วิกฤติรอหลังเลือกตั้ง
ข่าวเลือกตั้งระยะนี้จืดชืดลง เพราะถ้าไม่เกิดเหตุพลิกผัน ระดับพลิกโครม ยังไงก็คงมีเลือกตั้งต้นปีหน้า โดยว่ากันตามโรดแมป ที่น่าจะขับช้า ๆ หาก พ.ร.บ.เลือกตั้งประกาศราชกิจจาฯ กลางเดือนหน้า ก็จะมีผลบังคับใช้กลางธันวา ระหว่างนี้ คสช.ก็จะคลายล็อก ให้ กกต.และพรรคการเมืองเตรียมไว้ แม้คงไม่ได้เลือกตั้ง ก.พ. 2562 เพราะอ้างโน่นอ้างนี่อีกมากมาย แต่ดูยังไงก็ไม่สามารถลากเกินเดือน เม.ย.
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ข่าวเลือกตั้งระยะนี้จืดชืดลง เพราะถ้าไม่เกิดเหตุพลิกผัน ระดับพลิกโครม ยังไงก็คงมีเลือกตั้งต้นปีหน้า โดยว่ากันตามโรดแมป ที่น่าจะขับช้า ๆ หาก พ.ร.บ.เลือกตั้งประกาศราชกิจจาฯ กลางเดือนหน้า ก็จะมีผลบังคับใช้กลางธันวา ระหว่างนี้ คสช.ก็จะคลายล็อก ให้ กกต.และพรรคการเมืองเตรียมไว้ แม้คงไม่ได้เลือกตั้ง ก.พ. 2562 เพราะอ้างโน่นอ้างนี่อีกมากมาย แต่ดูยังไงก็ไม่สามารถลากเกินเดือน เม.ย.
บรรดานักวิเคราะห์ก็เลยมองข้ามช็อตไปหลังเลือกตั้งเสียมากกว่า ขนาดพิภพ ธงไชย ยังเห็นตรงกับจตุพร พรหมพันธุ์ ว่า “วิกฤติกำลังจะเกิด เลือกตั้งก็ไม่จบ” แม้มองต่างกัน คือ พิภพมองว่าวิกฤตินั้นเป็นเพราะทักษิณไม่ยอมแพ้ ขณะที่จตุพรมองว่าใครชนะก็ไม่จบ (เพียงแต่โลกสวยไปหน่อยที่คิดว่ายังเจรจาหาฉันทามติกันได้)
เห็นจะมีแต่นักข่าวเศรษฐกิจนักวิเคราะห์ “ทีมสมคิด” ที่ตีปี๊บขายฝัน ว่าเลือกตั้งพิธีกรรมแล้วฝรั่งจะกลับมาลงทุน ไทยแลนด์ 4.0 ไปโลด ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
คำถามที่ถามกันมากคือใครจะชนะเลือกตั้ง ทักษิณคุยฟุ้ง 260 เสียง อนาคตใหม่ 40 เสียง เป็นไปได้เพียงนั้นหรือ
แหม่ นักการเมืองก็ต้องปั่นราคาปลุกความเชื่อมั่น ถ้าบอกเราแพ้แน่ ใครมันจะเลือก ว่ากันตามเงื่อนไข ใครกุมอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษ แล้วใช้กติกามีชัย ระบบบัตรใบเดียว กกต.แจกใบแดงผู้สมัคร คะแนนพรรคหาย ฯลฯ เพื่อไทยได้ถึง 200 ก็โคตรอภินิหาร อนาคตใหม่ยังไม่ทันเป็นพรรคการเมือง ก็โดนข้อหายุยงปลุกปั่น
แถมทักกี้ยังจะทำอนาคตใหม่ซวยไปด้วย ทุกวันนี้ก็ซวยอยู่แล้ว เพราะสำหรับคนชั้นกลางสมองกลวง ใครต่อต้านประกาศลบล้างผลพวงรัฐประหารแก้รัฐธรรมนูญ=พวกทักษิณ ซตพ.
อันที่จริง ผลการเลือกตั้งครั้งนี้คาดเดายาก ด้วยปัจจัยหลายหลาก เช่น คนรุ่นใหม่ไม่เคยเลือกตั้งมีมากถึง 7 ล้านคน กลไกอำนาจรัฐจะเป็นกลางไหม หรือไม่เป็นกลางแล้วจะมีอิทธิพลต่อชาวบ้านเพียงไร โครงการประชารัฐ ไทยนิยม เปลี่ยนใจคนชนบทได้หรือเปล่า หรือแม้แต่คนที่เคยเป่านกหวีด จะเลือกกลุ่มสามมิตร ปชป. รปช. หรือเปลี่ยนใจ หรือเซ็งจนนอนหลับทับสิทธิไปเลย ฯลฯ
แต่ที่แน่ ๆ ที่คาดเดาได้ คือรัฐพันลึกที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ไม่มีวันปล่อยวางอำนาจ ไม่ว่าจะวางตัวใครสืบทอดอำนาจ หากผลเลือกตั้งออกมาตรงข้าม ก็พร้อมจะโค่นล้มพลิกกระดาน
นั่นจึงคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดวิกฤติ ต่อให้สังคม โดยเฉพาะกลุ่มทุนธุรกิจ สยบยอมคล้อยตาม สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ โดยหวังเลี่ยงวิกฤติทำมาหากิน แต่ก็แค่ชะลอเพื่อรอวิกฤติลูกใหญ่กว่า ยืดเยื้อกว่า กัดกร่อนและนำไปสู่ความเสื่อมยิ่งกว่า
รัฐบาลสืบทอดอำนาจ ถ้าตั้งได้สำเร็จ ก็จะเผชิญปัญหาความชอบธรรมตั้งแต่ต้น เช่น การตั้งพรรคตั้งกลุ่มมาดูด ส.ส. เป็นการใช้อำนาจเอาเปรียบหรือไม่ สังคมไทยที่เคยขับไล่ รสช.สมสู่นักการเมืองสามัคคีธรรม ยังเหลือยางอายอยู่ไหม การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือทำทุกอย่างให้ตัวเองชนะ ไปจนการอ้างตนคนดีแต่พึ่งนักการเมืองยี้เป็นนายกฯ
ขณะที่ 4 ปีก็สั่งสมปัญหา ความไม่พอใจของผู้คนมากเท่าไหร่ไม่รู้ได้ ซึ่งจะไปประดังหลังหมด ม.44 โดยไม่ใช่แค่ความไม่พอใจต่อรัฐบาลนี้ แต่มันขยายเป็นความไม่พอใจต่อรัฐทหาร รัฐราชการ อภิสิทธิ์ชนกลุ่มต่าง ๆ มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่ตกผลึกเป็นสำนึกร่วมกัน (อดใจรอเล็กน้อย)