ตู่กับเต่า

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดประชุมเลือกหัวหน้าพรรคได้ “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล วัย 74 ขวบ มานั่งเก้าอี้อย่างเซอร์ไพรส์ จากที่คาดกันไว้ว่า จะเป็นเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง

แต่เป็นใครก็ไม่ต่างกัน ในภาพรวม พรรครวมพลังประชาชาติไทยก็มี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ตั้งแต่กล่าวเปิดประชุมพรรค กระทั่งได้เลขาธิการพรรคเป็นนักกฎหมายคนสนิท

จุดยืนของพรรคซึ่งรวมดาวพันธมิตรนกหวีดปิดสนามบินปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง ก็ยังไม่เปลี่ยน คือเป็นตัวแทนพลังอนุรักษนิยมสุดติ่ง ติ่งกว่าประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันก็มีความเป็นขบวนการมวลชนมากกว่าพรรคเฉพาะกิจ อย่างกลุ่มสามมิตรที่กำลังดูด ส.ส.หนุนลุงตู่อยู่ต่อ อย่างไม่กระมิดกระเมี้ยน

ที่น่าสนใจคือ พรรค รปช.ดูเหมือนจะขายฝัน ว่าตัวเองพร้อมทุกอย่าง ทั้งหนุนตู่อยู่ต่อ หรือถ้าตู่ไม่ได้ไปต่อ ก็ขอลุ้นเป็นตัวสำรอง โดยตอนแรก พูดกันว่าจะชูเอนกมาสร้างภาพปรองดอง พอเปลี่ยนเป็นหม่อมเต่า ก็ยังไม่รู้จะชูหรือไม่ แต่ถ้าชู คงขายมโนได้มากกว่าเอนกด้วยซ้ำ เพราะความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็เคารพเกรงใจ ส่งลูกชายลง ส.ส. 3 สมัย

กระนั้น อุปสรรคใหญ่คือพรรค รปช.จะได้เสียงเท่าไหร่กัน จากชัตดาวน์ขัดขวางเลือกตั้ง ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง จนถอยหลังไปสู่ยุคก่อนประชาธิปไตยครึ่งใบ ยังจะมาลงสมัคร ส.ส.ให้ประชาชนเลือก นอกจากพวกเป่านกหวีดด้วยกัน จะหาเสียงกับใคร แม้แต่พวกที่เคยคาบนกหวีดอย่างภาคภูมิใจ ก็ลบภาพโปรไฟล์ไปเยอะแล้ว

จะว่าไป ความหวังความมโน จะเป็นนายกฯ สำรอง ไม่ได้มีแค่ รปช. เพราะ ปชป.ก็หวัง อีกหลายคนก็หวัง เผื่อตั้งรัฐบาลไม่ลงตัว เพราะตู่อยู่มา 4 ปี แม้สั่งสมอำนาจบารมี แต่อีกด้านคนก็เบื่อ อยู่นานเกินจนช้ำ กลายเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้ง กลายเป็นเป้าถูกรุมกระหน่ำ จากการใช้อำนาจแบบรัฐบาลทหาร

ล่าสุด ยังกลายเป็น “ประยุทธ์ 5 เมตร” จากคำสั่งสันติบาลที่ต้องมีระยะห่าง โค้งคำนับก่อนหลังถ่ายภาพ ทั้งที่ก่อนนั้น ไปสัญจรอุบลฯ เพิ่งบอกชาวบ้านไม่ต้องยกมือไหว้

กรุงเทพโพลล์ให้คะแนนท่านผู้นำ 6.40 เต็ม 10 แต่ถ้านับทั้งรัฐบาล ได้แค่ 5.06 ผ่านเฉียดฉิว ซึ่งต้องถามว่าโทษใคร อ้าว นายกฯ ไม่ใช่คนสั่งการทั้ง 21 กระทรวงหรือไง

ว่าที่จริง โพลล์ยุคปิดกั้นเสรีภาพ เชื่อได้ไม่มากนัก หากดูย้อนหลัง 4 ปี จะพบว่าโพลล์เชียร์รัฐบาลทั้งสิ้น ถ้าไม่คิดว่าโพลล์ลำเอียง ก็น่าจะเป็นเพราะผู้ตอบโพลล์เป็นคนชั้นกลางในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เชียร์รัฐประหาร เกลียดนักการเมือง แต่อยู่ไปนาน ๆ คะแนนรัฐบาลกลับตกลง ๆ

ไทกร พลสุวรรณ อ้างว่ากระแสไม่เอาทหารลามจากชาวบ้านสู่คนชั้นกลางแล้ว เชื่อได้หรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่เป็นคำถามที่น่าสนใจ

ที่แน่ ๆ คือวันนี้ทุกฝ่ายมองเห็นแล้วว่า หนทางของการสืบทอดอำนาจเป็นไปได้ยาก ฝืนได้แต่อยู่ลำบาก แม้แต่พลังอนุรักษ์ก็มองเห็น แต่ยังคิดว่าถ้าจำเป็นก็เปลี่ยนตัว โดยพยายามให้อยู่ในขั้วอำนาจอนุรักษ์นิยมด้วยกันเอง เพื่อรักษากลไกต่างๆ ที่วางไว้ ประยุทธ์เองก็อึดอัด จนกลับไปบ่นว่าถ้าตีกันก็จะเลือกตั้งไม่ได้

เลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 คือวางกลไกครอบอำนาจไว้หมด แล้วหวังจะบล็อกการเลือกตั้งให้เกิดผลตามต้องการ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเกิดผลอะไร