ตั๋วฟรีของจอมยุทธ์
ราคาหุ้นวานนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรสูงสุดของไทย บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH วิ่งทำนิวไฮในรอบ 5 ปี ด้วยแรงซื้อที่คึกคักกว่า 2 พันล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดเงื่อนเวลาสำคัญคือ การประชุมกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติคำขอเสนอซื้อหุ้นหรือ เทนเดอร์ออฟเฟอร์บางส่วนของนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัท ในวันที่ 7 สิงหาคม และการประกาศงบไตรมาสสองและงบกลางปีในเวลาไล่เลี่ยกัน
พลวัตปี 2018 : วิษณุ โชลิตกุล
ราคาหุ้นวานนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรสูงสุดของไทย บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH วิ่งทำนิวไฮในรอบ 5 ปี ด้วยแรงซื้อที่คึกคักกว่า 2 พันล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนดเงื่อนเวลาสำคัญคือ การประชุมกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติคำขอเสนอซื้อหุ้นหรือ เทนเดอร์ออฟเฟอร์บางส่วนของนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัท ในวันที่ 7 สิงหาคม และการประกาศงบไตรมาสสองและงบกลางปีในเวลาไล่เลี่ยกัน
การวิ่งขึ้นของราคา ไม่ว่าจะมาจากใคร ล้วนบ่งบอกนัยสำคัญของพื้นฐานราคาตลาดของ LH ในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
ก่อนหน้าการวิ่งขึ้นของราคาวานนี้ ค่าพี/อีของ LH อยู่ที่ 12.43 เท่า ถือว่าค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับกลุ่มเดียวกัน แต่จากนี้ไป หากไม่เจอเรื่องเลวร้ายเกินคาดเดา ราคาใต้ 12.00 บาท น่าจะเป็นแนวรับ มากกว่าแนวต้านไปเสียแล้ว
การวิ่งขึ้นของราคาก่อนกำหนด ไม่ว่าจะมีนัยสำคัญอะไร แต่ที่ชัดเจนคือ ทำให้โอกาสที่ดีลเสนอซื้อหุ้นของนายอนันต์ มีโอกาสล้มเหลวได้ง่ายมาก
กลางเดือนมิถุนายน นายอนันต์ ผู้ถือหุ้นอยู่เดิม 23.93% ได้เสนอทำคำเสนอซื้อบางส่วน (Voluntary Partial Tender Offer) จำนวน 1,194 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคา 11.80 บาท (ราคาสุทธิหลังหักค่าธรรมเนียม/ภาษี ที่ 11.77 บาท) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท
การทำคำเสนอซื้อดังกล่าว นายอนันต์ไม่ได้ควักเงินจากพกห่อเดิม แต่ได้มีหนังสือยืนยันการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าหนี้เงินกู้รายสำคัญ (ซึ่งถนัดดีลแบบนี้มากกว่าใครในรอบ 5 ปีนี้) ในวงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาทที่จะทำการจ่ายชำระค่าเทนเดอร์ราคาแพงกว่าตลาดในวันที่ออกประกาศ
พร้อมกันนั้น นายอนันต์ได้ระบุชัดเจนด้วยเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า
– หากมีผู้มาแสดงเจตนาขายหุ้นน้อยกว่าจำนวนดังกล่าว จะรับซื้อหุ้นไว้ทั้งหมด
– หากมีผู้ถือหุ้นแสดงความประสงค์ขายหุ้นของบริษัทมากกว่าจำนวนที่รับซื้อ จะขอจำกัดรับซื้อเพียงจำนวนที่แจ้ง โดยใช้วิธีจัดสรรตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่มีผู้แสดงเจตนาขาย (Pro-rata)
– สำหรับราคาเสนอซื้อ 11.80 บาทต่อหุ้นนั้น ผู้ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนจะมีภาระค่าธรรมเนียมในการเสนอขายหุ้นดังกล่าวในอัตรา 0.25% ของราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญ และภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ของค่าธรรมเนียมในการเสนอขายหุ้นดังกล่าว
– หลังการทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน หากมีผู้ถือหุ้นตอบรับเต็มตามจำนวนที่เสนอซื้อ นายอนันต์จะมีจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 4,054,971,364 หุ้น หรือคิดเป็น 33.93% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ พร้อมแสดงเจตนาชัดว่าประสงค์จะถือหุ้นในบริษัทฯ ในสัดส่วนไม่เกิน 49% เพื่อเพิ่มการลงทุนระยะยาว
เงื่อนไขดังกล่าวจะบรรลุผลสมบูรณ์ได้ไม่ยาก หากว่าราคาก่อนการตั้งโต๊ะรับซื้อเท่ากับ หรือต่ำกว่า 11.80 บาท เพราะคงเป็นเรื่องบ้าบอสิ้นดีที่จะมีนักลงทุนที่ไหนเอาหุ้นที่ราคาต้นทุนสูงกว่านั้นมาขายให้นายอนันต์
การวิ่งขึ้นของราคาเมื่อวานนี้เหนือ 12.00 บาท มีความหมายชัดเจนว่าเงื่อนไขที่นายอนันต์ตั้งเอาไว้ในการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
หากนับจากนี้ไปจนถึงวันตั้งโต๊ะรับซื้อ ราคายังค้างเติ่งเหนือ 12.00 บาท การทำดีลนี้ก็จะล้มไปหรือบรรลุต่ำเกินคาด
ผลลัพธ์ที่คาดเดาล่วงหน้า ภายหลังกรณีดีลเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของนายอนันต์ล้มไป จะเกิดขึ้นดังนี้
– นายอนันต์ไม่ต้องก่อหนี้เพื่อกู้เงินมาซื้อหุ้น เพราะหากประเมินแล้ว กลุ่มที่จะขายหุ้นภายใต้เงื่อนไขของนายอนันต์ ย่อมเหลือแค่กลุ่มเดียวคือ ทุนรัฐบาลสิงคโปร์ GIC ที่ทยอยขายหุ้นไปเมื่อต้นปีนี้จนเหลือสัดส่วนการถือหุ้นใน LH ที่ระดับ 8% (อาจจะถือเป็นราคามิตรภาพ) เพราะ GIC จะใช้โอกาสนี้ในการลดสัดส่วนการถือหุ้นแบบเดียวกับที่เคยลดจนเกลี้ยงในบริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH มาแล้ว เนื่องจากมีต้นทุนต่ำมากหลังจากถือมายาวนานถึง 16 ปี (เว้นแต่จะมีตัวแปรอื่นสอดแทรกจนเหนือคาดเดา)
– การส่งสัญลักษณ์แบบเหนือชั้นของนายอนันต์ผ่านคำเสนอซื้อมูลค่ามหาศาล มีนักลงทุนที่เชื่อมั่นว่า LH จะต้องมี “ข่าวดีจำบัง” ที่ไม่เปิดเผยให้คนทั่วไปรู้ในแง่การเติบโตของบริษัทในอนาคต อาทิ โครงการเพื่อการเช่าใหม่ ๆ เข้ามาทดแทนโครงการอาคารที่พักอาศัย USA ที่เพิ่งขายออกไปไตรมาสแรกปีนี้
เรื่องหลังนี้ ยังไม่มีใครเปิดเผย และเป็นแค่การคาดเดา โดยมีคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่ LH ใช้เงินอีก 307.78 ล้านบาท เข้าถือหน่วยลงทุนกองทรัสต์อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHPF) จำนวน 39,458,300 หุ้น ในราคาหุ้นละ 7.80 บาท คิดเป็น 11.96% ของทุนชำระแล้วของ LHPF ส่งผลให้มีจำนวนหน่วยที่บริษัทถือภายหลังการเข้าซื้อ 26.96% ส่อเค้าว่าต้องมีงานใหญ่รออยู่
ถ้าการคาดเดาและการวิเคราะห์ถูกต้อง งานนี้ถึงขั้นดีลนี้ล้มจริง เท่ากับนายอนันต์สามารถพลิกแพลงใช้กลยุทธ์ “ตีตั๋วถูก” หรือ “ตีตั๋วฟรี” ดันราคาหุ้น LH โดยไม่ต้องใช้วิชาปั่นหุ้นแบบเสี่ยหน้าอ่อนทั้งหลายให้วุ่นวายทั้งเจ้าตัว เจ้าหนี้ และ ก.ล.ต.
ถือเป็นสุดยอดวิชาจอมยุทธ์ที่ห้ามเลียนแบบแท้จริง เพราะขืนเลียนแบบไปอาจได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม หรืออย่างดีสุดก็แค่ “ของปลอมทำเหมือน” เท่านั้น