กล้าซื้อไหม?
*คำพูดที่ “โมนิก้า” ได้ยินตลอดทั้งสัปดาห์หนีไม่พ้นคำว่า “กล้าซื้อไหม ?” หลังผู้เล่นหน้าใหม่ และหน้าเก่าเกิดอาการชักเกร็งเมื่อเห็นดัชนีไหลลงแบบไม่มีลิมิต จนทะลุแนวรับย่อยของแต่ละวันลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 1,667.91 จุด ลบไป 15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.22 หมื่นล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้เห็นว่า สถานการณ์แย่กว่ากูรูบางรายเคยแสดงองค์ความรู้ไว้นะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*คำพูดที่ “โมนิก้า” ได้ยินตลอดทั้งสัปดาห์หนีไม่พ้นคำว่า “กล้าซื้อไหม ?” หลังผู้เล่นหน้าใหม่ และหน้าเก่าเกิดอาการชักเกร็งเมื่อเห็นดัชนีไหลลงแบบไม่มีลิมิต จนทะลุแนวรับย่อยของแต่ละวันลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 1,667.91 จุด ลบไป 15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.22 หมื่นล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้เห็นว่า สถานการณ์แย่กว่ากูรูบางรายเคยแสดงองค์ความรู้ไว้นะคะ
*เมื่อทุกอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่ประเมินไว้ตั้งแต่ตอนต้น และตอนกลางก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตอนท้ายถึงลงเอยด้วยเหตุการณ์เจ็บปวดรวดร้าว พร้อมกับเห็นกองเลือดนองพื้นเต็มไปหมด “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ และพยายามครุ่นคิดถึงประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังลงไม่เลิก ล้วนเป็นเรื่องเดิมที่ตลาดหุ้นซึบซับครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายก็ยังมีผลกระทบกับการลงทุนเหมือนเดิมเจ้าค่ะ
*วันนี้ถึงต้องวิเคราะห์ให้แตกฉานกันอีกสักรอบว่า ยังมีหุ้นตัวไหนน่าทยอยเก็บเข้าพอร์ตบ้าง ? และยังมีหุ้นตัวไหนที่ต้องถอยห่างเพื่อความปลอดภัย ? รวมทั้งความคิดของเหล่านักเล่นที่แตกไปคนละทิศคนละทางในเที่ยวนี้ มันทำให้เดี๊ยนต้องออกมาเม้าท์มอยประเด็นดังกล่าวด้วยคน เพราะเป็นคนที่เคยเห็นเหตุการณ์ลักษณะเดิม ๆ เวียนมาบรรจบอีกรอบไงล่ะคะ
*เหมือนกับในรายของ CPALL โดนถล่มจนลงมาทำ double low ที่บริเวณ 65.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.27 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ต้องคิดต่อไปอีกนิดหนึ่งว่า หุ้นจะเด้งกลับขึ้นมาได้จริงไหม ? เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่เป็นใจให้หุ้นสะดวกซื้อเลย ! เดี๊ยนถึงพยายามให้ผู้เล่นตัดสินใจด้วยตนเองนะจ๊ะ
*ส่วนรายที่ดันทุรังสุดซอยอย่างหุ้น GPSC น่าจะเป็นช็อตที่ทำให้ทุกคนต้องหนีตายแบบไม่คิดชีวิต เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่า กกพ.มีมติห้ามซื้อหุ้นเจ้าปัญหา GLOW อย่างเป็นเอกฉันท์ แต่พี่ท่านยังจะยื่นอุทธรณ์แบบเต็มตัว เท่ากับตัวบริษัทยอมรับที่จะแบกหนี้จำนวนสูงถึง 1.40 แสนล้านบาท บวกกับราคาหุ้นต้องไดลูท 50% จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กองทุนทิ้งหุ้นอย่างหนัก จนลงมาปิดที่ระดับ 57.75 บาท ลบไป 6.50 บาท หรือลงไป 10.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 890 ล้านบาท น้องโมฟันธงได้ทันทีว่าหุ้นมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูงเจ้าค่ะ
*อีกรายที่เริ่มมีอาการไม่ค่อยดี และเริ่มเป็นที่กังวลสำหรับขาลุยในเที่ยวนี้คือ SAWAD หลังหุ้นแกว่งตัวลงช้า ๆ ร่วมสัปดาห์ แต่พอถึงวันศุกร์กลับโดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนหุ้นลงไปทำ low ของวันที่ระดับ 41.25 บาท ก่อนจะมีมือดีเข้ามาช่วยโอบอุ้มหุ้นไว้สุดชีวิต หุ้นเลยขึ้นมาปิดที่ 43 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท มันทำให้เกิดอาการเสียวสันหลังวาบเลยล่ะค่ะ
*สำหรับรายที่โดนจัดหนักไม่เลิกอย่าง JMART มีเหตุผลเดียวคือ “ขาดทุนเรื้อรัง” ส่งผลให้แวลูของหุ้นหดหายลงไปเรื่อย ๆ บวกกับเจอคู่แข่งตีขนาบทุกเซ็กเมนต์ของการทำธุรกิจ กูรูหลายท่านเลยฟันธงอย่างพร้อมเพรียงว่า “ตายหยังเขียด” หุ้นถึงโดนทุบไม่เลิกสักที ! ล่าสุดเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 6 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 15.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท ก็พูดได้ทันทีว่า ยังไม่ใช่ก้นเหวนะตัวเอง !
*เช่นเดียวกับในรายของ DDD ถูกเทขายพรวดพราดลงมาเรื่อย ๆ พร้อมกับกระแสข่าวงบไม่สวยออกมาเป็นระยะแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่กดดันต่อราคาหุ้นในกระดานโดยตรง และไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นทิ้งตัวลงมาปิดที่ 29 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 14.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 464 ล้านบาท เพราะมันไม่มีเหตุจูงใจที่จะทำให้พวกกองทุนกอดหุ้นไว้ในพอร์ตนะซี
*คล้ายกับประเด็นของ ORI ถูกเม้าท์กันสนั่นหวั่นไหวว่า ขาใหญ่รินหุ้นออกมาตลอดระยะเวลา 2 เดือนครึ่งแบบนี้ สงสัยจะไปเซตเกมหุ้นที่ด้านล่างร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมปีนี้เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้เห็นคาตาถึง 2 ครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนพันธุ์แท้ขาลุยดูราคาปิดที่ 10.20 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท ใช่จังหวะช้อนหุ้นหรือเปล่า ?
*เม้าท์ถึงหุ้นใหญ่มาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอหันมาดูหุ้นไซซ์เล็กที่วงแตกอย่างเช่นหุ้น CHAYO กันบ้างดีกว่า ! เพราะก่อนหน้านี้พยายามประคองตัวเหนือราคา 5 บาทร่วม 2 สัปดาห์เห็นจะได้ แต่ทันทีที่บรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ ราคาหุ้นก็เริ่มไหลลงอย่างช้า ๆ จนเมื่อวันศุกร์โดนสาดโครมเดียวลงมากองอยู่ที่ 4.70 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40 ล้านบาทแบบนี้..ยาวไป..ยาวไป (ลงยาว) อิอิอิ