1 ปียังช่วยเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยได้ไม่มากนัก ซ้ำบางส่วนยังเดือดร้อนจากการ “จัดระเบียบ” ไม่ว่าหาบเร่แผงลอย หรือชาวบ้านที่ทำกินในป่าเสื่อมโทรม ซึ่งล่าสุดกระทรวงทรัพย์ฯ ก็ไปรุกไล่ตัดสวนยาง
ท่านบอกว่าจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย จัดระเบียบ กำจัดธุรกิจสีเทา ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แม้ยอมรับว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ทำแรงเกินไป ไม่มีใครค้านเรื่องจัดระเบียบกำจัดธุรกิจสีเทาหรอก แต่จัดระเบียบไม่จำเป็นต้อง “กวาดล้าง” มันมีหนทางยืดหยุ่นได้ บางครั้งราชการก็ไม่ใช่ถูกหมด เช่น ปัญหาที่ทำกินในเขตป่า มีเยอะไปที่ชาวบ้านโต้แย้งสิทธิว่าอยู่มาก่อนประกาศเขตป่า ต่อสู้กันมาหลายรัฐบาล แต่รัฐบาลนี้กวาดเรียบ
ขณะที่ปัญหาเกษตรกร ท่านยกเลิก “ประชานิยม” ไม่แทรกแซงราคาผลผลิต เพียงยังช่วยชาวนาไร่ละพัน และยังอัดฉีดเงินกองทุนหมู่บ้าน ท่านยกหลักเศรษฐกิจพอเพียง ให้ชาวบ้านรู้จักพึ่งตัวเอง เพราะเราอยู่ในการค้าเสรี ให้ขุดบ่อน้ำ ปลูกมะนาว ปลูกมะลิ เลี้ยงปลากัด รวมตัวกันเป็นสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ลดต้นทุน ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปลูกอาหารเพื่อสุขภาพ ฯลฯ โดยแย้งว่ารัฐบาลไม่ได้ผลักภาระ แต่สอนให้พึ่งตัวเอง
ประเด็นคือเรื่องเหล่านี้ชาวบ้านไม่ได้โง่ เขาทำกันมานานแล้วถ้าทำได้ ปลูกมะนาว ปลูกมะลิ ปลูกผักหวาน ฯลฯ เขาก็ทำกันอยู่แต่ทำได้ไม่มาก การทำนายังเป็นรายได้หลัก ที่ให้ปลูกข้าวอินทรีย์ปุ๋ยอินทรีย์ ก็ไม่ง่ายเพราะลงทุนสูง ดูแลยาก ตลาดจำกัด ผมมีคนรู้จักเพิ่งเอาข้าวอินทรีย์มาขายงาน OTOP ผลปรากฏขายไม่ออก แย่งกันลดราคา
รัฐบาลจะบอกให้เกษตรกรพึ่งตัวเอง เพราะเป็นการค้าเสรี รัฐไม่ช่วยแทรกแซง ถามว่างั้นทำไมรัฐบาลต้องลดภาษีให้อุตสาหกรรมที่ได้ BOI ขณะที่ห้ามไม่ให้ชาวนาทำนาปรัง
เราอยู่ในการค้าเสรี มันจึงมีความเหลื่อมล้ำ พืชผลการเกษตรถูกกดราคา เกษตรกรเป็นเบี้ยล่าง จึงต้องมีรัฐบาลมาช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่มีรัฐบาลไว้ขอร้องให้นายทุนทำเพื่อสังคม
เกษตรกรกำลังลำบาก แรงงานภาคอุตสาหกรรมเผลอๆ จะหนักกว่า เพราะกระทรวงแรงงานปิ๊งไอเดียให้ค่าแรงลอยตัว ยกเลิกค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อไทยที่ภาคธุรกิจโวยวายว่าบั่นทอนศักยภาพในการแข่งขัน ส่งออกติดลบ ต้องกลับมาใช้นโยบายกดค่าแรงเพื่อแข่งได้
ดีจังครับ ผู้ส่งออกไทยไม่มีปัญญาพัฒนาคุณภาพสินค้า รัฐบาลก็จะช่วยให้กลับไปแข่งขันได้ด้วยการกดค่าแรง
ทำแบบนี้เศรษฐกิจไทยไม่ตกต่ำแน่ ยังไงๆ ก็ขยายตัว 3% ขึ้นไป ในขณะที่คนจนคนมีรายได้น้อย เกษตรกร คนงาน 30-40 ล้านคนเดือดร้อน ไม่คิดเลยหรือว่าอะไรจะตามมา ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง
ใบตองแห้ง