ดาวโจนส์ทำพิษ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ขอเบรกอารมณ์นักลงทุนที่กำลังรู้สึกห่อเหี่ยวสุด ๆ หลังจากดัชนีดาวโจนส์รูดมหาราชไปกว่า 800 จุดเมื่อคืนก่อน จนกลายเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไทยรูดลงมาปิดที่ 1,682.89 จุด ลบ 38.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.28 หมื่นล้านบาท ด้วยเรื่องขึ้นทะเบียนพร้อมกับเก็บภาษีหมาแมวตัวละ 450 บาท หากไม่ทำตามเสียค่าปรับจำนวน 25,000 บาท มันทำให้ชาวเน็ตลุกฮือต่อต้าน พร้อมกับยิงคำถามใส่รัฐบาลเป็นชุดว่า ใช้อวัยวะส่วนไหนคิด ?

*เนื่องจากลืมคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อีกมากมาย จึงกลายเป็นประเด็นล่อเป้าที่ทำให้ทุกภาคส่วนรวมกันสหบาทากันสนุกสนาน โดยเฉพาะประเด็นขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง..ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ แต่ทันทีที่มีการเรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้น ทุกคนเลยมองรัฐบาลถังแตกแล้วแน่ ๆ ถึงมาขูดเลือดขูดเนื้อกับคนหาเช้ากินค่ำแบบง่าย ๆ ไงล่ะคะ

*ประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า คนที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวายจนเกิดดราม่าทุกหย่อมหญ้า มักมาจากคนที่ชอบคิดอะไรตื้นเขินเกินไป ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ในแวดวงตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นในยามนี้ มีประเด็นที่ต้องติดตามหลายเรื่องด้วยกัน “โมนิก้า” ในฐานะคนที่ชอบทานเผือกเป็นประจำ เลยเงี่ยหูฟังเรื่องเม้าท์แตกที่บรรดาแมงลือซุบซิบนินทาอย่างใจจดใจจ่อนะจะบอกให้

*ร้อนแรงแซงทางโค้งคงเป็นเรื่อง กกพ. มีมติสั่งห้ามดีลของ GPSC เทกโอเวอร์ GLOW มูลค่าแสนล้านบาท พร้อมให้เหตุผลการแข่งขันธุรกิจด้านพลังงานผูกขาดมากเกินไปเป็นธงนำแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นการหาทางลงที่สวยงาม เพื่อป้องกันข้อครหาดีลมีนอกมีใน หลังจากขาเผือกในแวดวงพลังงานป้องปากเม้าท์ ดีลนี้ไม่ก่อประโยชน์อะไรทั้งสิ้นพะยะค่ะ

*เมื่อดีลไม่ดันเหมือนที่บางคนคาดหวัง บรรดาผู้เล่นเลยพากันทิ้งหุ้นอุตลุดตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้น GLOW ลงมากองอยู่ที่ระดับ 82.25 บาท ลบไป 5.25 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาทแบบง่ายดาย ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะแวลูของหุ้นจริง ๆ น่าจะอยู่แค่ระดับ 72-75 บาท (ทุกปีเทรดบนพี/อี 12-13 เท่า) เดี๊ยนถึงอยากเตือนสติคนที่จะเข้าไปเล่นหุ้นตัวนี้ว่า สตอรี่หมดแล้ว..หุ้นคงนิ่งอีกนาน นะจ๊ะ

*ส่วนฝั่งของผู้ซื้ออย่าง GPSC ราคาหุ้นไหลซึมลงมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นปี แต่เพิ่งลงหนักในช่วงที่ประกาศดีลเทกโอเวอร์แสนล้าน หลังผู้สัดทัดกรณีมองดีลดังกล่าวไม่คุ้มค่า เพราะต้องแบกรับภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก แถมยังต้องเผชิญกับการไดลูทของราคาหุ้นลงครึ่งหนึ่ง..เมื่อเรื่องดังกล่าวถูกปัดทิ้งลงจากโต๊ะอย่างเป็นทางการ ราคาหุ้นถึงเด้งขึ้นจากระดับ 65.50 บาท ขึ้นมาปิดที่บริเวณ 67 บาท ลบไป 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 693 ล้านบาทเจ้าค่ะ

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงเรื่องที่เคลียร์ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเบนเข็มไปหาหุ้น CBG เพื่อทำให้แฟนคลับพิจารณาถึงความเสี่ยงในการเข้าไปรับหุ้นในช่วงโค้งตัวลงหลายวันติดต่อกันนั้น ! คุ้มจริงไหม ? โดยเฉพาะในช่วงที่ฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นทิ้งอย่างไม่ดูดำดูดี  แถมกองทุนตัวแสบหันมาใช้จังหวะถอยรับหุ้นเป็นหลักแบบนี้ เดี๊ยนถึงต้องถามการลงมาปิดที่ 47 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท ใช่จุดต่ำสุดหรือยัง ?

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับหุ้น RS โดนเทขายออกมาเรื่อย ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่หุ้นกำลังใช้ความพยายามวิ่งฝ่าแนวต้านสำคัญบริเวณ 22 บาท แต่วานนี้หุ้นกลับลงมายืนปิดที่ 18.40 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 300 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูง เพราะหุ้นอยู่ในทิศทาง sideway down อย่างเต็มตัวแล้วนะซี

*เช่นเดียวกับการหลุดเส้นแนวรับ 25 วันของหุ้น SUPER มันทำให้โพสิชั่นของหุ้นดูไม่ดีเอาเสียเลย บวกกับสถานการณ์ของหุ้นบีบบังคับให้ทุกคนต้องชอร์ตหุ้นออกมาก่อนกระมั้ง ! วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 0.78 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 392 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงสงสัยว่า เที่ยวนี้คงต้องไปรอรับแถวบริเวณ 0.70 บาทอีกรอบเสียแล้วเจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของหุ้น QH ไหลลงมาแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย จากหุ้นที่เคยมีราคาค่างวดอยู่ที่ระดับ 3.60 บาท วันนี้ราคาหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 3.14 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 280 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการ “ขายบน รับล่าง” เหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และจุดที่น่ามองสุดเที่ยวนี้ก็อยู่แถวบริเวณ 3 บาท จึงอยากให้แฟนคลับคิดกันเอาเองว่า จุดนี้น่าทยอยเก็บหรือยัง ?

*ป.ล. วันนี้คงต้องโฟกัสไปที่ดัชนีดาวโจนส์ลงหนักแค่ไหน ? เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ฝรั่งขายหุ้นออกมาเยอะเท่ากับวานนี้ที่ทิ้งออกมา 1.05 หมื่นล้านบาทหรือเปล่า ? รวมทั้งกองทุนตัวแสบจะเข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้นหรือเปล่า ? เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดนะจ๊ะ