ตั้งเกมรับ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เป็นอีกครั้งที่ได้เห็นตลาดหุ้นไทยดำดิ่งจนล่าสุดลงมาปิดที่ 1,676.29 จุด ลบไป 19.06 จุด หรือ 1.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.38 หมื่นล้านบาท หลุดแนวรับ 1,690 จุด ทำให้เทรนด์ดัชนีเป็นขาลงอย่างชัดเจน เห็นได้จากแรงขายที่มาจากทั่วทุกสารทิศแบบไม่แบ่งสัญชาติ จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นดัชนีเละเป็นโจ๊ก ถือเป็นการส่งสัญญาณให้นักเล่นต้องปรับพอร์ตกันอีกครั้ง

*ปัจจัยที่ส่งผลให้ภาพการลงทุนขมุกขมัวเกิดจากการกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งของฝรั่งตาน้ำข้าว ล่าสุดเทกระจาดหุ้นไทยเกือบ 2 พันล้านบาท ผสมโรงด้วยปอบผีฟ้าร่วมวงเทขาย 1.5 พันล้านบาท ทำให้เล่นเอาหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงชักหน้าไม่ถึงหลังต้องซมซานกลับมาอยู่จุดเดิมอีกครั้งจนได้ ถือเป็นภาพที่ฟ้องด้วยตัวมันเอง ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากมายอีกแล้วพะยะค่ะ

*อีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันมาจากผลงานบริษัทจดทะเบียนเกินครึ่งต่ำกว่าคาด ทำให้หุ้นเล็กหุ้นใหญ่กอดคอกันร่วงระนาว ต่อให้พยายามสร้างข่าวมาบิลต์อารมณ์นักลงทุนยังไงก็ฉุดไม่ขึ้น เพราะไตรมาสหลังจากนี้ผลงานยังไม่เข้าตาคงต้องลุ้นกันจนเหนื่อยกว่าหุ้นจะคืนฟอร์ม แถมด้วยหุ้นบางตัวที่ถูกลากขึ้นไปสูงเกินมูลค่าซื้อขายก็ถึงเวลาปรับจูนให้กลับมาอยู่ในจุดที่เหมาะสม “เดี๊ยน” ถึงมองว่าแรงขายยังไม่สะเด็ดน้ำนะสิเจ้าค่ะ

*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในรายของ BDMS ที่ก่อนหน้านี้พยายามไต่ขึ้นมายืนแถว ๆ 27.25 บาท จากความคาดหวังผลงานไตรมาส 2 แต่เมื่อไม่เป็นไปแบบที่คิด จึงถูกเทขายออกมา สุดท้ายลงมาปิดที่ 25.50 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลบไป 2.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท การปรับตัวลงในลักษณะนี้ “โมนิก้า” มองว่าเป็นจุดวัดใจ นักเล่นจึงต้องจับตาแนวรับ 25.40 บาทให้ดี เพราะหากหลุดจุดนี้ไป หุ้นมีโอกาสไหลยาวแน่นอนเจ้าค่ะ

*รายที่ยังอยู่รอดในภาวะตลาดขาลงเห็นทีคงเป็นน้องสวยประหารอย่าง BEAUTY ที่ยังบวกสวนสยบข่าวดราม่าขึ้นมา 2 วันติด มาปิดที่ 8.35 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 12.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.06 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเทรนด์หุ้นเป็นขาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เห็นได้จากวอลุ่มเทรดที่อุ่นหนาฝาคั่งเป็นตัวการันตีได้ว่าหุ้นน่าจะวิ่งได้อีกยาวนะเจ้าค่ะ…อิอิ

*ด้าน DDD ราคาหุ้นยังทรุดต่อเนื่องโดยวานนี้ลงมาปิดที่ระดับ 42.50 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลดลง 5.03% ทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าตลาด เหตุผลคงไม่ต้องพูดให้เมื่อยปาก เพราะทุกคนคงเห็นเป็นตาเดียวกันว่า ตัวเลขผลงานไตรมาส 2 ที่แจ้งออกมา กำไรลดฮวบไปถึง 57% จากยอดขายหดตัวแรง ใครหน้าไหนก็คงยังไม่อยากเอาตัวเข้าไปแลกถ้าเนื้อในยังไม่มีอะไรดีขึ้นไปกว่าเดิมถูกไหมเจ้าค่ะ

*ในรายของ SIRI เป็นอีกหนึ่งตัวที่ยังไม่อยากให้กระโจนเข้าใส่ แม้ราคาหุ้นเริ่มจะ Over Sold ไปแล้ว เพราะผลประกอบการที่ยังย่ำแย่ ประกอบกับรายได้ครึ่งปีหลังที่ดูจะปั้นยาก ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1.61 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือ 1.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112.62 ล้านบาท ยิ่งเห็นสัญญาณเทคนิคหลุดทุกเส้นค่าเฉลี่ยแบบนี้ “โมนิก้า” ขอยืนดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ดีกว่าเจ้าค่ะ

*สำหรับ GJS แม้มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น แต่ยังถูกกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบอย่างหนักหน่วง เล่นเอาผลงานไตรมาส 2/2561 ขาดทุนเพิ่มจากปีก่อนเกือบเท่าตัว แถมโดนจับแขวนป้าย “C” หลังส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% เท่ากับว่าจะติดคุก Cash Balance ไปอีกยาว ถึงได้เห็นราคาหุ้นดิ่งพสุธามาปิดที่ 0.28 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 9.68% มูลค่าการซื้อขาย 13.64 ล้านบาทยังไงล่ะเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ PSTC แม้จะประกาศงบไตรมาส 2 สุดปังอลังการโตพรวดพราด 128% หลังได้ BIGGAS ช่วยหนุนรายได้ ถึงแปลกใจที่ราคาหุ้นดูจะไม่ตอบรับเท่าไหร่ล่าสุดลงมาปิดที่ 0.68 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลบไป 4.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44.27 ล้านบาท ของแบบนี้ “โมนิก้า” แนะนำให้ดูกันไปยาว ๆ เมื่อไหร่ภาวะตลาดเป็นใจคงจะได้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวรอบใหม่นะเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายกันที่ AMATA ถูกสาดหุ้นทิ้งออกมาเป็นระลอกจนเกิดอาการเสียศูนย์ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่าเป็นผลมาจากฝรั่งตาน้ำข้าวไม่เอา กองทุนตัวแสบไม่อยากเล่น หุ้นเลยไม่เคยปรับตัวขึ้นมาพักใหญ่ เพราะขาดเจ้าภาพหลักดันราคา แถมด้วยผลงานไม่เข้าตากรรมการ วานนี้หุ้นถึงได้ลงมาปิดที่ 18.60 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือ6.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 996.93 ล้านบาท หากไม่เร่งทำผลงานให้จุดติดเตรียมม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลยเจ้าค่ะ