พาราสาวะถี
วันนี้และพรุ่งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำครม.ชีพจรลงเท้าไปตรวจงานและประชุมนอกสถานที่ที่จังหวัดระนอง-ชุมพร ประกาศมาจากอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์เจ้าของพื้นที่ทั้งสองจังหวัด ไม่ไปรอต้อนรับคณะพระยาเหยียบเมือง แต่หากมีนักการเมืองคนอื่น ๆ ไปเสนอหน้า นั่นก็หมายความว่า น่าจะเป็นคนที่จะมาเป็นคู่แข่งของพรรคเก่าแก่ในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไปนั่นเอง
อรชุน
วันนี้และพรุ่งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำครม.ชีพจรลงเท้าไปตรวจงานและประชุมนอกสถานที่ที่จังหวัดระนอง-ชุมพร ประกาศมาจากอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์เจ้าของพื้นที่ทั้งสองจังหวัด ไม่ไปรอต้อนรับคณะพระยาเหยียบเมือง แต่หากมีนักการเมืองคนอื่น ๆ ไปเสนอหน้า นั่นก็หมายความว่า น่าจะเป็นคนที่จะมาเป็นคู่แข่งของพรรคเก่าแก่ในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไปนั่นเอง
ส่วนการลงพื้นที่ของท่านผู้นำพร้อมคณะ คงไม่ต่างจากที่ลงไปในจังหวัดอื่น ๆ ก่อนหน้า รับฟังปัญหาและมีประชาชนมาให้กำลังใจ แต่สิ่งที่จะแตกต่างสำหรับจังหวัดทางภาคใต้คือ จะมีคนที่กล้าเข้ามาสะท้อนปัญหาจริง ๆ ให้กับคนในรัฐบาลฟัง ซึ่งก็อาจจะถูกสกัดและตกเป็นข่าว เหมือนคราวไปประชุมครม.สัญจรที่สงขลาและตรวจงานที่ปัตตานีเมื่อครั้งกระโน้น
ถ้าจำกันได้มีชาวประมงไปร้องขอให้ท่านผู้นำช่วยแต่ถูกผู้มีอำนาจเด็ดขาดตะคอกกลับ ขณะที่ม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินจะนะก็ถูกดำเนินคดี ครั้งนั้นทำให้เสียรังวัดกันไปไม่น้อยแต่บังเอิญว่ามีข่าวอื่น ๆ มากลบกระแสไปเสียก่อนจึงซา ๆ กันไป หนนี้จึงน่าจับตามองจะมีใครมาลองของทำให้คนที่ไม่ชอบใครมาตอแยหรือเอะอะโวยวายหงุดหงิดในหัวใจอีกไหม
ไม่ต้องรอว่าใครจะมาเรียกร้อง คนกันเองในฐานะกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ไพศาล พืชมงคล คนใกล้ตัว พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กล่าสุด สะท้อนภาพปัญหาชีวิตของคนภาคใต้ ไม่รู้ว่าต้องการสื่อถึงอะไร แต่คงไม่ถึงขั้นมองกันไปไกลเป็นความไม่พอใจจากการที่ลูกพี่ใหญ่ถูกถอดพ้นคตช.แน่นอน
เสียงสะท้อนของไพศาลอ้างญาติพี่น้องขึ้นมาจากภาคใต้หลายคน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยประสบชะตากรรมลำบากอย่างวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการประมงเจ๊งหมด สวนยางเจ๊งเรียบ และยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ไขอย่างไรได้ ท่องเที่ยวหายไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว แนวโน้มวังเวงมาก เงินสดหายไปจากตลาด ถึงขั้นที่ชาวบ้านไม่อยากออกจากบ้านไปจ่ายตลาดกันแล้ว
ก่อนจะบอกว่าตัวเองเป็นคนใต้อายุขนาดนี้ ยังไม่เคยได้ยินข่าวคราวพี่น้องที่บ้านเกิดและภาคใต้ตกระกำลำบากอย่างนี้ต้องบ่นให้ได้รู้ได้ยินกันบ้าง น่าสงสัยว่าถ้าเป็นความลำบากอันแสนสาหัส ในฐานะคนที่นั่งคณะรัฐบาล ทำไมไม่ไปบอกกล่าวกันตรง ๆ ต้องสื่อสารให้สังคมรับรู้กันแบบนี้ หากบอกว่าไม่มีอะไรแอบแฝงคนคงเชื่อยาก
ไม่เพียงแค่บ่นทำให้คนทั่วไปเห็นปัญหาเท่านั้น แต่ไพศาลยังพูดถึงการดูแลอาณาประชาราษฎรให้อยู่ดีกินดีด้วย และเหมือนจะเป็นการด่าคนกันเองด้วยในทำนองที่ว่า จะคำนึงแต่ตัวเลขอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเดียวไม่ได้ เพราะสามารถเล่นกลสร้างตัวเลขความเติบโตทางเศรษฐกิจได้โดยที่ประชาชนไม่ได้รับผลอะไร
หากเป็นคนอื่นพูดก็พอจะเฉไฉได้ว่ามีวาระซ่อนเร้นแอบแฝง พอเป็นคนกันเองถ้าไม่ใช่ดิสเครดิตกันเอง ก็เป็นเพราะเดือดร้อนจนอดรนทนไม่ได้นั่นเอง ไม่รู้ว่าจะนำมาซึ่งความโมโหโกรธาของท่านผู้นำอีกหรือเปล่าเพิ่งโชว์ตัวเลขเศรษฐกิจไปหมาด ๆ แต่คนของพี่ใหญ่กลับมามาพูดดักคอ สวนทางกันเสียอย่างนั้น มันเป็นการตบหน้ากันชัด ๆ
แต่คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนทั่วไป เพราะสิ่งที่ไพศาลพูดก็เหมือนที่คนส่วนใหญ่รู้สึก นั่นก็คือ ทำไมประชาชนจึงร้องบอกโวยวายว่าลำบากยากแค้น ค้าขายไม่ได้ ไม่มีเงินใช้สอย ในขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าดี คนที่ชงตัวเลขให้ท่านผู้นำท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง และทีมงานเศรษฐกิจของรัฐบาลที่สนุกสนานกับตัวเลขการเติบโตทั้งหลายคงต้องอธิบาย
เรื่องของคนกันเองนี่แหละที่จะสร้างปัญหาชีวิตให้กับผู้มีอำนาจ ชัด ๆ เห็น ๆ ก็ประเด็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองนั่นปะไร ทำกันแบบเฉิดฉายโฉ่งฉ่างอย่างสามมิตร ถูกสะกิดถามมาตลอดว่าขัดต่อกฎหมายหรือไม่ คนในรัฐบาลและคสช.ต่างพากันหาเหตุแถต่าง ๆ นานา ทำเหมือนว่าคำสั่งเรื่องการห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปนั้นไร้ความหมาย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดต้องมีการกระตุกกันแรง ๆ จึงทำให้ได้ฟัง สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่แสดงท่าทีตีอกชกตัวก่อนหน้าว่าทำอย่างไรถึงไม่ผิดกฎหมายและไม่ถูกจับตามองจากฝ่ายความมั่นคง ต้องมีการเปลี่ยนทีท่าและที่ว่าจะแถลงเรื่องบิ๊กเซอร์ไพรส์ 2 ประการต้องเลื่อนไปก่อน เหตุผลคงไม่ต้องฟังคำอธิบาย ตีไว้ 2 ทาง ความจริงแล้วไม่มีอะไรที่จะสร้างความแปลกประหลาดใจหรือฮือฮา หรือไม่ก็คุณขอมาเพื่อไม่ให้ถูกหมั่นไส้
ใครจะว่าอย่างไรคงไม่เป็นปัญหา ภาระเรื่องการดูความเคลื่อนไหวของนักการเมือง พรรคการเมืองรวมไปถึงกลุ่มการเมืองในช่วงนี้ คงเป็นหน้าที่ของกกต.ชุดใหม่ที่มี อิทธิพร บุญประคอง นั่งเป็นประธาน หลังรับเก้าอี้เป็นทางการคำประกาศของท่านน่าสนใจ ยึดคาถาซื่อสัตย์-กล้าหาญ-เป็นกลาง-ไม่เข้าข้างใคร-ไม่ถูกครอบงำ เมื่อท่านพูดคนก็แค่ฟังท่านและคณะต้องทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์เสียก่อนคนถึงจะเชื่อ
ผลพวงจากกกต.ชุดที่เพิ่งพ้นไปจากหน้าที่ ต้องยอมรับกันว่าสะเทือนต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอิสระแห่งนี้ไม่น้อย โดยเฉพาะการทำตัวเป็นคณะกรรมการไม่อยากจัดการเลือกตั้งจนนำมาซึ่งทางตันของประเทศและทำให้คณะเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างแห่งการยึดอำนาจมาถึงทุกวันนี้ งานแรกเลยที่อยากเห็นจากกกต.ชุดใหม่คือการทวงถามคสช.เรื่องปลดล็อกพรรคการเมืองทำกิจกรรม
สิ่งที่เป็นปัญหาทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะพรรคการเมือง และไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย ทุกอย่างนั้นพร้อมหมดแล้ว มีเพียงผู้มีอำนาจเท่านั้นที่เป็นปัญหา เพราะประเมินหรือคิดเอาเองว่าหากปลดล็อกแล้วทุกอย่างจะกลับไปสู่จุดเดิม หากกกต.มีความกล้าและไม่ถูกครอบงำจริง ก็ต้องแสดงบทบาททั้งสองประการนี้ให้เห็นเพื่อทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย และคงไม่ขัดใจท่านผู้นำเพราะท่านพูดอยู่ตลอดเวลาว่าให้ทุกคนเคารพกฎหมาย