S ก้าวใหม่โตระยะยาว
เมื่อช่วงไตรมาส 2/2561 ที่ผ่านมา บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S นับว่ามีการส่งสัญญาณออกมาเชิงบวกชัดเจน ว่าบริษัทกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะสามารถพลิกมีกำไร 411.87 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 61.50 ล้านบาท
คุณค่าบริษัท
เมื่อช่วงไตรมาส 2/2561 ที่ผ่านมา บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S นับว่ามีการส่งสัญญาณออกมาเชิงบวกชัดเจน ว่าบริษัทกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะสามารถพลิกมีกำไร 411.87 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 61.50 ล้านบาท
ขณะที่งวดหกเดือนส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นไปอีก ด้วยกลับมาพลิกมีกำไร 663.54 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 28.02 ล้านบาท
นี่จะเป็นก้าวใหม่ของ S ที่จะกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน!!
และล่าสุด บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า บริษัท เอส รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยบริษัทถือหุ้น 99.99% อยู่ระหว่างดำเนินการก่อตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท (SPRIME) เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ของอาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส ซึ่งบริษัท แม็กซ์ ฟิวเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เป็นเจ้าของทรัพย์สิน
ทั้งนี้ บริษัท เอส รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมร่างหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยทรัสต์ SPRIME ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561
สิ่งสำคัญก่อนหน้าทางบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) มีการลงทุนเพิ่มเพื่อช่วยให้บริษัทเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต ด้วยการลงทุนโครงการอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า (โครงการ OASIS) มูลค่าการลงทุนรวม 3,695 ล้านบาท โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 7 ไร่ ภายใต้สัญญาเช่าระยะยาว บนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงและมีการเติบโตของอาคารสำนักงานที่ต้องการขยายพื้นที่ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วน และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และสถานีรถไฟฟ้า BTS
สำหรับโครงการ OASIS มีความสูงของอาคารสำนักงานทั้งสิ้น 36 ชั้น โดยมีพื้นที่ให้เช่า (NLA) ประมาณ 53,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นพื้นที่สำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกบางส่วน ทั้งนี้จะใช้เวลาในการพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปีนับตั้งแต่ต้นปี 2562
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกิจการให้เช่าสำนักงานคุณภาพสูงมีอุปทานที่จำกัดและมีการเติบโตของอุปสงค์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้การลงทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัทในอนาคต โดยจะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัท และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว
ประกอบกับก่อนหน้านี้บริษัทเปิดตัวโครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” ย่านประดิษฐมนูธรรม ที่สุดแห่งความเอ็กซ์คลูซีฟของบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่อย่างเป็นทางการ ด้วยมูลค่าโครงการรวม 6.5 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของสิงห์ เอสเตท ในการก้าวขึ้นสู่การเป็น Leading Premier Brand อย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่มีความต้องการและกำลังซื้อสูง กับสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนเพียง 25 หลัง ในราคาเริ่มต้น 245 ล้านบาท
รวมถึงช่วงที่ผ่านมาทางบริษัท เอส เรสซิเดนเชียล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (SRD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ได้เข้าลงนามในสัญญาร่วมทุนกับบริษัท DH Asia Investment Orchid PTE. LTD. (DHO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น โดยบริษัท Daiwa Housing Industry Company Limited (Daiwa Group) ในสัดส่วนร้อยละ 100 เพื่อร่วมลงทุนในบริษัท เอส 43 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (S43) เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury บนถนนสุขุมวิท 43 (โครงการ EYSE Sukhumvit 43)
ดังนั้นด้วย S เดินหน้าขยายงานมาอย่างต่อเนื่องนับจากเริ่มช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยเสริมทัพให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องในอนาคตนั่นเอง
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- บริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด 2,411,458,977 หุ้น 35.18%
- นายสันติ ภิรมย์ภักดี 1,580,104,278 หุ้น 23.05%
- MORGAN STANLEY & CO. INTERNATIONAL PLC 398,716,237 หุ้น 5.82%
- CREDIT SUISSE FIRST BOSTON (SINGAPORE) LIMITED200,000,000 หุ้น 2.92%
- UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED – Client Account 175,003,600 หุ้น 2.55%
รายชื่อกรรมการ
- นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการ
- นายชญานิน เทพาคำ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
- นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
- นายณัฎธ์วัฒน์ ศิลปะวิทยกุล กรรมการ
- นางนภาภรณ์ ลัญฉน์ดี กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ