วอลุ่มหาย
*แรงเทขายที่มีออกมาเป็นระยะในหุ้นกลุ่มบลูชิพทำให้รู้ว่า บรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ไม่ค่อยดี นักเล่นถึงพากันขายหุ้นเพื่อไปรับในราคาที่ต่ำกว่า บวกกับมูลค่าการซื้อขายเบาบางลงตลอดเวลา ย่อมสร้างแรงกดดันให้กับคนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ต และทางเลือกที่ดีที่สุดในเที่ยวนี้คือพยายามขายหุ้นออกมาเมื่อเห็นท่าไม่ดี ! จึงไม่มีความจำเป็นต้องหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นตกหรอกนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*แรงเทขายที่มีออกมาเป็นระยะในหุ้นกลุ่มบลูชิพทำให้รู้ว่า บรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ไม่ค่อยดี นักเล่นถึงพากันขายหุ้นเพื่อไปรับในราคาที่ต่ำกว่า บวกกับมูลค่าการซื้อขายเบาบางลงตลอดเวลา ย่อมสร้างแรงกดดันให้กับคนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ต และทางเลือกที่ดีที่สุดในเที่ยวนี้คือพยายามขายหุ้นออกมาเมื่อเห็นท่าไม่ดี ! จึงไม่มีความจำเป็นต้องหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นตกหรอกนะคะ
*ในเมื่อของมันเห็นกันโต้ง ๆ กองทุนทำแสบ..ฝรั่งขี้นกทำเจ็บ ดัชนีเลยประคองตัวไม่ไหว ! จนสุดท้ายต้องลงเอยที่ระดับ 1,689.49 จุด ลบไป 4.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.64 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให้แมงเม่าได้เรียนรู้ว่า โลกของการลงทุนไม่แน่นอนเลยสักอย่าง หุ้นที่มาด้วยปัจจัยพื้นฐานล้วน ๆ ไม่อาจต้านแรงขายที่มาด้วยความตระหนกนะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ถึงมองว่า การเคาะขวาเบา ๆ ไปก่อนดีสุด เพราะไม่ต้องกังวลกับเรื่องต่าง ๆ ที่ประเดประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน รวมทั้งหุ้นเกือบทั้งตลาดก็ติดกรอบเดิมกันทั้งนั้น จึงทำให้ผู้คนถอยออกมาตั้งหลักนอกตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก เพราะดันเอาปัจจัยภายนอกมาเป็นธงนำในการเคาะขวา ภาพการเล่นหุ้นของตลาดหุ้นไทยถึงดูพิลึกพิลั่นชอบกลไงล่ะคะ
*ขนาดเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ PTT คือหุ้นที่มีแวลูสูงกว่าที่เทรดวันนี้ค่อนข้างเยอะ แต่ดันมีแรงเทขายออกมาตลอดเวลา จนหุ้นไหลลงมายืนปิดที่ 50 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.06 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นกระบวนการทางความคิดที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงค่อนข้างเยอะก็จริง แต่ราคาหุ้นบริเวณนี้ถือเป็นจุดที่น่าลงทุนสุด ๆ นะคะ
*คล้ายคลึงกับกรณีของ BEAUTY ที่ขึ้นมายืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 11.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.42 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการสู้กันระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย และผลลัพธ์ที่ได้จากเที่ยวนี้คือ แรงซื้อน้อย ! หุ้นถึงไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 11.60 บาทขึ้นไปได้ แต่วันนี้ยังมีโอกาสแก้มืออีกครั้ง เพราะหุ้นยังอยู่ในโพสิชั่นที่ค่อนข้างดี จึงแจ้งมาเพื่อทราบ..อิอิอิ
*อีกรายที่ต้องลุ้นหนักอย่างเช่นหุ้น KBANK อาจมีผลลัพธ์ออกมาไม่สวยหรูสักเท่าไหร่ ? เพราะการที่หุ้นลงมายืนปิดที่ 208 บาท ลบไป 2 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 788 ล้านบาท มันเป็นการลงมายืนบนเส้นแนวรับสุดท้ายพอดี ซึ่งอาจมีการเด้งกลับขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง หรืออาจทรุดตัวลงไปลึกกว่าเดิมก็ได้ เดี๊ยนถึงอยากให้จับตาการเคาะหุ้นวันนี้ให้ดีเป็นพิเศษเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ CBG กลับมาเล่นกันต่อแบบบ้าระห่ำ กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเล่นต้องหัดทำตัวให้ทันกระแส (ถ้าคิดจะเล่น) เพราะเดี๊ยนยังไม่รู้เลยว่า การขึ้นเที่ยวนี้มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งผลงานในปีนี้จะเข้าเป้าเหมือนที่เคยฝอยไว้หรือเปล่า ? จึงไม่อยากคอมเมนต์อะไรมากมายไปกว่านี้ หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่ 54.25 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 526 ล้านบาทแล้วนะซี
*คล้ายกับการขึ้นมาของหุ้น ASIAN ถูกดันกลับขึ้นมาอย่างร้อนแรงด้วยสตอรี่กำไรโต ทั้งที่เห็นกันเต็มสองลูกตาโต ๆ มีโอกาสเป็นไปได้ยากเหลือเกิน แต่นักเล่นก๊วนต่าง ๆ กลับกระโจนใส่มือเป็นระวิง จนสุดท้ายหุ้นขึ้นมาปิดที่ 9.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 217 ล้านบาท มันเป็นเกมล่อแมงเม่าเข้าไปติดกับดักเหมือนรอบก่อนแน่ ๆ พะยะค่ะ
*ผิดกับในรายของ BCH อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้มาด้วยค่าตัวสูงกว่าหุ้นทั่วไป ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาหุ้นเป็นขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งการเทรดของหุ้นย้อนหลังก็อยู่บนค่า P/E 49 เท่า “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 19.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 493 ล้านบาท เพราะวันนี้ยังเทรดอยู่แค่ระดับ P/E 45 เท่า..งานนี้จะบอกว่า เครดิตดีก็คงไม่ผิดเพี้ยนหรอกค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ECF มีสตอรี่เกี่ยวกับเข้าช่วงไฮซีซั่นของการทำธุรกิจ ผนวกกับธุรกิจพลังงานยังไปได้สวย ผสานกับมีแผนนำบริษัทลูกเข้าตลาดหุ้นในอนาคต เลยกลายเป็นหุ้นที่มีซ่อนแวลูไว้เยอะพอสมควร จึงกลายเป็นหุ้นที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีใครสนว่า พี/อีของหุ้นจะอยู่ระดับไหน ? จึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 8.45 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 179 ล้านบาทแบบชิว ๆ เจ้าค่ะ
*คล้ายกับตัว CHAYO ทะยานขึ้นด้วยมุมข่าวเติบโตเป็นหลัก หุ้นถึงขึ้นอย่างแข็งแกร่งเป็นเวลานาน จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 4.74 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นน้องใหม่ไฟแรงที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย หากทำได้เหมือนกับที่ออกข่าวกันปาว ๆ ราคาหุ้นน่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกพอสมควร แต่เผอิญเหลือบเห็นค่า P/E 40 เท่าเสียก่อน..เลยอยากให้คุณ ๆ ท่าน ๆ ตัดสินใจกันเอาเองนะจ๊ะ