พาราสาวะถี
นั่งปลงสังขาร เอ๊ย! เล่าความหลังให้นักข่าวฟังวันงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนประจำรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพื่อสั่งลาการปฏิบัติหน้าที่ของกรธ. โดย มีชัย ฤชุพันธุ์ เปิดใจถึงเรื่องการร่วมร่างกฎหมายให้กับคณะเผด็จการแทบจะทุกชุดนับตั้งแต่ตัวเองเริ่มทำงานกระมัง ยืนยันไม่ใช่เนติบริกรและบอกว่าไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับนายทหารใหญ่รายใดเป็นพิเศษ
อรชุน
นั่งปลงสังขาร เอ๊ย! เล่าความหลังให้นักข่าวฟังวันงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนประจำรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพื่อสั่งลาการปฏิบัติหน้าที่ของกรธ. โดย มีชัย ฤชุพันธุ์ เปิดใจถึงเรื่องการร่วมร่างกฎหมายให้กับคณะเผด็จการแทบจะทุกชุดนับตั้งแต่ตัวเองเริ่มทำงานกระมัง ยืนยันไม่ใช่เนติบริกรและบอกว่าไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับนายทหารใหญ่รายใดเป็นพิเศษ
ทำให้บางคนที่รู้จักมีชัยถึงกับบอกว่า ความจริงน่าจะพูดว่ามีชัยไม่สนิทสนมกับนายทหารใหญ่รายใดบ้างต่างหาก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการพร่ำเพ้ออยากให้กรธ.ชุดนี้เป็นคณะสุดท้ายที่เข้ามายกร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้มองได้อีกหลายนัย ด้านหนึ่งคือ เจตนาดีต่อกระบวนการประชาธิปไตยไม่ต้องการให้มีใครมาฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญกันอีก
แต่อีกด้านที่สำคัญคงจะเป็นมุมที่ว่าก็รัฐธรรมนูญฉบับคสช.นั้น ได้กระทำการรัฐประหารโดยกฎหมายสูงสุดของประเทศไว้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีก หรือไม่ก็รัฐบาลที่เกิดจากรัฐธรรมนูญนี้ซึ่งก็จะเป็นคนหน้าเดิมอยู่สืบทอดอำนาจต่อไปอีกหลายปี หรือจนกว่าจะเบื่อกันไปข้าง
ไม่เพียงเท่านั้น กรธ.ชุดนี้อาจจะเป็นชุดสุดท้ายจริง ๆ หากมองไปยังกระบวนการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องให้มีเผด็จการคณะใดเข้ามาล้มล้างหรือยึดอำนาจจากรัฐบาลเลือกตั้ง เพราะมันแก้ไขได้ยากถึงขั้นอาจจะแก้ไม่ได้เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุนี้มีชัยจึงแสดงความปรารถนาดีที่ต้องการจะให้คณะร่างรัฐธรรมนูญชุดของตนเป็นชุดสุดท้าย
ขณะเดียวกัน คนก็มองว่าสิ่งที่คนแก่รายนี้เพ้อพร่ำรำพันนั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองนั้นเป็นผู้รักประชาธิปไตยไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร เพียงแต่ที่ผ่านมาถูกมองว่าขันอาสามาเป็นเนติบริกรให้กับผู้เป็นเผด็จการแทบจะทุกชุดก็เท่านั้นเอง ของพรรค์นี้บางครั้งไม่จำเป็นต้องให้ใครไปชี้หน้าว่าเป็นแบบไหนอย่างไร แต่พฤติกรรมของคน ๆ นั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกในตัวมันเอง
ไม่อยากมองโลกในแง่ร้ายเหมือนพวกน้ำตาจระเข้ แต่มันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ มีหรือที่วางกับดักประชาธิปไตยไว้ทุกทิศ แล้วจะมาบอกว่าทุกอย่างที่ทำเป็นความหวังดีที่จะพาประเทศเดินไปข้างหน้าเพื่อสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นแผนการสืบทอดอำนาจของเผด็จการคสช. พร้อม ๆ กับการตีกันเครือข่ายทักษิณให้พ้นเส้นทางการเข้ามาบริหารประเทศก็เท่านั้น
เป็นธรรมชาติของเผด็จการที่เมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแห่งอำนาจ ย่อมพยายามแสวงหาแนวร่วมเพื่อช่วยสร้างความชอบธรรมต่อการเข้ามาทำลายประชาธิปไตยของนักเลือกตั้ง ไม่ต่างจากหัวหน้าคณะรัฐประหาร ปากก็บอกว่าไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ไม่ใช่นักการเมือง แต่นับวันยิ่งจะเล่นการเมืองอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการกล่าวหาโจมตีสิ่งที่รัฐบาลที่ผ่านมาได้ทำไป เรียกได้ว่าเป็นท่วงทำนองที่นักการเมืองอาชีพยังชิดซ้าย
เป็นปกติธรรมดาของคนที่จะประกาศจุดยืนทางการเมืองภายในเดือนนี้ จำเป็นจะต้องโชว์ศักยภาพให้กองเชียร์ได้เห็น เมื่อกระโจนเข้าสู่สนามการเมืองแล้วไม่ใช่สมันน้อยที่จะให้ใครเชือดได้ง่าย ๆ ประมาณว่าเป็นพวกไก่เห็นตีนงู ส่วนจะดูกันยาว ๆ ก็ต้องดูการจัดองคาพยพของพรรคพลังประชารัฐ คนเป้าหมายจากฝ่ายบริหารในรัฐบาลเผด็จการจะมากันให้พรึ่บตามคาดหรือเปล่า
คงไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย วันนี้ นอมินีต่างอึดอัดเพราะไม่รู้ว่าจะทนแบกรับภาระ แรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ได้อีกซักกี่น้ำ ความไม่ใช่นักการเมืองอาชีพแต่กำลังจะเข้ามาทำอาชีพนักการเมือง บางครั้งความอึดความทนก็จะต่างจากพวกบรรดาเซียนทั้งหลายอย่างลิบลับ คงต้องรีบแสดงความชัดเจนกันให้รู้แล้วรู้รอด ยังไงก็จะไปกันต่อไม่เห็นต้องมากระมิดกระเมี้ยนกันอีกต่อไป
อยากฝากไปถาม พลโทธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ยังยืนยันคำตอบเดิมหรือไม่ ช่วงนี้เข้าสู่โหมดการเมืองแล้ว ทุกความเคลื่อนไหวของนักการเมืองในพื้นที่จะได้รับการผ่อนปรนไม่เลือกปฏิบัติ เพราะคนในพื้นที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ท่านพูด เห็นได้ชัดจากกรณีสามมิตรไปเปิดตัวผู้สมัครที่ชัยภูมิ กับกรณีเก็บบัตรประชาชนที่โคราช
โดยกลุ่มสามมิตรทำทุกอย่างได้สบายใจเฉิบ ไม่มีใครมองว่าเป็นความผิด ไม่ต้องไปถามถึงกกต.ในฐานะกำกับดูแลการเลือกตั้งและจับตาความเคลื่อนไหวของนักการเมือง เพราะมันยังไม่ถึงเวลา เอาแค่ฝ่ายความมั่นคงตีความกันให้ได้ว่า สิ่งที่ทำนั้นเป็นการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ หากคำตอบคือไม่ แล้วทำไมจึงไปวินิจฉัยสิ่งที่เกิดขึ้นที่โคราชว่าเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
ปัญหาของการแก้ไขความขัดแย้งที่ผ่านมาก็เกิดจากกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นธรรมนี่แหละ โดยเฉพาะประเด็นสองมาตรฐาน คนที่ขันอาสาจะเข้ามาเพื่อขจัดเรื่องนี้ให้หมดไป แต่วันนี้เมื่อเผยตัวตนให้เห็นแล้วว่าไม่ได้เข้ามาเป็นกรรมการเพราะปลายทางจะโดดลงมาเป็นผู้เล่นเอง ใครคงไปตำหนิอะไรไม่ได้ ขอแค่ทำให้ทุกอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมได้หรือไม่
ปลายทางอย่างที่ปากชอบอ้างจะจัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส เที่ยงธรรม หากพฤติกรรมต้นทางทั้งที่ปี่กลองทางการเมืองยังไม่เริ่มก็ทำกันเสียขนาดนี้แล้ว ที่กลัวว่าจะยุ่งเกรงว่ามันจะวุ่นวายกันไปใหญ่ ตราบใดที่มิตรยังถูกปฏิบัติเหมือนมิตรทุกอย่างก็พอจะกล้อมแกล้มกันไปได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่แม้แต่มิตรเองก็ยังถูกเอาเปรียบ ก็ถึงเวลาสำเหนียกไว้ให้ดีว่ามิตรที่หันไปเป็นศัตรูและจับมือกับศัตรูนั้นมันน่ากลัวเพียงใด
ยังมีอีกเรื่องที่น่าห่วงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหย่อนบัตร (ถ้าเกิดขึ้นจริง) กับการเรียกคนไปปรับทัศนคติจาก พิชัย นริพทะพันธุ์ ที่นั่งรอโทรศัพท์หรือหนังสือเชิญหารือรอบที่ 12 นคร มาฉิม คนที่ออกมาเปิดโปงขบวนการล้มรัฐบาลเครือข่ายทักษิณก็ถูกบุกค้นบ้านก่อนที่จะมีนายทหารเข้าไปทำความเข้าใจ เหล่านี้ถ้าถือเป็นเครื่องมือในการกำจัดคนเห็นต่างหรือจำกัดวงการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นวิธีสามานย์ที่ไม่ต่างจากนักการเมืองชั่วนักการเมืองเลวใช้เช่นกัน