PYLON กำไรจะดียิ่งขึ้น
มีการคาดการณ์กันว่า PYLON จะมีกำไรไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 เท่า จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 93% จากไตรมาสก่อน ได้ปัจจัยหนุนจากการเริ่มทำงานรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ได้รับจาก STEC มูลค่าราว 350 ล้านบาท (เฉพาะค่าแรง) ในช่วงเดือน ส.ค. ส่งผลให้ Utilization rate เพิ่มขึ้นเป็น 65% (จากไตรมาส 2/2561 ที่ 48%
คุณค่าบริษัท
มีการคาดการณ์กันว่า บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON จะมีกำไรไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 เท่า จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 93% จากไตรมาสก่อน ได้ปัจจัยหนุนจากการเริ่มทำงานรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ได้รับจาก STEC มูลค่าราว 350 ล้านบาท (เฉพาะค่าแรง) ในช่วงเดือน ส.ค. ส่งผลให้ Utilization rate เพิ่มขึ้นเป็น 65% (จากไตรมาส 2/2561 ที่ 48%)
ขณะเดียวกัน คาดจะมีรายได้ที่ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 273% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 69% จากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ คาดไตรมาส 4 ปี 2561 ผลประกอบการจะแข็งแกร่งกว่าไตรมาส 3 ปี 2561 อีก เพราะดำเนินงานรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง (ไตรมาส 3/2561 ดำเนินงานรถไฟฟ้าเพียง 1 เดือนครึ่งเท่านั้น) ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทใช้เครื่องจักรได้อย่างเต็มกำลัง (ใช้ 22 ชุด) และ U-rate เพิ่มเป็น 90% ซึ่งจะหนุนให้ทั้งรายได้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมาริ์จิ้นปรับสูงขึ้นอีกด้วย และคาดกำไรปีนี้จะทำจุดสูงสุดใหม่ ที่ 257 ล้านบาท เติบโตราว 150% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งบริษัทมี Backlog ราว 800 ล้านบาท (หลังจากหักการรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2561) ซึ่ง Backlog เพียงพอให้บริษัทมี Utilization rate ที่สูงไปอีก 2 ไตรมาสข้างหน้า
ผลดังกล่าวจึงมั่นใจในแนวโน้มกำไรและการเติบโตได้ และถึงแม้ตลาดจะยังไม่มั่นใจใน Backlog ที่มีไม่มากเท่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม แต่เรามองว่าด้วยภาพอุตสาหกรรมที่ยังคงอยู่ในขาขึ้น งานทั้งภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่เตรียมที่จะออกประมูลอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้บริษัทมีงานและการรับรู้รายได้อย่างราบรื่น
ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาอย่างไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมจากการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 237.18 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 168.64 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการรับจ้างงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 31.05 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 16.03 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 631.32 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 422.72 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 102.38 ล้านบาท หรือ 0.14 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 72.11 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น
สิ่งสำคัญทางนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล 262,490,132 หุ้น 35.00%
- นายบดินทร์ แสงอารยะกุล 60,000,000 หุ้น 8.00%
- นายวงศ์ชัย แสงอารยะกุล 50,000,000 หุ้น 6.67%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 32,973,456 หุ้น 4.40%
- นายเผด็จ หงษ์ฟ้า 15,736,300 หุ้น 2.10%
รายชื่อกรรมการ
- นายเสรี จินตนเสรี ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
- นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
- นายวงศ์ชัย แสงอารยะกุล กรรมการ
- นายสมศักดิ์ วิริยะพิพัฒน์ กรรมการ
- นายพิสันติ์ ศิริศุขสกุลชัย กรรมการ