‘ไอพีโอ’ เริ่มคึกคัก

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

นับจากกลางเดือนตุลาคมนี้มี “หุ้นไอพีโอ” เข้าซื้อขายรวม 5 หลักทรัพย์

เริ่มจากเมื่อวานนี้หุ้นโอสถสภา (OSP) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก

มีราคาเปิด 30.00 บาท เพิ่มจากราคาไอพีโอ (25.00 บาท) 20%

และต่อจากนั้น ราคาค่อย ๆ ปรับลงมาซื้อขายกันระหว่าง 28.00–28.75 บาท และลงมาปิด 27.25 บาท ตามแรงขายของนักลงทุนที่ได้หุ้นไอพีโอไปก่อนหน้านี้ บวกกับมีบิ๊กล็อตของ “นิติ โอสถานุเคราะห์” อีก 135.17 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 25.00 บาท

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโอสถสภา ถือว่าเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้

นั่นคือ ราคาไม่ได้เปิดแรงมากนัก เพราะหุ้นที่นำออกมาขายถึง 603.75 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 25 บาท (ระดมทุนได้ 1.30 หมื่นล้านบาท) ถือว่าค่อนข้าง “หนัก” เลยล่ะ

ดีนะที่ภาพรวมหรือบรรยากาศการซื้อขายเมื่อวานนี้ของตลาดหุ้นค่อนข้างสดใส

ส่วนแนวโน้มหุ้นของโอสถสภา มีบรรดาเซียน ๆ หุ้น และนักวิเคราะห์คาดกันไว้ว่า ราคาจะค่อย ๆ ปรับขึ้นไปเรื่อย ๆ

แต่ไม่ได้รวดเร็วอะไรมากนัก และมีช่วงที่ราคาอาจย่อลงมาบ้าง

หุ้นตัวนี้เหมาะกับคนชอบถือยาว ๆ มากกว่า

ย้ำกันอีกครั้งว่า โอสถสภามีแบรนด์สินค้าที่เป็นเรือธงคือเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม100

พี/อี ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 29.50 เท่า มาร์เก็ตแคป 7.5 หมื่นล้านบาท

ราคาปิดเมื่อวานนี้อยู่ที่ 27.25 บาท จะทำให้พี/อีขึ้นมาอยู่ที่ 32 เท่า พอ ๆ กับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่อยู่ที่ 31-32 เท่า ส่วนมาร์เก็ตแคปน่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 8.20 หมื่นล้านบาท

ราคาเป้าหมายเท่าที่เห็น มีของ บล.กสิกรไทย ให้ไว้ 28.50 บาท

ส่วนวันนี้ (18 ต.ค.) หุ้นไอพีโอที่จะเข้าซื้อขายอีกหลักทรัพย์คือ “บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส” หรือ BGC บริษัทลูกของบางกอกกล๊าส

BGC ออกหุ้นไอพีโอทั้งหมด 194.44 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 10.20 บาท  

ระดมทุนได้ 1.98 พันล้านบาท และมีระดับพี/อี หรือ Price to Earnings Ratio : P/E) อยู่ที่ 17.7 เท่า มีมาร์เก็ตแคปราว ๆ 7 พันล้านบาท

พี/อี 17.7 เท่านี้ ห่างจากค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (19 เท่า) ไม่มากนัก

แต่ด้วยความที่หุ้นที่นำออกขายไม่ได้มีจำนวนมากนัก จึงไม่ถือว่าหนักอะไร ทำให้ถูกประเมินว่า ราคาหุ้นน่าจะวิ่ง “ร้อนแรง” มากกว่าโอสถสภาพอสมควร

เงินที่ได้จากการระดมทุนบางส่วน จะถูกนำไปใช้หนี้ ซึ่งก็เหมือน ๆ กับโอสถสภานั่นแหละ

และวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.นี้ จะมีหุ้นเข้าซื้อขายอีก 1 หลักทรัพย์ เป็นหุ้นขนาดเล็ก เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai คือ “โซนิค อินเตอร์เฟรท” หรือ SONIC

SONIC ทำธุรกิจให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค

จำนวนหุ้นไอพีโอที่นำมาเสนอขายจำนวน 150 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.95 บาท

และอีก 30 ล้านหุ้นออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะเสนอขายให้กับผู้บริหารและพนักงานของ SONIC และบริษัทย่อย (ESOP Warrant) จำนวน 30 ล้านหน่วย มีกำหนดระยะเวลาใช้สิทธิไม่เกิน 5 ปี เสนอขายให้ผู้บริหารและพนักงานของ SONIC และบริษัทย่อย พร้อมกับช่วงที่เสนอขายหุ้นไอพีโอ

กำหนดอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ราคาการใช้สิทธิแปลงสภาพเท่ากับราคา IPO หรือ 1.95 บาท กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรกเมื่อครบกำหนด 2 ปี

เงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 20 ล้านบาท พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า 60 ล้านบาท ซื้อที่ดินและอาคารสำหรับอาคารสาขา 60 ล้านบาท ซื้อรถขนส่งสำหรับธุรกิจขนส่งทางบก 60 ล้านบาท

และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 76.19 ล้านบาท

เท่าที่อ่านไฟลิ่งดู ไม่นำไปชำระหนี้เงินกู้

มาร์เก็ตแคปของ SONIC ก่อนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะอยู่ที่ 1.13 พันล้านบาท

อีกหลักทรัพย์ที่จะเข้าซื้อขายวันแรกในเดือน ต.ค. คือ “ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง” (TIGER)

TIGER เสนอขายหุ้นไอพีโอ 122.28 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท/หุ้น เสนอขายในราคา 3.65 บาท/หุ้น กำหนดนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 24 ต.ค.นี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

บริษัทแห่งนี้ ทำธุกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company)

ปัจจุบันถือหุ้น 99.99% บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) ให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาอาคารและสาธารณูปโภค เช่น โครงการโรงแรมและรีสอร์ท, โครงการอาคารสำนักงานและอาคารอื่น ๆ เช่น คอนโดมิเนียม แนวราบ, โครงการสาธารณูปโภคและงานภาครัฐ สัดส่วนรายได้ 50%, โครงการและงานอื่น ๆ เช่น บ้านเดี่ยวราคาสูง

และงานให้บริการงานระบบภายในตัวอาคาร เช่น งานระบบปรับอากาศ และงานปรับปรุงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

มาร์เก็ตแคปของ TIGER ก่อนเข้าซื้อขายอยู่ที่ 1.67 พันล้านบาท 

และสุดท้ายคือ PR9 หรือโรงพยาบาลพระรามเก้า เข้าซื้อขายวันที่ 30 ต.ค.นี้

PR9 ขายไอพีโอไม่เกิน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ประกอบไปด้วย เสนอขายหุ้นไม่เกิน 167.5 ล้านหุ้นให้ประชาชนทั่วไป หุ้นละ 11.60 บาท และจัดสรรหุ้นจำนวนไม่เกิน 12.5 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหารที่เป็นผู้ก่อตั้งของบริษัทที่หุ้นละ 2.65 บาท

และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จำนวนไม่เกิน 20 ล้านหุ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะกระทบต่อราคาหุ้นหลังหุ้นทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก ในช่วงที่ภาวะของตลาดหุ้นมีความผันผวน

มาร์เก็ตแคปของ PR9 อยู่ที่ 9.20 หมื่นล้านบาท

หุ้น PR9 ถูกคาดหมายว่าจะวิ่งอย่างร้อนแรงเช่นกัน