เด้งขึ้น หรือ เด้งลง

*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงการแกว่งตัวไปมาของดัชนีในทิศทางขาลงร่วมเดือน เพราะเป็นเรื่องที่แฟนคลับให้ความสนใจอย่างล้นหลาม และยังกระทบกระเทือนกับจิตใจพวกมือใหม่หัดเทรดจังเบ้อเร่อ เดี๊ยนถึงชอบเกริ่นนำด้วยบรรยากาศการลงทุนเป็นประจำ พร้อมกันนั้นยังอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย ไม่ได้มีอะไรที่แย่ลงกว่าเดิมแม้แต่นิดเดียวนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงการแกว่งตัวไปมาของดัชนีในทิศทางขาลงร่วมเดือน เพราะเป็นเรื่องที่แฟนคลับให้ความสนใจอย่างล้นหลาม และยังกระทบกระเทือนกับจิตใจพวกมือใหม่หัดเทรดจังเบ้อเร่อ เดี๊ยนถึงชอบเกริ่นนำด้วยบรรยากาศการลงทุนเป็นประจำ พร้อมกันนั้นยังอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย ไม่ได้มีอะไรที่แย่ลงกว่าเดิมแม้แต่นิดเดียวนะจะบอกให้

*ไม่ว่าจะมองจากในมุมของตัวธุรกิจ หรือตัวเลขกำไรที่ปรากฏให้เห็น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์อีกแล้ว หรือพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นมานิดหนึ่งคือ ตลาดหุ้นไทยกำลัง set zero รอบใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสทองของคนที่มีเงินเย็นเก็บไว้ในพอร์ตเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นกันทนโท่ว่า จุดเด้งกลับที่สำคัญของดัชนีอยู่บริเวณ 1,600 จุด เดี๊ยนถึงไม่มีอะไรต้องวอร์รี่ไงล่ะค่ะ

*เมื่อโพสิชั่นของการลงทุนถูกกำหนดไว้เสร็จสรรพ “โมนิก้า” เลยถือโอกาสเล่าถึงพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบัน เพื่อให้นักเล่นเข้าใจถึงรูปแบบการเคลื่อนตัวในอนาคตจะสวยงามเพียงใด หลังดัชนีพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1,644.33 จุด บวกไป 20.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.60 หมื่นล้านบาท  ทั้งที่ในช่วงภาคเช้าโดนสาดหุ้นทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย จนทำให้ดัชนีลบเกือบ 27 จุด แต่พอตกบ่ายกลับทะยานขึ้นตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์แบบชิว ๆ มันมีอะไรต้องซีเรียสอีกไหมคะ

*ในเมื่อผู้เล่นเข้าใจเกมหุ้นเที่ยวนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นคิดต่อไปว่า การกลับตัวของดัชนีที่เกิดขึ้นวานนี้เป็นลักษณะ “เด้งขึ้น” หรือ “เด้งลง” พร้อมกับขอขยายความอีกนิดหนึ่งว่า เด้งขึ้น คือการขึ้นเพื่อไปต่อยาว ส่วนอาการเด้งลงคือการขึ้นแล้วลงไปหาโลว์เดิมที่เคยทำไว้ จึงอยากให้ผู้เล่นมองการเล่นเที่ยวนี้ให้กระชับขึ้นกว่าเดิมนะจ๊ะ

*เหมือนกับการเด้งกลับของหุ้น IVL ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 52.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.34 พันล้านบาท “โมนิก้า” ไม่ได้มองเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแต่อย่างใด เพราะช่วงที่หุ้นโดนถล่มหนัก ๆ ก็มาตั้งต้นแถวบริเวณ 50 บาทหลายครั้งด้วยกัน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองภาพการขึ้นเที่ยวนี้จะไปถึงยอดเดิมบริเวณ 59 บาทได้ไหม ? เพราะมันจะเป็นตัวบอกให้นักเล่น “เคาะขวา” หรือ “เคาะซ้าย” ในวันนี้เจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของ OSP พยายามกระชากสวนภาวะตลาดหุ้นตั้งแต่เช้า และสำเร็จเป็นรูปธรรมในช่วงบ่ายแก่ ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 24.40 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.25 พันล้านบาท น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเล่นต้องใช้ความคิดมากเป็นพิเศษ เพราะการขึ้นเทรดเที่ยวนี้อยู่บนค่า P/E 28 เท่า ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการโดนกระหน่ำเทขายค่อนข้างสูง หากสถานการณ์รอบด้านยังมีเรื่องร้อน ปะทุขึ้นมาเป็นระลอกนะซี

*ขนาดหุ้นทีเด็ดในดวงใจอย่าง EA ยังโดนกระหน่ำเทขายไม่เลี้ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นต่างประเทศแดงเถือก ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการตะขิดตะขวงใจอย่างแรง เดี๊ยนถึงมองการทะยานขึ้นมาปิดที่ 46 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่นักเล่นต้องเพิ่มความไวเข้ามาอีกนิดหนึ่ง เพื่อทำให้การเล่นเที่ยวนี้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิม จึงแนะนำให้มองยอดแรก 48 บาท จากนั้นค่อยขยับเป็น 50 บาทนะจ๊ะ

*เช่นเดียวดับการตีกลับของหุ้นหอยทาก DDD จนขึ้นมาปิดที่ 29.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า ไม่มีอะไรการันตีว่า นี่คือการขึ้นอย่างบูรณาการ และความหวังที่จะได้เห็นราคาสูงกว่านี้ ยังเป็นเรื่องที่ต้องดูต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคำพูดที่ว่า ไตรมาส 4 น่าจะเริ่มฟื้นตัว มันเป็นคำพูดลอย ซิค่ะ

*เหมือนกับขาปั่นน่องเหล็กที่ร่วมก๊วนกันมาเล่น RML ทั้งที่ยังมีเรื่องราวฟ้องร้องเป็นชนักติดหลังอยู่แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมของพวกขาโหดที่ต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษ ยิ่งเห็นรายการทุบหุ้นเมื่อ 2 วันก่อนเปรี้ยงเดียวลงมากองอยู่ที่ 1.20 บาท ทั้งที่ช่วงเช้าหุ้นยืนแถวบริเวณ 1.70 บาท จึงสงสัยว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.40 บาท ลบไป 0.01 บาท  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท มันมีความเสี่ยงซ่อนไว้เยอะนะคะ

*เม้าท์ถึงความเสี่ยงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองหุ้นร้อน OCEAN ซึ่งตกเป็นขี้ปากแมงลือให้เม้าท์กันไม่เลิกสักที แถมในแต่ละวันที่เรื่องลับ ๆ ล่อ เปิดเผยขึ้นมาทีละเปลาะ ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้ทางการอยากเข้าไปตรวจสอบมากขึ้น ว่ากันว่า ดีลนี้เกิดจากชายรูปร่างท้วม และคลุกคลีกับหุ้นฉาว (คนเจ๊งทั่วบ้านทั่วเมือง) เป็นคนอยู่เบื้องหลังการทำราคาหุ้น  เดี๊ยนถึงสงสัยการดีดกลับจากระดับ 4.30 บาท ขึ้นมาปิดที่ 4.70 บาท บวกไป 0.04 บาท มันใช่ของจริงไหม ?

Back to top button