11 หุ้นบลูชิพพื้นฐานแกร่ง! Dividend Yield สูง!
ข่าวหุ้นธุรกิจแนะนำหุ้นปลอดภัยในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยอาจยังไม่ปลอดภัยและผันผวนสูง จากความกังวลหลายปัจจัยจากสหรัฐฯ และปัจจัยในประเทศที่ติดลบ
รายงานพิเศษ
ความกังวลหลายปัจจัยจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 4 มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังดูไม่ดีนัก และสรุปรายงานภาวะตลาดเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่ามีความกังวลเรื่องการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวในระยะถัดไป รวมทั้งหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ ร่วงแรง
นอกจากนี้ยังพบเหตุมือมืดส่งวัตถุระเบิดป่วนเมืองในสหรัฐฯ ทำให้กังวลอาจเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ อีกทั้งตลาดฯ รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่เริ่มมีความชัดเจนขึ้น และราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย รวมถึงความชัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดีอาระเบีย และยังกังวลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนด้วย
พร้อมกับมีปัจจัยในประเทศในเรื่องตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย.ของไทยก็ออกมาติดลบ และตัวเลขการท่องเที่ยวที่ปรับตัวลง
เหตุดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจยังไม่ปลอดภัย และตลาดฯ ยังคงจะผันผวนสูง !!!
ทางข่าวหุ้นธุรกิจจึงแนะนำหุ้นปลอดภัย อย่าง “หุ้นพื้นฐานแกร่ง” และ “อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield)” ที่สูงเกินกว่า 4%
ทั้งนี้ จึงมีการคัดสรรในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นบลูชิพ พบว่ามี IRPC, KKP, LH, PTT, PTTGC, SCB, SCC, SPRC, TCAP, TISCO และ TOP เป็นต้น
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 9,401.76 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 9,720.83 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 11,354.48 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 6,801.50 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 5%
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 3,317.10 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 5,546.72 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 5,736.87 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 4,614.97 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 7.17%
บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 7,920.23 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 8,617.97 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 10,463.22 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 5,890.30 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 7.28%
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 19,936.42 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 94,609.08 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 113,179.60 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 69,816.78 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 4.12%
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 20,502.50 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 25,601.63 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 39,298.31 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 23,215.46 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 5.70%
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 47,182.41 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 47,612.23 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 43,151.90 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 32,983.95 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 4.04%
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 45,399.71 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 56,084.19 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 55,041.25 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 34,280.64 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 4.66%
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 8,227.47 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 8,688.09 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 8,895.35 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 4,895.98 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 8.40%
บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 5,436.58 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 6,012.72 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 7,001.17 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 5,819.62 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 4.39%
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 4,250.12 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 5,005.89 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 6,090.01 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 5,290.10 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 6.49%
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 กำไรสุทธิ 12,181.37 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 กำไรสุทธิ 21,221.91 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 กำไรสุทธิ 24,856.20 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนปี 2561 กำไรสุทธิ 10,402.64 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ณ วันที่ 24 ต.ค.61 ที่ 6.77%
สรุปได้ว่าหุ้นที่นำเสนออาจไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนยามภาวะตลาดหุ้นผันผวน หรืออยู่ในช่วงขาลง !!!!
ถือว่าเป็นหุ้นปลอดภัยกว่ากลุ่มอื่นๆ นั่นเอง.!?
…