สังคมข่าวหุ้น

***ดัชนีตลาดหุ้นพลิกกลับขึ้นมาปิดในแดนบวกได้ 4.67 จุด มาที่ 1,680.96 จุด เปลี่ยนแปลง -0.28% มูลค่าการซื้อขาย 57,763 ล้านบาท สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ต่างปิดในแดนลบกันถ้วนหน้า ส่วนหุ้นไทยที่กลับขึ้นมาได้ นอกจากเป็นการปรับขึ้นทางเทคนิค (หลังปรับลงมา 3 วันการทำกว่า 46 จุด) ก็ยังมีปัจจัยจากทางการจีนพร้อมจับเข่าคุยกับสหรัฐฯ เพื่อเจรจาทางการค้า ทำให้บรรยากาศดูดีขึ้นจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวล


คาเฟอีน

*ดัชนีตลาดหุ้นพลิกกลับขึ้นมาปิดในแดนบวกได้ 4.67 จุด มาที่ 1,680.96 จุด เปลี่ยนแปลง -0.28% มูลค่าการซื้อขาย 57,763 ล้านบาท สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ต่างปิดในแดนลบกันถ้วนหน้า ส่วนหุ้นไทยที่กลับขึ้นมาได้ นอกจากเป็นการปรับขึ้นทางเทคนิค (หลังปรับลงมา 3 วันการทำกว่า 46 จุด) ก็ยังมีปัจจัยจากทางการจีนพร้อมจับเข่าคุยกับสหรัฐฯ เพื่อเจรจาทางการค้า ทำให้บรรยากาศดูดีขึ้นจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวล

*หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์วันก่อนหน้านี้ พากันร่วงระเนระนาดจากการที่หุ้น SAWAD ของกลุ่มแก้วบุตตา แจ้งผลกำไรต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย ทำให้เกิดการ “ทุบหุ้น” จากมือที่มองไม่เห็น และลามไปยังหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ตัวอื่น ๆ อีกทั้ง KTC-MTC-AEONTS และ AMANAH แต่พอมาเมื่อวานนี้มีการดันหุ้น SAWAD แบบพลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ ทำให้ปิดตลาดกว่าบวก 10.37% ใครที่เข้าไปเก็บมาเมื่อวันก่อนหน้า ป่านนี้กระเป๋งตุง พุงกางกันแล้ว

*ส่วนหุ้นในกลุ่มตัวอื่น ๆ เช่น KTC ของ “คุณหมอระเฑียร” ก็ดีดกลับขึ้นมาได้เช่นกัน ปิดตลาดบวก 3.77% มาที่ 27.50 บาท เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มฯ ตัวอื่น ๆ ต่างกลับมากันหมด  รวมถึงหุ้น เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC ด้วย เห็นวิธีการเล่นหุ้นกันแบบนี้แล้ว ต้องระวังอย่าตื่นตูม ไม่เช่นนั้น โดนหลอกขายหมูกันสนุกสนานแน่ ๆ

*กำไรของบริษัทจดทะเบียน หรือ  บจ.ออกมาอย่างไม่เป็นทางการแล้ว มีกำไรสุทธิรวมกันกว่า 2.60 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17-18% จากไตรมาส 2/2560 ส่วนกำไรงวดครึ่งปีอยู่ที่ 5.55 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7-8% ก็ถือว่าเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมกับการประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2561 อยู่ที่ 1.11 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ผลประกอบการใกล้เคียง หรือดีกว่าคาด คือ กลุ่ม ICT, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มปิโตรเคมี

*หุ้น CPALL หลังถูกปรับลดคาดการณ์กำไรในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า และราคาเป้าหมายลง แต่ราคาที่ถูกปรับลงยังคงสูงกว่าราคากระดาน ทำให้ราคาเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยมีแนวรับที่ระดับ 69.00 บาท ที่แข็งแกร่ง หรือหลุดยาก และคิดว่าบรรดากองทุนที่ถือหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ต ก็ไม่น่าจะยอมให้ราคาร่วงลงมาแถว 65.00 บาทแน่นอน แต่หากถามถึงแนวโน้มด้านราคาจะไปอย่างไร คำตอบ คือ น่าจะแกว่งอยู่ 70 บวก/ลบ แบบนี้ไปสักระยะ และยังไม่น่าดีดกลับขึ้นมาแรง ๆ ได้

*หลัง บจ.แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 กันครบแล้ว นับจากนี้ก็ต้องจับตาหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เช่น INTUCH (16 ส.ค.), PTT, BH, KCE, BGRIM , TU, SGP และ IVL และยังมีตัวอื่น ๆ อีก ซึ่งก็น่าจะเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนีพอสมควร หลังจากขึ้น XD กันแล้ว ทำให้มีคำแนะนำเลี่ยงลงทุนหุ้นเหล่านี้ เพราะมีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรที่อาจจะเกิดขึ้นก่อน และหลังขึ้น XD ก็ได้

*อภิชัย เรามานะชัย นักวิเคราะห์จากค่าย บล.แอพเพิล เวลธ์ มองหุ้นไทยที่ดิ่งลงก่อนหน้านี้ มาจากปัญหาภายนอกประเทศล้วน ๆ โดยเฉพาะวิกฤติค่าเงินตุรกี แต่ไม่ควรตื่นตระหนกกันเกินไป เพราะปัญหาที่ว่านี้  ดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลาย ดูได้จากค่าเงินตุรกี เริ่มขยับแข็งค่าขึ้นมาแล้ว และที่สำคัญเศรษฐกิจโดยรวมของไทย ยังคงแข็งแกร่ง แถมยังจะมีข่าวดีเตรียมประกาศความชัดเจน เรื่องการเลือกตั้ง เข้ามาสนับสนุนในเร็ว ๆ นี้อีก หากนักลงทุนเห็นดัชนีฯ ที่ 1,650 จุด หรือต่ำกว่าก็เตรียมเงินไว้ให้ซื้อกันได้ เน้นเลือกหุ้นกลุ่มแบงก์ อิเล็กทรอนิกส์ อสังหาฯ  และรับเหมาก่อสร้าง

*สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นแนวทางการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล เพื่อปรับปรุงเกณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และไม่ทำให้เกิดต้นทุนในการประกอบธุรกิจที่สูงจนเกินความจำเป็น รวมทั้งรองรับกับรูปแบบการประกอบธุรกิจที่มีพัฒนาการมากขึ้นด้วย โดยได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://capital.sec.or.th/webapp/phs/upload/phs1533096728hearing_31_2561.pdf จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2561

Back to top button