SYNEX สดใส

คุณค่าบริษัท

จากข้อมูลนักวิเคราะห์ มีการคาดว่าบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX จะมีกำไรสุทธิสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2561 ราว 223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ทั้งช่วงไตรมาสก่อนและงวดเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่เร่งตัวขึ้นในส่วนของสมาร์ตโฟนที่ได้สิทธิของ iphone จาก Apple และคอมพิวเตอร์รวมถึงอุปกรณ์ในกลุ่มเกมมิ่ง

พร้อมกับคาดรายได้รวมโต 1% จากไตรมาสก่อน และ 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 9,590 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะกลับไปยืนเหนือ 5% จากแรงหนุนของ Product Mix ที่โน้มเอียงมาทางสินค้าอัตรากำไรสูง และอำนาจการต่อรองกับ Supplier บางรายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การรับรู้กำไรของ BAF และการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนจะกลับเป็นปกติ อัตรากำไรสุทธิจึงมีโอกาสกลับไปใกล้เคียงหรือมากกว่าจุดสูงสุดเดิมในไตรมาส 1/2561 ที่ 2.4%

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2561 จะยิ่งโตแรงเพราะมีสมาร์ตโฟนเปิดตัวหลายรุ่นจากแบรนด์ดังทั้ง Apple, Huawei และ Samsung ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้รวมกันราว 50% ของรายได้รวม จะเปิดตัวสินค้ารุ่นเรือธงพร้อมกัน และเริ่มขายในไทย ต.ค.-พ.ย. ของทุกปี ซึ่ง Samsung ที่แผ่วไปในปีก่อนจะกลับรุกตลาดอีกครั้ง กอปรกับเป็นครั้งแรกที่ SYNEX จะได้ขาย iPhone ของ Apple และด้วยฐานกำไรไตรมาส 4/2560 ที่ทำไว้ไม่สูง ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2561 จะโตแรงจากงวดเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่อง และมีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9,573.34 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 8,249.92 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 161.19 ล้านบาท หรือ 0.21 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 151.05 ล้านบาท หรือ 0.20 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 18,483.74 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 16,421.30 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 371.05 ล้านบาท หรือ 0.48 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 299.66 ล้านบาท หรือ 0.39 บาทต่อหุ้น เป็นการตอกย้ำว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไร

นอกจากนี้ ทางนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่ากำไรสุทธิครึ่งหลังของปี 2561 จะโตแรงกว่ากลุ่มผู้ขายสินค้าไอที เช่น COM7 IT และ SIS แล้ว ด้าน Valuation ของ SYNEX ก็ถือว่าน่าสนใจมาก โดยปี 2561-2562 ต่ำเพียง 11-13 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตของตัวเองที่ 16 เท่า และค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 เท่า และเมื่อคิดเป็น PEG จะอยู่ที่เพียง 0.6-0.7 เท่า

ดังนั้นยังแนะนำ “ซื้อ” ในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 20 บาท

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) 296,687,160 หุ้น 38.51%
2. King’s Eye Investments Ltd. 269,500,000 หุ้น 34.99%
3. BNP PARIBAS HONG KONG BRANCH 38,626,830 หุ้น 5.01%
4. กองทุนเปิด ภัทร หุ้นระยะยาวปันผล 7,179,400 หุ้น 0.93%
5. กองทุนเปิด ภัทร SMALL AND MID CAP EQUITY 6,856,500 หุ้น 0.89%

รายชื่อกรรมการ

1. นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ
2. น.ส.สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
3. นายชู วู ตู กรรมการ
4. นายพุฒิพันธ์ เตยะราชกุล กรรมการ
5. นายเว่ย ฮุย กรรมการ