หุ้นร่วงหนัก..บิตคอยน์ร่วงยาว

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลาดเงิน ตลาดทุน สั่นสะเทือนไปตามกัน เมื่อเรื่องไม่เป็นเรื่องทำให้ผู้คนหวาดผวาอย่างหนัก จนต้องรีบชิงเทขายทุกอย่างออกมาเพื่อรักษาเงินสดไว้ในกระเป๋าตัวเองให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ หลังมือที่มองไม่เห็นงัดกลยุทธ์ “หักเหลี่ยม เฉือนคม” ฟาดใส่คนที่เดินเคียงข้างกันมาอย่างหนักหน่วง จนกลายเป็นว่า ไม่มีใครไว้ใจได้เลย! มันเป็นเรื่องที่ร้าวรานหัวใจดีเหลือเกินเจ้าค่ะ

*เมื่อทุกอย่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเกินจะพรรณนา และต้องใช้เวลาในการเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” ก็อยากให้ทุกคนมองภาพไปในทางเดียวกันว่า ทุ่งลาเวนเดอร์ไม่มีอยู่จริง..ของจริงมีแต่ดงระเบิดเต็มไปหมด จึงไม่ต้องแปลกใจที่นักเล่นได้เห็นยุทธการแฉหมดเปลือกเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะไม่มีใครอยากตกเป็นแพะรับบาปในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อนะซี

*วันนี้ถึงเริ่มเห็นความชัดเจนในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้นไปอีกขั้น และในไม่ช้าคงได้เห็นตัวร้ายของละครที่กำลังเล่นอยู่ในขณะนี้ออกมาสักที “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงอดใจรอดูตอนจบของละครน้ำเน่า (ตำรวจมาตอนจบ ผู้ร้ายตัวจริงโผล่มาให้เห็น) แต่เชื่อน้องโมเถอะว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง หลังจากนั้นทุกคนก็หลงลืมทุกสรรพสิ่งไปหมด..อิอิอิ

*เหมือนกับตัวอย่าง JFIN Coin ภายใต้การกำกับดูแลของ JMART วันนี้ไปถึงไหนแล้วเหรอ? มีใครพอรู้บ้างไหม? มีใครสนใจบ้างไหม?  และทางการเคยคิดจะเหลียวแลบ้างไหม? คำตอบคือไม่มีใครอยากจะพูดถึงอีกเลย เพราะเจ็บตัวตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรดบนกระดาน “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเอื้อนเอ่ยให้พวกขาลุยเจ็บกระดองใจซ้ำสอง เพราะไม่สามารถหามุมดี ๆ ของเงินดิจิทัลมาเล่าสู่กันฟังพับผ่าสิ!

*ประกอบกับเหตุการณ์โกงบิตคอยน์ของหนุ่มหน้ามน “ปริญญา” ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงทางอ้อมก้นร้อนไปตามกันแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่เห็นมีใครเสนอหน้าออกมาเม้าท์ถึงข้อดีของเหรียญสักราย พร้อมกับหุบปากเงียบอยู่ในที่ตั้งของตัวเองไปเฉย ๆ เลยทำให้ตลาดเงินดิจิทัลกลายเป็นของแสลงสำหรับคนที่คิดจะกระโดดลงมาเล่น งานนี้ถึงต้องถามเสือกระดาษอย่างหน่วยงาน ก.ล.ต. เอาไงดี?

*เม้าท์ถึงเรื่องตลาดเงินพอหอมปากหอมคอแล้ว “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงเรื่องตลาดทุนบ้างดีกว่า เพราะยุทธการสาดหุ้นทิ้งโครมเดียว จนดัชนีรูดลงไปถึง 22 จุด ก่อนย้อนกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอย่างช้า ๆ จนดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ 1,695.35 จุด ลบไป 10.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.42 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นความเลือดเย็นของนักเล่นกลุ่มสถาบัน ซึ่งเป็นประเด็นที่เดี๊ยนย้ำเตือนเป็นประจำเจ้าค่ะ

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ฝังใจกับท่าทีของนักเล่นกลุ่มดังกล่าวมาจากพฤติกรรม “ปากพล่อย..ตาขยิบ” ชอบทำทุกอย่างสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเป็นประจำ ซึ่งเป็นการดับฝันแมงเม่าปีกอ่อนที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปยืนแถว 1,750 จุดเป็นประจำ เลยทำให้เดี๊ยนแนะนำนักเล่นให้เคาะขวาเบา ๆ เพื่อป้องกันการถลำตัวลงไปลึกกว่าที่เป็นอยู่เท่านั้นเองจ้า!

*คล้ายกับการบวกสวนกระแสภาวะตลาดหุ้นของ BEAUTY ย่อมเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพราะตัวเลขกำไรที่ทำได้ในงวดนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นตัวเลขที่ดีกว่าคาดอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการสยบข่าวต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในบริษัทได้อยู่หมัด หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 9.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.44 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย พร้อมกับเปิดโอกาสให้หุ้นทะยานขึ้นไปอีกนะคะ

*อีกรายที่น่าสนใจสุด ๆ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น PACE ทะยานขึ้นต่อเนื่อง 5 วันติด จากหุ้นที่เคยมีราคาค่างวดอยู่แค่ 0.50 บาท ล่าสุดวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 0.71 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 241 ล้านบาท เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้ทุกคนได้รู้ว่า รุ่งอรุณของฟ้าวันใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว! จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าติดตามผลงานเหลือเกินเจ้าค่ะ

*หันมาดูหุ้นที่มีอาการน่าเป็นห่วงอย่างเช่น SQ เพื่อไม่ให้ตัวเองถลำตัวลงไปลึกกว่าที่เป็นอยู่ เพราะผลขาดทุนในไตรมาส 2 ที่มีเป็นจำนวน 58 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนมีกำไรราว 165 ล้านบาท มีคำอธิบายมาจากบริษัทว่า เกิดจากเหตุการณ์ดินสไลด์ที่เหมืองแม่เมาะ 8 ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงแปลกใจที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดบริเวณ 2.78 บาท บวกไป 0.08 บาท เพราะเนื้อในยังไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิมพะยะค่ะ

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่เจอมรสุมหนักเล่นงานคงหนีไม่พ้น NOK ราคาหุ้นถึงดิ่งลงหนักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงมาทำจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นด้วยการปิดที่ 2.26 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือ 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.65 ล้านบาท พร้อมกับถูกแขวนป้าย “C” หลังส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน แถมหุ้นสายการบินเพิ่งผ่านดราม่าไปหมาด ๆ แถมมีแต่ข่าวร้ายเรียงคิวเข้ามาขนาดนี้เห็นทีจะฟื้นยากเจ้าค่ะ!