สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก
เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นเฮี้ยนน่าดู หลังจากถล่มหนักไป 35 จุดวันก่อน เปิดมาภาคเช้าวันพฤหัสฯ ก็ถล่มต่อไปอีก 25 จุด หลุดระดับ 1,600 จุด จะได้ไปเห็นแนวจุดต่ำสุดหรือโลว์เดิมที่ระดับ 1,584 จุดกันรอมร่อแล้ว แมงเม่า-กองทุน ต่างคัตลอสกันให้จ้าละหวั่น
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นเฮี้ยนน่าดู หลังจากถล่มหนักไป 35 จุดวันก่อน เปิดมาภาคเช้าวันพฤหัสฯ ก็ถล่มต่อไปอีก 25 จุด หลุดระดับ 1,600 จุด จะได้ไปเห็นแนวจุดต่ำสุดหรือโลว์เดิมที่ระดับ 1,584 จุดกันรอมร่อแล้ว แมงเม่า-กองทุน ต่างคัตลอสกันให้จ้าละหวั่น
แต่ที่ไหนได้ สถานการณ์ภาคบ่าย กลับพลิกเป็นหนังคนละม้วนเลย ตลาดทำดัชนีปิดเป็นบวกได้ 20 จุด รสชาติอย่างกับหนังตบ-จูบ ๆ อย่างไงอย่างงั้น ความผันผวนของดัชนีมีมากเกือบ 50 จุดในวันเดียว นับเป็นปรากฏการณ์ที่เซอร์ไพรส์เอามาก ๆ
น่าสังเกต “หุ้นตระกูลป.” อันมี PTT PTTEP TOP PTTGC และ IRPC ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปรวมกันประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท กลายเป็นหุ้นชูธงนำตลาด ทั้งกวาดวอลุ่มซื้อขายกันในราว 1.39 หมื่นล้านบาท ในราว 18% ของมูลค่าทั้งตลาด หุ้นแต่ละตัวในตระกูล ก็ดันราคากันขึ้นมาอย่างคึกคัก
เขาบอกกันว่า ถ้าจะบันดาลตลาดให้เป็นไปในทางใด ก็ช่วยกันดันหรือทุบไปที่หุ้น “ตระกูลป.” นี่แหละ ได้ผลแน่นอน
คนที่จะซื้อหนัก ๆ ได้ก็ต้องนี่แหละ กองทุน! และก็ต้องซื้อให้ชนะฝรั่งซึ่งเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขายมาทุกวันเสียด้วย เมื่อวานกองทุน (ไม่นับรวมบัญชีบริษัทหลักทรัพย์) ซื้อมากกว่าขาย 4,434 ล้านบาทครับ ชนะฝรั่งที่ขายสุทธิ 4,129 ล้านบาท
น่าสังเกตอีกเหมือนกันว่า เซอร์ไพรส์ตลาดหุ้นเมื่อวาน เกิดขึ้นหลังจากรองนายกฯสมคิด ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงเป็น “เซฟ เฮฟเว่น” หรือแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ตามมาด้วยเลขาธิการกบข.ประกาศจะลงทุนเพิ่มในหุ้นกลุ่ม ESG อีก 1,000 ล้านบาท
น่าสังเกตอีกเหมือนกันว่า ดร.สมคิดท่านนี้ เสกเป่าหุ้นการบินไทยเด้งดึ๋งมา 2 ครั้ง 2 คราแล้ว
การเด้งขึ้นของตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ เป็นไปได้ 2 อย่าง นั่นคือ “เบรค เอ๊าท์” ผ่านจุดต่ำสุดถึงช่วงรีบาวด์แล้ว หรือไม่ก็เป็นการขึ้นเพื่อจะลงต่อ ตามทฤษฎีแมวเด้ง
พวกทหารผ่านศึกในตลาดหุ้นยังเชื่อเป็น “แมวเด้ง” คงต้องรอการสะเด็ดน้ำอีกสักพักในประการหลังมากกว่า
ครับ อันที่จริง อยากจะพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก นั่นคือ สะพานข้ามทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ระยะทาง 55 กิโลเมตรมากกว่า แต่มีเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ในตลาดหุ้น เลยต้องชำระความกันในเบื้องต้น พอหอมปากหอมคอกันพอประมาณ
สะพานนี้ใช้เวลาสร้างนาน 9 ปี ทุ่มเงินลงทุนสร้างไปทั้งหมด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.9 แสนล้านบาท เป็นถนน 6 ช่องทาง สลับด้วยอุโมงค์บางส่วน
แต่เดิมมา การเดินทางทางบกจากฮ่องกงเข้าจูไห่ อันเป็นชายแดนด้านใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง หากเดินทางทางเรือ ก็ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง
แต่ถนนใหม่ ใช้เวลาจากฮ่องกงไปจูไห่เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น
ถนนใหม่ข้ามทะเล จะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าการลงทุน การค้าขาย และการท่องเที่ยวมหาศาล การเดินทางจากฮ่องกงไปมาเก๊า ทางเรือเฟอร์รี่ ซึ่งใช้เวลากันตั้ง 2-3 ชั่วโมง แต่จากนี้ไปจะใช้เวลาการเดินทางเพียงแค่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของโลก หลังจากเพิ่งจะมีพิธีเปิดปฐมฤกษ์การเดินรถไฟความเร็วสูงจากฮ่องกงไปปักกิ่งไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งแต่เดิมต้องใช้เวลารอนแรมทางรถไฟแบบเก่าถึง 36 ชั่วโมง (2 คืนกับอีก 1 วัน)
แต่เดี๋ยวนี้ รถไฟความเร็วสูงจากฮ่องกงไปปักกิ่งใช้เวลาแค่ 9 ชั่วโมงเท่านั้น
ผมเอง เมื่อปี 1987 หรือ พ.ศ. 2530 เคยไปนั่งสมบุกสมบันนั่งรถไฟจีนจากฮ่องกงเข้าไปกวางโจว และต่อรถไฟสายยาวจากกวางโจวไปปักกิ่ง ก็ใช้เวลาประมาณนั้นแหละ 2 คืนกับ 3 วัน ชนิดเสื้อผ้าสีขาวของกุ๊กตู้เสบียง กลายเป็นผ้าขี้ริ้วก็ไม่ปานนั่นแหละ
มีเวลา ยังอยากไปนั่งรถไฟความเร็วสูงฮ่องกง-ปักกิ่ง 9 ชั่วโมงเร็ว ๆ นี้สักที
ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง เดินทางจากปักกิ่งมาเปิดสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลกแห่งนี้ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา และเปิดปฐมฤกษ์การใช้งานในวันรุ่งขึ้น 24 ต.ค.
จีนสร้างสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลก ขณะกำลังตอบโต้สงครามการค้ากับพญาอินทรี ที่เที่ยวเกะกะระรานไปทั่วโลก