ทุบแล้วลาก
*เป็นอีกครั้งที่ได้เห็นตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวแบบโหดขั้นเทพหลังเปิดตลาดดำดิ่งลงไปแตะจุดต่ำสุดของวัน ที่ 1,712.92 จุด หรือลงไป 7.51 จุด และมีการไล่ช้อนขึ้นมาจนล่าสุดลงมาปิดที่ 1,721.58 จุด บวกไป 1.15 จุด หรือ 0.07% ด้วยมูลค่า 4.75 หมื่นล้านบาท มันเป็นการเล่นของพวกชอบทุบเอาของที่เห็นกันอยู่เป็นประจำเมื่อดัชนีลงไปกองในจุดที่ต้องการแล้วจึงมีการซื้อกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้งโหดสุด ๆ ไหมล่ะพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เป็นอีกครั้งที่ได้เห็นตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวแบบโหดขั้นเทพหลังเปิดตลาดดำดิ่งลงไปแตะจุดต่ำสุดของวัน ที่ 1,712.92 จุด หรือลงไป 7.51 จุด และมีการไล่ช้อนขึ้นมาจนล่าสุดลงมาปิดที่ 1,721.58 จุด บวกไป 1.15 จุด หรือ 0.07% ด้วยมูลค่า 4.75 หมื่นล้านบาท มันเป็นการเล่นของพวกชอบทุบเอาของที่เห็นกันอยู่เป็นประจำเมื่อดัชนีลงไปกองในจุดที่ต้องการแล้วจึงมีการซื้อกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้งโหดสุด ๆ ไหมล่ะพะยะค่ะ
*การผันผวนของดัชนีในช่วงนี้จึงแกว่งออกข้างตามอารมณ์ของนักเล่นเสียมากกว่า ประกอบกับยังไม่มีเหตุการณ์อะไรให้แฟนคลับได้ลุ้นระทึก เพราะเมื่อ “โมนิก้า” สำรวจปัจจัยรอบด้านก็พบว่าไม่มีประเด็นบวกให้พูดถึงจริง ๆ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเลยกลายเป็นการที่ได้เห็นดัชนีย่ำอยู่กับฐานไม่ขยับไปไหนไกลจากกรอบเดิม การเล่นหุ้นถึงยังไม่ต้องไปคิดให้ปวดกบาลน่ะสิเจ้าค่ะ
*สำหรับหุ้นเครื่องดื่มที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่อย่าง CBG หลังบุกตลาดอังกฤษไปหยก ๆ ก็เจอกฎเหล็กเมืองผู้ดีสั่งห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังให้เด็กต่ำกว่า 16 ปี สร้างความวิตกยอดขายต่างประเทศที่ดูท่าทางจะร่อแร่ เหล่าผู้รู้หลายสำนักถึงได้หั่นคำแนะนำกันเป็นพรวน การได้เห็นราคาไหลมาปิดที่ 46.25 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลบไป 3.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 244 ล้านบาท ถึงไม่ได้เป็นที่แปลกใจยังไงล่ะเจ้าค่ะ
*หลายวันนี้รู้สึกจะมีการเคลียร์คดีความให้โมนิก้าได้กินเผือกอยู่ทุกวัน ล่าสุดถึงคิวของ SMART หลังมีปมอดีตคน (เคย) รักให้คาราคาซังมาพักใหญ่ ถึงเวลาเช็กบิล เมื่อทุก ๆ อย่างเป็นไปตามต้องการถึงได้เห็นหุ้นวิ่งทะลุมิติขึ้นไปทำซิลลิ่งพร้อมด้วยแรงซื้อทะลุทะลวง และลงมาสะเด็ดน้ำที่ระดับ 1 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 16.28% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28.11 ล้านบาท แรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาในรอบเกือบ 1 ปี
*ส่วนในรายของ KTC หลังจากก่อนหน้านี้นักเล่นต่างได้กำไรเป็นกอบเป็นกำกันมาแล้ว ก็ถึงเวลาไล่ราคากันอีกรอบ ล่าสุดพุ่งสวนตลาดขึ้นปิดที่ 31.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 7.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.14 พันล้านบาท รูปแบบการเคลื่อนไหวแสดงให้ “โมนิก้า” เห็นภาพหากแบ็กกราวด์ไม่แจ่มจริง หุ้นจะขึ้นมาอยู่ ณ จุดจุดนี้ไม่ได้ ถึงเป็นช็อตที่ชวนให้ติดตามจริง ๆ เจ้าค่ะ
*แวะมาดูหุ้นรายนี้กันบ้าง TITLE ราคาร้อนแรงไม่แพ้ละครเมีย 2018 ที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ “เดี๊ยน” มองมุมไหนราคาก็แซ่บโดนใจเม่าไปเสียหมด ! เห็นได้จากการที่ราคาวิ่งทะยานแรงและทุบสถิตินิวไฮต่อเนื่อง ล่าสุดกระชากมาปิดที่ระดับ 8.30 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 9.21% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 33.83 ล้านบาท ประกอบกับแผนธุรกิจปีนี้ที่ปักธงรายได้อื้อซ่าโตเกินเท่าตัวจากปีก่อนมีเพียงแต่ 300 ล้านบาท งานนี้เดี๊ยนต้องขอยกนิ้วให้เป็นหุ้นเด่นโดนใจเม่าอีกสักตัวเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ “น้องสวย” BEAUTY เป็นอีกตัวที่ยังคงท็อปฟอร์ม หลังจากผ่านทั้งมรสุมข่าวและการปรับตัวลดลงอย่างน่าใจหายมาได้ ราคาก็ไต่ระดับขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 11.30 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7.62% ด้วยมูลค่า 3.11 พันล้านบาท ทั้งผลประกอบการทั้งราคาเป็นบวกแถมมูลค่าซื้อขายขึ้นติดท็อปไฟว์ทุกวันแบบนี้ ถึงได้เห็นนักเล่นขยันเคาะขวากันทุกวันยังไงล่ะจ๊ะ
*ในรายของ BIG เป็นอีกหนึ่งตัวที่ “เดี๊ยน” ยังไม่อยากให้กระโจนเข้าใส่แม้ราคาหุ้นจะ Over Sold ไปแล้ว เพราะการเคลื่อนไหวของหุ้นตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ที่สั่งสอนได้เป็นอย่างดี ว่าหุ้นตัวนี้ขุนไม่เคยขึ้น ! ทำให้ราคาหุ้นที่ปรับตัวมาปิดที่ 1.83 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 71.35 ล้านบาท เป็นจังหวะที่ไม่น่าเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องน่ะสิ
*ปิดท้ายที่หุ้นอีกตัวที่ขุดไม่ขึ้นอย่าง U จนถึงเวลาที่ต้องทำอะไรสักอย่าง ด้วยแผนเดินหน้าลดทุนลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 905.50 ล้านบาท ไล่เรียงตั้งแต่รวมพาร์จาก 1 บาทมาเป็น 100 บาท และเริ่มแผนลดทุนลดพาร์จนครบถ้วนกระบวนการทั้งหมดเหลือพาร์เบ็ดเสร็จที่ 3.20 บาท ด้วยทุนจดทะเบียน 2.99 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการใช้วิศวกรรมทางการเงินของถนัดโรงเรียน “คีรี” น่ะสิเจ้าค่ะ…อิอิ