‘ณพ’ ตัวการ.? รอยแตกร้าว ‘ณรงค์เดช’

ตอกย้ำหัวหมุด “รอยแตกร้าว” ในตระกูล “ณรงค์เดช” ชัดเจนขึ้นมาอีก เมื่อ “ณพ ณรงค์เดช” ยื่นฟ้องศาลแพ่ง “ข้อหาละเมิดและใช้สิทธิโดยไม่สุจริต” กับบริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด (KPNH) รวมกับพวก นั่นหมายถึงพี่น้องร่วมสายเลือด อย่าง “กฤษณ์ ณรงค์เดช” (พี่ชาย) กับ “กรณ์ ณรงค์เดช” (น้องชาย) และบริษัท เคพีเอ็นแลนด์ จำกัด (KPNL) ร่วมเป็นจำเลยด้วย.!?


สำนักข่าวรัชดา

ตอกย้ำหัวหมุด “รอยแตกร้าว” ในตระกูล “ณรงค์เดช” ชัดเจนขึ้นมาอีก เมื่อ “ณพ ณรงค์เดช” ยื่นฟ้องศาลแพ่ง “ข้อหาละเมิดและใช้สิทธิโดยไม่สุจริต” กับบริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด (KPNH) รวมกับพวก นั่นหมายถึงพี่น้องร่วมสายเลือด อย่าง “กฤษณ์ ณรงค์เดช” (พี่ชาย) กับ “กรณ์ ณรงค์เดช” (น้องชาย) และบริษัท เคพีเอ็นแลนด์ จำกัด (KPNL) ร่วมเป็นจำเลยด้วย.!?

คำฟ้องของ “ณพ” ระบุว่า KPNL อนุมัติขายทรัพย์สินและกิจการมูลค่า 4,000 ล้านบาทให้บริษัท ไรมอนแลนด์ จำ กัด (มหาชน) หรือ RML กระทำการผ่าน “กระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” มีเจตนาแสวงประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่น จงใจปกปิดซ่อนเร้นข้อมูลการดำเนินการ เพื่อมิให้ “ณพ” ที่เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น KPNH และ KPNL ได้ใช้สิทธิตรวจสอบจนทำให้เกิดความเสียหาย

นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการแตกร้าว..เพราะก่อนหน้านี้ “ณพ” มีคดีความฟ้องร้องกับพ่อตัวเองมาแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาด้วย สาเหตุเกิดจากเมื่อ “นพพร ศุภพิพัฒน์” ฟ้องอายัดหุ้นบริษัท วินด์เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้งส์ จำกัด (WEH) ที่ “ณพ” โอนไปหลบไว้ที่ฮ่องกงในชื่อ Golden Music (ของดร.เกษม ณรงค์เดช) พ่อของณพ ประมาณ 40% ของหุ้นทั้งหมด ที่ขอซื้อมาและชักดาบไปแล้ว

ทว่า “ณพ” กลับเล่นแง่ทางกฎหมายเพื่อไม่ให้ศาลฮ่องกงสั่งระงับการจำหน่ายจ่ายโอน โดยบอกว่าหุ้นส่วนนี้ทั้งหมดจริง ๆ แล้วไม่ใช่หุ้นของ “ดร.เกษม” หรือครอบครัวณรงค์เดช พ่อตัวเองเป็นแค่นอมินี เข้ามาถือหุ้นแทนคนอื่นเท่านั้น.!

คนอื่นที่ว่านี้คือ “คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา” (คุณนายอดีตอธิบดีตำรวจพล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา) แม่ยายของณพ..นั่นเอง..!

“ณพ” บอกว่า เหตุที่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แต่ต้นว่า “คุณหญิงกอแก้ว” เป็นเจ้าของหุ้น WEH ที่แท้จริง เพราะไม่อยากให้แม่ยายตัวเอง ต้องมีชื่อมาเกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาเรื่องซื้อขายหุ้น WEH ที่ต้องบอกว่า…นับวันก็ยิ่งฉาวและคาวมากขึ้นทุกที

หากเรื่องที่ “ณพ” พูดเป็นเรื่องจริง งานนี้ต้องบอกว่า “ณพ” นายแมนมาก ปกป้องชื่อเสียงแม่ยายสุดชีวิต โดย “ยอมบูชายัชื่อเสียงพ่อบังเกิดเกล้า” เพื่อไม่ให้แม่ยายต้องมาแปดเปื้อนด้วย..โอ้ว..ลูกเขยดีเด่น ลูกเขย 2018 อย่างแท้จริง..!?

แต่ข้อเท็จจริงคือ “ดร.เกษม” แม้ไม่ได้เสน่หาหุ้น WEH  เลย แต่ดูเหมือนสถานการณ์พาไป..ด้วยความที่ลูกชายคนกลาง (ลูกเขยดีเด่นของคุณหญิงกอแก้ว) ดันนำบริษัทของครอบครัว ไปสร้างหนี้ไว้อย่างน้อย 2,000 ล้านบาท ตอนใช้ “เคพีเอ็น” ออกหุ้นกู้เพื่อระดมเงิน มาจ่ายค่าหุ้นงวดแรกให้ “นพพร” ประมาณ 3,000 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือก็ไปขอหยิบยืมมาจากคนมีหน้ามีตาในสังคม แว่ว ๆ มาว่า เป็นหุ้นใหญ่ฝั่งไทย ในสายการบินต้นทุนต่ำจากเกือบปลายแหลมมลายู โดยใช้นามสกุลที่พ่อแท้ ๆ ให้มาแต่กำเนิด เป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพชื่อชั้นและอาจมีการใช้เงินบางส่วนจากวินด์เอ็นเนอร์ยี่ฯ มาใช้ในการซื้อหุ้นด้วย เพราะอย่าลืมว่า “ณพ” ได้รับโอนหุ้นมาทั้งหมดก่อนหน้านั้นแล้ว..นั่นหมายถึงยึดอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเรียบร้อยแล้ว

เมื่อ “ณพ” ออกมาพูดเช่นนี้..ทำเอาพ่อ พี่ชายและน้องชาย อยู่ไม่ติด..! จึงเกิดปรากฏการณ์ “ลากไส้” เกิดขึ้น จนพบว่า “ณพ” คนนี้ไม่ได้เพียงแค่กล่าวอ้างว่า “หุ้น WEH เป็นหุ้นของแม่ยาย ส่วนพ่อบังเกิดเกล้าเป็นแค่นอมินี” แต่หึ่ง ๆ มาอีกว่า “ณพ” เล่นได้สมจริงสมจังมาก “เพราะแว่ว ๆ มาอีกว่า ถึงขั้นปลอมลายเซ็นพ่อ ในสัญญาระหว่างคุณหญิงกอแก้วกับดร.เกษม” (อุ๊ยตาย..ว้ายกรี๊ด ๆ ๆ)

โดยระบุทำนองว่า “ฉันเป็นเจ้าของเงิน (เจ้าของหุ้น) เธอเป็นตัวแทนให้ใช้ชื่อถือหุ้นแทนฉัน”…ฝั่งคนเป็นพ่อยืนยันว่าไม่เคยเซ็นสัญญากับคุณหญิงฯ พูดชัดว่าเป็นการปลอมลายเซ็นย้อนหลัง (แบ็กเดต)…เรื่องปลอมไม่ปลอม เท็จจริงประการใดตรวจสอบกับกองพิสูจน์หลักฐานได้

ตั้งเป็นข้อสังเกตว่าชื่อ “คุณหญิงกอแก้ว” โผล่ขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาของ “ณพ” ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าเป็นเปลาะ ๆ ไป

นี่เป็นที่มาของจุดเริ่มต้นการฟ้องร้องคดีความของคน “ตระกูลณรงค์เดช” คงสร้างความทุกข์ใจให้กับคนเป็นพ่อไม่น้อย

ยิ่งมาทะเลาะกับพี่น้อง ฟ้องร้องกันเพิ่มเติมอีก เหมือนยิ่งตอกย้ำว่า “ณพ” อยู่คนเดียวโดด ๆ เต็มตัว ปราศจากความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวแล้ว และแบบนี้จะไม่ยิ่งตกที่นั่งลำบากมากขึ้นในการหาเงินไปจ่ายค่าหุ้น WEH ที่เหลือหรืออย่างไร เพราะเห็นว่างวดล่าสุด..หลังมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มเติม (ตามสัญญา) ก็ผิดนัดชำระไปซะแล้ว..!?

น่าจับตาว่า..ความแตกร้าวของ “ตระกูลณรงค์เดช” ครั้งนี้ อาจทำให้ดีลขายสินทรัพย์ทั้ง 2 แห่งของตระกูลฯ ให้ RML ยืดเยื้อ ล่าช้าหรืออาจล่มได้เช่นกัน..แม้ผู้ถือหุ้น RML เพิ่งยกมือไฟเขียวดีลนี้ แบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม.!!??

….อิ อิ อิ…

Back to top button