ไม่พ้นวงจรอุบาทว์

ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

ผบ.ทบ.คนใหม่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ออกตัวแรงเหลือเกิน แบความในใจออกมาดัง ๆ ให้ได้ยินกันทั่วว่า หากการเมืองเป็นต้นเหตุให้เกิดการจลาจล ทหารก็พร้อมออกมาปฏิวัติ

พูดง่าย ๆ ว่า ประเทศไทย ยังไม่มีทางหลุดพ้น “วงจรอุบาทว์” ที่ทหารออกมาล้มประชาธิปไตยเป็นระยะ ๆ

ล้มแล้ว สักพักหนึ่งก็ต้องคืนประชาธิปไตยกลับมาให้ประชาชนใหม่ แล้วอีกพักหนึ่ง จะ 8 ปี-10 ปี หรือ 12 ปี ก็สุดแท้แต่ ทหารก็เอาอำนาจคืนกลับไป อีกพักหนึ่งก็ต้องปล่อยกลับคืนไปให้ประชาชนอีก กลายเป็นวงจรอุบาทว์ ที่ไม่อาจจะสลัดพ้นเช่นนี้ไปชั่วนาตาปี

สาธุชนทั่วไปรวมทั้งตัวทหารเอง ก็น่าจะตั้งคำถามทบทวนตัวเองบ้างเหมือนกันนะว่า ถ้าระบอบเผด็จการโดยทหารดีจริง ทำไมต้องคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน

ทำไมไม่กอดอำนาจเผด็จการ และสถาปนาระบอบเผด็จการให้อยู่ยั้งยืนยงไปชั่วฟ้าดินสลาย เป็นการถาวรไปเลย โดยไม่ต้องผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่เช่นนี้เล่า

กล้า ๆ ยืดอกบอกชาวโลกไปเลยว่า นี่คือระบอบการปกครองแบบไทย ๆ เรา และเราก็ไม่สนใจต่อแรงกดดันใด ๆ จากประชาคมโลกทั้งสิ้น

ผมว่า ไม่ต้องห่วงกังวลอะไรหรอกครับ ประชาชนส่วนที่รักประชาธิปไตย ทำอะไรพวกท่านที่ชื่นชอบเผด็จการไม่ได้หรอก

กรณี 14 ตุลาฯเอย 6 ตุลาฯเอย พฤษภาทมิฬปี 35 ตลอดจนกรณีสังหาร 100 ศพเสื้อแดงเอย ถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังหาคนผิดไม่เจอ และไม่มีใครต้องรับผิดชอบกับการสังหารที่เกิดขึ้นเลย

การโยนความเลวร้ายไปให้นักการเมือง ผมก็ว่าเป็นเรื่อง นานาทัศนะ ต่างจิตต่างใจนะ นักการเมืองเลว นักการเมืองโกงมันก็มีจริงอยู่หรอก ไม่มีใครเถียง แต่บ้านเมืองก็มีกฎหมาย มีศาลอัยการตำรวจ และสื่อมวลชนที่ไม่ขี้เกียจในการตรวจสอบ ก็จัดการกับนักการเมืองเลวและชั่วไปสิ

ผู้คนทั่วแผ่นดินจะสรรเสริญเสียอีก ที่สามารถจะแก้ปัญหาในระบบมันเองได้

แต่คนที่เขารักชอบประชาธิปไตยก็อาจจะมองว่า ทหารก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองในการรักษาความสงบไปสิ อย่างเช่นยุทธการปิดเมืองครั้งที่แล้ว ถามว่าทหารไม่รู้เลยหรือว่า การส่งคนไปปิดล้อมสถานที่ราชการต่าง ๆ และการส่งคนไปกลุ้มรุมทำร้ายคนที่ไปเลือกตั้ง มันเป็นความผิดตามกฎหมายอย่างร้ายแรง

ทหารตาบอดอยู่หรือไร!

คนฝ่ายประชาธิปไตยเขาก็อาจจะมองได้ว่า นอกจากการละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ยังมีสิ่งบ่งชี้นานัปการว่าเป็นการสมคบคิดกันกับผู้กระทำผิดกฎหมาย เพื่อก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง และเพื่อ ๆ ๆ จะได้อ้างเป็นเหตุผลความชอบธรรมในการปฏิวัติ

เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

แต่ก็เอาเถอะ คงจะไม่มีเหตุการณ์ใดมาฉุดรั้งไม่ให้มีการเลือกตั้งในต้นปีหน้าได้อีกแล้ว เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็จะมีรัฐบาลใหม่ ทหารที่ครองอำนาจในตอนนี้ ก็คงจะสืบทอดอำนาจต่อไปได้ไม่ยาก เพราะมีส.ว.ที่แต่งตั้งกับมือ 250 คนมาช่วยยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีได้

แต่กลไกรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวนี้ ก็มีโอกาสกลับมาเล่นงานตัวเองได้เหมือนกัน เพราะส.ว. 250 คนที่ลากตั้งกันเข้ามา ไม่อาจจะเข้าร่วมยกมือโหวตในวาระกฎหมายตามปกติ เช่น ร่างพระราชบัญญัติต่าง ๆ ในสภาผู้แทนราษฎรได้

ถ้าในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคทหารที่สืบทอดอำนาจ ได้จำนวนส.ส.เข้ามาน้อย เสียงในสภาผู้แทนฯเพลี่ยงพล้ำให้ฝ่ายค้าน ก็มีหวังรัฐบาลจบเห่ได้เมือนกัน

ถ้าถึงตอนนั้น ก็ต้องถามผบ.ทบ.คนใหม่เหมือนกันว่า จะโทษนักการเมืองเป็นต้นเหตุจลาจล ต้องเข้ายึดอำนาจอีกไหม ในเมื่อก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่พวกคุณบรรจงสร้างขึ้นมาเองนี่