‘สปีด-ดี’ ดันหุ้น CPALL

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร หุ้น CPALL กลับมาน่าสนใจอีก …


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

หุ้น CPALL กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

เมื่อวานนี้มูลค่าการซื้อขายมากเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนราคาหุ้นเริ่มกลับมาฟื้นตัว และปิดระดับ 65.25 บาท หลังเมื่อสัปดาห์ก่อนราคาหุ้นลงไปต่ำสุดในรอบปีนี้ที่ 61.50 บาท

หรือเกือบจะหลุด 60 บาท

ปัจจัยบวกใหม่ของหุ้น CPALL คือ ให้บริการ “สปีด-ดี” ผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่นครับ

สปีด-ดี คือบริการขนส่งพัสดุด่วน เป็นการร่วมมือกันระหว่าง CPALL กับ Dynamic Logistics ที่เป็นบริษัทย่อยของ CPALL นั่นเอง และถือหุ้น 99.99%

ก่อนหน้านี้ สปีด-ดี ทำเรื่องระบบขนส่งสินค้าให้ CPALL และบริษัทอื่น ๆ อยู่แล้ว

เพียงแต่ CPALL นำธุรกิจที่ว่านี้มาต่อยอดเพื่อให้มีรายได้สูงขึ้น จากค่าธรรมเนียมการส่งพัสดุ และถือเป็นทิศทางการหารายได้ค่าธรรมเนียมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

อย่างที่เคยเขียนไว้ในช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้า

ราคาหุ้นของ CPALL ที่เคยขึ้นไปถึง 85-90 บาท ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2561

นับจากนั้นก็ได้ร่วงลงมาโดยตลอด

สัญญาณทางเทคนิคเป็น sideway down อย่างชัดเจน

ประเด็นที่เป็นปัจจัยลบคือ นักลงทุนกังวลกับตัวเลขการเติบโตของรายได้ CPALL ที่เติบโตแบบ “ถดถอย”

ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ต้องแข่งขันกับร้านค้าออนไลน์

ธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิส มีแนวโน้มคนเข้ามาใช้บริการลดลง หลังธนาคารพาณิชย์หันมาทำสงครามฟรีค่าธรรมเนียมธุรกรรมการเงินหลายรายการ

ส่วนเรื่องแบงกิ้งเอเย่นต์ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก

คงมีเพียงพันธมิตรคือธนาคารออมสิน และนักวิเคราะห์ยังไม่ค่อยให้พรีเมียม หรือมีนัยสำคัญต่อรายได้ของ CPALL กับธุรกรรมกับออมสินมากนัก

ผลประกอบการไตรมาส 2/2561 กำไรที่ 4,779 ล้านบาท

หากเทียบกับไตรมาส 1/2561 ลดลงถึง 11% แต่หากเทียบกับไตรมาส 2/2561 เพิ่มขึ้น 2.7%

ตัวเลขนี้ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อย่างมาก

และส่งผลให้โบรกฯ หลายแห่ง ปรับลดประมาณการรายได้ และกำไรสุทธิของ CPALL ในปี 2561–2562 รวมถึงราคาเป้าหมาย

นักลงทุนยังคงเฝ้าคอยผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ของ CPALL

แต่ก็ยังคงถูกคาดการณ์เช่นเดิมว่า มีแนวโน้มจะออกมาเติบโตถดถอยอยู่ และมีเปอร์เซ็นต์สูงที่อาจจะต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์อีกได้

ส่งผลให้ราคาหุ้นหลังหลุดแนวรับสำคัญเริ่มจาก 70 บาท ลงมาเรื่อย ๆ

กระทั่งหลุด 65.00 บาท เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า

ส่วน สปีด-ดี ที่ CPALL เริ่มให้บริการเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) เป็นวันแรก เริ่มจากในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จำนวนกว่า 3,700 สาขา ทำให้นักวิเคราะห์มองในเบื้องต้นว่า เป็นปัจจัยบวกกับ CPALL

หรือสรปุง่าย ๆ คือ สปีด-ดี จะมีนัยสำคัญต่อรายได้ของ CPALL ในอนาคต

และน่าจะเข้ามาช่วยทดแทนรายได้ของ “เคาน์เตอร์เซอร์วิส” ได้

จุดขายของ สปีด-ดี ใน 7-11 จะการันตีส่งถึงปลายทางภายใน 1 วัน หากส่งก่อน 21.00 น. และจะรับสินค้าปลายทางได้ในวันรุ่งขึ้น 18.00 น.

การรับ-ส่งพัสดุในร้าน 7-11 จะครอบคลุมตั้งแต่การซื้อกล่องหรือซองที่ร้าน 7-11

และลูกค้าเลือกรับพัสดุได้ทั้งที่บ้านหรือร้าน 7-11 โดยตรวจสอบสถานะพัสดุและติดตามด้วยระบบ tracking 24 ชั่วโมง

ปัจจุบันมีธุรกรรมอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ทำให้มีความต้องการบริการการขนส่งสินค้ามากขึ้นด้วย

ตลาดโลจิสติกส์มีผู้ให้บริการหลายราย เช่น ไปรษณีย์ไทย, เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, ลาล่ามูฟ, LINE Man, นิ่มเอ็กซ์เพรส และเอสซีจี เอ็กซ์เพรส

แต่ CPALL มีจุดแข็งคือร้าน 7-11 กว่า 1 หมื่นสาขาที่ถือเป็นจุดแข็ง

ต้องมาลุ้นกันดูว่า สปีด-ดี จะเข้ามาช่วยกู้รายได้ 7-11 มากแค่ไหน

ท่ามกลางธุรกิจค้าปลีกที่ซบเซาลงไป

Back to top button