เป้าถัดไป 1,520 จุด!โมนิก้าและทีมงาน

*หากติดตามดูสถานการณ์ของดัชนีในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า จังหวะที่ดัชนีทะยานขึ้นทีไร มักทะยานขึ้นแรงเป็นประจำ ส่วนจังหวะที่ดัชนีอ่อนตัวลงแรง มักทรุดตัวลงนานเป็นประจำ สุดท้ายดัชนียังคงวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,480-1,520 จุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นักลงทุนต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ นะจะบอกให้


*หากติดตามดูสถานการณ์ของดัชนีในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า จังหวะที่ดัชนีทะยานขึ้นทีไร มักทะยานขึ้นแรงเป็นประจำ ส่วนจังหวะที่ดัชนีอ่อนตัวลงแรง มักทรุดตัวลงนานเป็นประจำ สุดท้ายดัชนียังคงวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,480-1,520 จุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นักลงทุนต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ นะจะบอกให้

*เมื่อกระแสการลงทุนออกมาในโทนลุยซื้อต่อไปอย่างไม่ลดละ กองทุนขี้ตืดกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิในบางวันปอบผีฟ้าเริ่มผ่อนแรงเทขาย ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวยังซื้อๆ ขายๆ ต่อไป ขณะที่แมงเม่าเริ่มหันมาใช้วิธี “แย็บแล้วถอย” ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลพอสมควร ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้คึกคักเสียเหลือเกิน ผู้เล่นก๊วนต่างๆ ล้วนมองว่า “จุดต่ำสุด” ได้ผ่านพ้นไปแล้วไงล่ะค่ะ

*วานนี้ถึงกลับมาไล่ซื้อหุ้นบลูชิพกันอย่างเมามัน จนดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,514.81 จุด บวกไป 10.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ “โมนิก้า” มองเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 1,520 จุดในทันที หากวันนี้แรงซื้อหนาแน่นเพียงพอ และสามารถพลิกแนวต้านเป็นแนวรับได้อย่างง่ายดาย ย่อมทำให้ขวัญและกำลังใจของผู้เล่นเพิ่มขึ้นเป็นกองเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ BTS  ซึ่งไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ แต่เพียบพร้อมไปด้วยความมั่นคง และยังเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ชอบพูดเปิดหัวเป็นประจำนั้น อันที่จริงมันเป็นผลมาจากสถานการณ์หลายอย่างสงบเรียบร้อย แถมราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปเยอะแล้ว หุ้นเลยมี downsideจำกัด วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าที่หนาแน่น มันเป็นจังหวะต้องตามน้ำแล้วล่ะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ขึ้นมาด้วยความเชื่อมั่นที่ล้นปรี่ บวกกับกระแสตลาดยกให้เป็นหุ้นที่น่าลงทุน TPIPLถึงขยับขึ้นมาปิดที่ 2.96บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.60 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นห้วงเวลาที่ทุกอย่างกลับมาเป็นใจ งานนี้ถ้ามองด้านบวก ต้องเล่นมุขมูลค่าทางบัญชี 2.89 บาท หุ้นถึงมีแก๊ปวิ่งอีกเยอะ ถ้ามองเรื่องนี้เป็นด้านลบ ต้องมองไปที่ค่า P/E ที่ 40 เท่า ลองไปคิดกันดูเจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวโยงไปถึง KBANKทะยานขึ้นมาปิดที่ 205 บาท บวกไป 5 บาท ถือเป็นบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น ยกเว้นมองในมุมของหนี้ที่รอการปรับโครงสร้างอาจกลับมาเป็น NPLพรายกระซิบถึงกับกระตุกแขนเสื้อเดี๊ยนในทันที พร้อมกับเอ่ยปากแบบแผ่วเบาว่าอย่าพูดดังไป! เพราะเจ้านี้มีความเสี่ยงเป็นอันดับ 2 รองจากในรายของ KTBซึ่งคนในแวดวงเงินๆ ทองๆ ต่างรู้ดี แบงก์รายหลังมีอะไรที่ซุกไว้ใต้พรมเยอะพอสมควร หุ้นถึงขยับขึ้นมาปิดได้แค่ระดับ 18.10 บาท บวกไป 0.10 บาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของหุ้นรับเหมาก่อสร้างอย่าง STEC เดี๊ยนมองเป็นอะไรที่อินกับกระแสมากๆ การทะยานขึ้นของหุ้นถึงอาศัยแต่แรงซื้อจากกองทุนเพียวๆ ไม่มีอะไรต้องคิดให้ซับซ้อนจากที่เห็นกันอยู่ ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 23.80บาท บวกไป 1.10บาท หรือขึ้นไป 4.85% “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่แมงเม่าต้องทำความเข้าใจ เพื่อหาทางหนีทีไล่หากกองทุนเกิดเปลี่ยนใจเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ SAMART เริ่มราคาตั้งแต่ตอนที่ย่ำต๊อกต๋อยแถว 25 บาท เมื่อเดือนสิงหาคม 57 หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นมาทำ new highที่ระดับ 45 บาท  ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 58 ต่อจากนั้นราคาหุ้นก็รูดลงอย่างเดียวเหมือนกัน จนเมื่อวันก่อนลงมาทำ new lowที่ระดับ 24.50 บาท ขณะที่ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 27 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 8% หวังว่า คุณๆ ท่านๆ ควรทำอย่างไรนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นประกันภัย TSIบัดนี้ได้สวมวิญญาณดาวรุ่งผีพุ่งใต้อย่างเต็มตัว จนกลายเป็นของแสลงสำหรับเดี๊ยนไปเสียแล้ว ช่วงไหนบรรยากาศดีๆ มักออกมาโชว์พาวเวอร์ด้วยการดันหุ้นแรงๆ พอเสร็จสมอารมณ์หมายก็ปล่อยให้แฟนคลับอารมณ์ค้างไปตามกัน ล่าสุดมีมือดีเข้ามาปลุกอารมณ์ด้วยการดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.17บาท บวกไป 0.17บาท หรือขึ้นไป 17% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท เลยทำให้ขาลุยตาลุกวาว เพราะก่อนหน้านี้เคยวิ่งขึ้นไปถึง 1.50 บาทนะซี

*สถานการณ์ข้างต้นเหมือนกับ LHBANK  ทุกระเบียดนิ้ว ก่อนหน้านี้โดนถล่มจนเสียศูนย์อย่างไร วันนี้ทุกคนลืมเรื่องราวดังกล่าวไปหมดสิ้นแล้ว จึงไม่มีอาการลังเลใจที่จะกระโจนเข้ามาไล่ราคา วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.84บาท บวกไป 0.11บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 280 ล้านบาท แถมเป็นการบวกติดต่อกัน 2 วัน จึงเชื่อว่าจะบวกติดต่อเป็นวันที่ 3  เจ้าค่ะ

*ป.ล.วันนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้วว่ากองทุนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้หุ้นหลายตัวขึ้นแรง และก่อนหน้านี้ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้หุ้นหลายตัวลงแรง แมงเม่าอย่าหลงไปเล่นเกมของคนอื่นเป็นอันขาดนะจ๊ะ

Back to top button