DDD ราคาหุ้นสู่ก้นเหว!?
บทเรียนราคาแพงกับหุ้นความสวยความงามที่บรรดาแมลงเม่าน้อยได้เข้าไปหลงใหลชื่นชม ผลสุดท้ายกลับโรยราอย่างหมดสภาพ ยากที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิม บอกเลยว่า “ต้องใช้เวลา” อีกสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ที่เดิมทีเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560 ด้วยราคา IPO อยู่ที่ 53 บาท
สำนักข่าวรัชดา
บทเรียนราคาแพงกับหุ้นความสวยความงามที่บรรดาแมลงเม่าน้อยได้เข้าไปหลงใหลชื่นชม ผลสุดท้ายกลับโรยราอย่างหมดสภาพ ยากที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิม บอกเลยว่า “ต้องใช้เวลา” อีกสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ที่เดิมทีเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560 ด้วยราคา IPO อยู่ที่ 53 บาท
แล้วหลังจากเข้ามาซื้อขายในตลาดรอง พบว่า ฟอร์มราคาหุ้นถือว่าดีมาก เนื่องด้วยราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 119 บาท “ถือเป็นเวลาสั้น ๆ ที่แมลงเม่าได้เข้าไปเล่นอย่างร่าเริง” เพราะเพียงเดือนเศษที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นหลังจากเข้าตลาดฯ นั่นเอง
กระทั่งในที่สุดราคาหุ้นก็ได้โรยราลงอย่างไม่คาดคิด “ราคาอ่อนตัวลงเรื่อย ๆ” จนในที่สุดลงมาสู่ก้นเหว ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2561 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 29 บาท ต่ำสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดฯ
งานนี้ดูแล้วครีมตัวไหนก็ช่วยอะไรบรรดาแมลงเม่าไม่ได้จริง ๆ ๆ ๆ…..เพียงแต่ว่า น้ำตาหอยทากไหลนอง
แรงกดดันของราคาหุ้น DDD ยอมเกิดซ้ำแล้ว ซ้ำอีก หลังจากที่ราคาหุ้นหลุดร่วงลงไปต่ำกว่า 100 บาท ก็เกิดข่าวลบต่าง ๆ นานาเกิดขึ้น ดังมรสุม คล้ายคนเข้าสู่ช่วงเบญจเพสนั่นเอง อย่างเช่นบริษัทมีข่าวลือ เรื่องออเดอร์รายได้ปลอม และถูกตรวจสอบจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงมีการอ้างถึงความสามารถและการทำงานของผู้สอบบัญชีของบริษัท และการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่
ข่าวลือดังกล่าวทางบริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้ออกมาปฏิเสธพัลวัน…. แต่ก็ทำได้แค่เพียงประคองราคาหุ้นและไม่สามารถช่วยให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้สักเท่าไรนัก…ปิดข่าวร้ายไปไม่ทันไร บริษัทก็ได้รับผลกระทบจากการขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากกรณีการจับกุมสินค้ารายอื่นที่ไม่มี อย. และการสั่งปิดตลาดใหม่ดอนเมืองและตลาดห้วยขวาง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเครื่องสำอางปลอม
ผลดังกล่าวส่งผลทำให้ยอดขายของบริษัทปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าที่ตลาดใหม่ดอนเมืองเป็นสัดส่วน 15-20% ของรายได้ ก็ยิ่งทำให้เป็นแรงกดดันราคาหุ้นของ DDD ปรับตัวลงเข้าไปอีก…งานเข้าซ้ำ !!!
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกต่อเนื่องเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลง 8.8% จากไตรมาสก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเป็นลูกค้าสำคัญของ DDD ทำให้เกิดยอดขายลดลงไปด้วยเช่นกัน ถือเป็นอุปสรรคของบริษัทอีกด้วย…ทำให้น้ำตาหอยทากไหลอย่างไม่หยุดเลยทีนี้ !!
ยิ่งเมื่อมีนักวิเคราะห์ ออกบทวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2561 อยู่ที่ 5 ล้านบาท หดตัว (ลดลง 89% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 92% จากไตรมาสก่อน) จากรายได้ที่ชะลอตัวลงอยู่ที่ 160 ล้านบาท (ลดลง 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 55% จากไตรมาสก่อน)
ด้วยปัจจัยลบที่กระหน่ำ DDD ซ้ำแล้วซ้ำเล่า….. หากผู้บริหารไม่รีบแก้ปัญหา หรือไม่รีบหาทางออกให้รวดเร็ว ขืนมัวแต่ชักช้า อาจจะได้เห็นราคาหุ้นลงไปต่ำกว่า 10 บาท เหมือนดังที่รุ่นพี่อย่าง BEAUTY เคยเจ็บมาก่อน !!!
…อิอิอิ…