น่ากังขากรมสรรพากร

ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

อย่างนี้ก็มีด้วยหรือที่กรมสรรพากรตัดสินใจให้ร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น รับมอบหน้าที่เป็น “เคาน์เตอร์ เซอร์วิสในเมือง” ให้บริการคืนภาษีมูลค้าเพิ่มหรือแวตแก่นักท่องเที่ยว

เป็นการตัดสินใจที่แปลกแตกต่างเอามาก ๆ เพราะไม่เคยพบเคยเห็นในประเทศใดมาก่อน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ก็คงจะมีแค่ประเทศไทยนี่แหละ ที่คืนแวตกันในร้านค้าสะดวกซื้อ

เคาน์เตอร์ เซอร์วิส คืนแวตแก่นักท่องเที่ยวในเมืองที่เจริญก้าวหน้าที่สุดและสะดวกที่สุด ก็เห็นจะเป็นประเทศญี่ปุ่น ที่มีการคืนภาษีกันในห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้ากันเลย

ประเทศไทย ริจะกวาดต้อนรายได้จากการช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยว ก็ควรจะเอาตัวอย่างดี ๆ มาจากญี่ปุ่น ไม่ใช่ทำอะไรให้คนสงสัยว่ามีอะไรเคลือบแคลงหรือไม่ในการตัดสินใจเช่นนี้

การคืนภาษีนักท่องเที่ยว ณ จุดช็อปปิ้งเลยตามข้อเสนอของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ เพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว คือรับเงินคืนมัน ณ จุดช็อปปิ้งเลย ไม่ต้องหอบสินค้าไปเร่หาร้านสะดวกซื้ออีก

การขอคืนแวตมันต้องมีจำนวนเงินขั้นต่ำที่มากพอ การซื้อของกระจิ๊บกระจ๊อยในร้านสะดวกซื้อ เอาไปเคลมภาษีไม่ได้หรอก ไม่รู้ผู้บริหารกรมสรรพากรเอาอะไรคิดก็ไม่รู้

อีกประการหนึ่ง สภาพหรือลักษณะของร้านสะดวกซื้อจะมีพื้นที่ที่เล็กมาก ในขณะที่มีคนซื้อสินค้าย่อย ๆ จำนวนมาก แทบจะเรียกได้ว่าพลุกพล่านด้วยซ้ำ

ผิดกับการตั้งเคาน์เตอร์ตามห้าง ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางกว่ามาก และสามารถจะจัดระเบียบการให้บริการได้ดีกว่าร้านสะดวกซื้อที่เล็กและคับแคบเป็นอันมาก

คิดได้ไงอ่ะ จะเอานักท่องเที่ยวต่างชาติไปปะปนกับคนซื้อบุหรี่ สบู่ ผงซักฟอก

โครงการคืนภาษีนักท่องเที่ยวในเมืองเป็นดำริที่ดี ที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว นำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นอีก และเมื่อนักท่องเที่ยวทำเรื่องคืนภาษีไปแล้ว ก็อาจจะช็อปปิ้งต่อได้ทันทีในเมื่อยังมีเวลาพำนักเหลืออยู่

ที่สำคัญก็คือโครงการนี้ มีการปรึกษาหารือกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า 3-4 กลุ่มในนามบริษัท แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์มาโดยตลอด

แต่จู่ ๆ บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยบริษัท ซีพี ออลล์ก็โผล่เข้ามา แล้วมาสร้างปรากฏการณ์ที่ผ่าเหล่าผ่ากอ คือเอาเคาน์เตอร์ เซอร์วิส คืนแวตนักท่องเที่ยวมาไว้กับเคาน์เตอร์ เซอร์วิสร้านสะดวกซื้อที่มีไว้สำหรับจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

คิดได้ยังไง ผิดวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์เป็นอันมาก

การอ้างว่า บริษัท แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ เสนอจุดคืนภาษีมา 5 จุด ซึ่งเกินกว่าข้อกำหนดที่ให้มีแค่ 3 จุด ก็ไม่ใช่เป็นประเด็นอะไรที่มีความสลักสำคัญเลย

จะ 3 จุดหรือ 5 จุดมันก็เป็นแค่รายละเอียด หาใช่เนื้อหาไม่ จริง ๆ แล้ว ควรจะตั้งมันทุกห้างในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปจับจ่ายใช้สอยด้วยซ้ำ

การตัดสินใจของกรมสรรพากรในเรื่องเคาน์เตอร์เซอร์วิสคืนแวตนักท่องเที่ยว กลายเป็นการแปลงสารจากเจตนารมณ์เป็นอันมาก

มันจะทำให้ของดี ๆ กลายเป็นของเสีย หรือ “เสียของ” ไปเลย

ยิ่งผู้คนเขานินทากันให้แซ่ดอยู่ว่า รัฐบาลนี้เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนใหญ่รายนี้ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนปักใจเชื่อเช่นนั้นยิ่งขึ้น ไม่น่าจะโหยหิวอะไรกันซะขนาดนี้เลย