พาราสาวะถี

อรชุน

แถลงอย่างเป็นทางการตอนตี 5 ตามเวลาในประเทศไทยจากสโมสรเลสเตอร์ยืนยัน เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา ในฐานะเจ้าของทีมพร้อมผู้โดยสารรวม 5 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวตกบริเวณลานจอดรถของสโมสร ภายหลังเกมสุนัขจิ้งจอกหรือจิ้งจอกสยามเปิดรังคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เสมอทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ในแง่ของนักธุรกิจใหญ่เจ้าของอาณาจักรดิวตี้ ฟรี ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกคงไม่ต้องสาธยาย แต่ในมุมของเจ้าของสโมสรในโลกฟุตบอลของลีกชั้นนำอย่างอังกฤษ ที่เป็นทีมขนาดกลางลงทุนไม่ได้แค่หวังต่อยอดธุรกิจ แต่ทุ่มเทสร้างสิ่งที่ชื่อแดนผู้ดียกย่องว่า เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ด้วยการพาทีมเลสเตอร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2015/2016 สร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรสำเร็จ

ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากการพัฒนาทีมจนก้าวขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าของลีกเมืองผู้ดีแล้ว คิง เพาเวอร์ ยังเติมเต็มความฝันเด็กไทยผ่านโครงการ FOX HUNT ซึ่งเปิดให้เยาวชนชายไทยอายุ 15-16 ปี ไปฝึกซ้อมที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเด็ก ๆ ทุกคนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ต้องมีความรับผิดชอบในตัวเอง และโดยมีเยาวชนไปอยู่ในโครงการนี้แล้วหลายรุ่น ไปฝึกที่อังกฤษรุ่นละ 2 ปี

นอกจากนั้น เจ้าตัวยังมีโครงการสร้างสัมพันธ์ของผู้คนในเมืองเลสเตอร์จนเป็นที่รักใคร่ เห็นได้จากการที่ผู้คนในเมืองต่างพากันไปวางดอกไม้เพื่อเป็นการไว้อาลัยเจ้าสัว พร้อมให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย ขณะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวารของทีมก็ได้บรรยายความรู้สึกที่มีต่อการทุ่มเทของเจ้าของสโมสรแห่งนี้ไว้อย่างสุดซึ้ง เช่นเดียวกับนักเตะจิ้งจอกสยามอีกหลายราย

หันกลับมาดูการเมืองไทยวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะรัฐมนตรีประชุมนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงราย หลังจากที่วานนี้ก่อนประชุมครม.หนึ่งวันได้ไปลงพื้นที่จังหวัดพะเยา ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ท่านผู้นำสื่อสาร อย่างที่รู้กันถนนสายการเมืองนั้นรอเพียงแค่ได้ยินคำประกาศอย่างเป็นทางการจากเจ้าตัวเท่านั้นว่าจะเดินไปในรูปแบบใด

ส่วนการไปประชุมครม.สัญจร พรรคการเมืองส่วนใหญ่ก็ได้แต่เรียกร้องให้หยุด เพราะเห็นว่านี่เป็นการเอาเปรียบกันอย่างชัดแจ้ง หากคณะรัฐบาลเผด็จการไม่ได้ตั้งพรรคการเมืองเป็นของตัวเองก็คงไม่มีปัญหา แต่การมีพลังประชารัฐเป็นตัวขับเคลื่อน แถมพกด้วยวาง 4 รัฐมนตรีไปเป็นแกนหลักของพรรคด้วย คำปฏิเสธทุกคำว่าไม่ได้เป็นการหาเสียง มันก็ไม่ได้แตกต่างจากคำแก้ตัวของนักการเมืองที่ตัวท่านและคณะพล่ามบอกว่าชั่วและเลวตลอด 4 ปีที่ผ่านมานั่นเอง

แน่นอนว่า การไปลงพื้นที่ทั้งเชียงรายและพะเยา คงสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับบรรดานักการเมืองที่อยู่ในคอกพลังประชารัฐ เพราะเท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำภาพของความใกล้ชิดอำนาจรัฐ และทุกโครงการที่รัฐบาลนี้ได้ดำเนินการไป ก็จะถูกแปลความหมายให้เป็นผลงานของว่าที่ผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ไปในตัวด้วย ถือเป็นการสตาร์ทที่ได้เปรียบคู่แข่งไปหนึ่งช่วงตัว

แต่สำหรับพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน คงต้องไปวัดกันในช่วงเลือกตั้ง คนส่วนใหญ่ที่เป็นฐานเสียงสำคัญให้กับพรรคเพื่อไทยและชื่นชอบในตัว ทักษิณ ชินวัตร วันนี้เปลี่ยนความคิด มีความรู้สึกใหม่จะไปลงคะแนนให้กับพรรคของรัฐบาลคสช.มากน้อยขนาดไหน ถ้าทำได้การที่ผู้นำเผด็จการจะพาตัวเองไปอยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคสช. ก็น่าจะเกิดแรงกระเพื่อมน้อยกว่าที่คิดและน่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับบางพรรคที่จะตัดสินใจเข้าร่วมงานด้วย

จะว่าไปแล้วการเดินทางมาถึงจุดนี้ของรัฐบาลเผด็จการ ความเกรงกลัวต่อแรงกดดันหรือกระแสต่อต้านใด ๆ นั้นได้หมดหายไปสิ้น ไม่ต้องไปคำนึงถึงความเกรงใจต่อคนส่วนใหญ่ เพราะการแต่งตั้งให้อดีตแกนนำม็อบชัตดาวน์ประเทศไปมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ก็สะท้อนภาพของความต้องการและหวังผลทางการเมืองอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเลือกข้างที่วันนี้ได้เปลี่ยนสถานะของกรรมการมาเป็นผู้เล่น ความจริงจะว่าไปแล้วความเป็นกลางไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้นก็ว่าได้ ความเป็นกลางที่ว่านั้นก็แค่ข้ออ้างเพื่อให้เข้าสู่อำนาจโดยชอบธรรมเท่านั้น ยิ่งการอ้างเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายที่แน่นอนว่า ส่วนใหญ่คือคำสั่งของคณะเผด็จการก็แค่เกราะป้องกันข้อครหาหรือการถูกตำหนิว่าใช้อำนาจเผด็จการข่มเหง รังแกฝ่ายตรงข้าม

กระแสเรื่องเพลงประเทศกูมียังแรงดีไม่มีตก ไม่ใช่แรงหนุนผ่านโซเชียลมีเดียที่มีคนกดดูเฉียด 20 ล้าน แต่เป็นเพราะเสียงวิพากษ์จากฝ่ายเห็นต่างซึ่งก็คือคนที่เข้าข้างคณะรัฐบาลเผด็จการ รวมไปถึงการดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ที่ทำให้เกิดข้อทักท้วง คัดค้านมาจากฟากฝั่งของบรรดานักวิชาการ กูรู ผู้รู้อีกหลายแขนง ที่เห็นว่าเพลงดังกล่าวไม่ได้มีอะไรที่ต้องวิตกกังวล

ดังเช่น อิสระ ชูศรี อาจารย์จากสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มองว่าในแง่ศิลปะ ประเทศกูมีไม่ได้พรรณนาเฉพาะปัญหาทางสังคม การเมืองและวัฒนธรรมอย่างตรงไปตรงมาอย่างที่หลายคนแสดงความชื่นชม แต่มันมากกว่านั้น ผู้ประพันธ์เนื้อแร็พนำเสนอภาวะขัดแย้งต่าง ๆ ในอีกระดับหนึ่งที่เหนือขึ้นมากว่าปัญหาในระดับปรากฏการณ์ หรือนำเสนอปรากฏการณ์ที่แย้งย้อนกันเอง

การใช้ศิลปะเพื่อวิพากษ์ปัญหาในระดับนามธรรมแบบนี้ย่อมเหนือชั้นกว่าการพยายามแร็พเพื่อสรรเสริญสิ่งสวยงาม ดีงาม หรืออะไรก็ตามที่น่าพึงพอใจ เพราะผู้ที่ศึกษาศิลปะย่อมเล็งเห็นอยู่ว่าศิลปะที่ยั่วให้คิดหรือพิจารณาปรากฏการณ์ระดับผิวให้เห็นความแย้งย้อนใต้ผิวลงไป มันมีความเป็นศิลปะที่เหนือชั้นกว่าการนำเสนอความพึงพอใจอันเป็นปกติของชีวิตประจำวัน

ประเทศกูมีทำได้ถึงขั้นนั้น ในขณะที่พวกแร็พวัลลาบี-มาดูกูแร็พ ที่พยายามฉกชิงวิ่งราวประเด็นเอาไปเล่นคำเป็นประเทศกูดี ประเทศเรามี ฯลฯ ป่านนี้พวกนั้นยังไม่รู้เลยมั้งว่าทำไมเพลงประเทศกูมีถึงดี ความโกรธเคืองของพวกเขาส่วนหนึ่งมาจากความไม่รู้นี้เอง สิ่งที่อาจารย์อิสระสรุปน่าจะตรงจุดตรงประเด็นมากที่สุด แต่บางพวกไม่ใช่ไม่รู้รู้ดีเสียยิ่งกว่าอะไร แต่ทำใจที่จะปล่อยให้คนเห็นต่างมาย่ำยีเผด็จการที่พวกตัวเองรักไม่ได้ และถ้าจะมองว่าใครคือตัวปัญหาของการปรองดองเชื่อว่าคณะเผด็จการน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี