เดี๋ยวดัน..เดี๋ยวทุบ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในเมื่อสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่นิ่งอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังถูกกดดันจากปัจจัยลบในต่างประเทศ “โมนิก้า” ถึงเข้าใจอารมณ์การเล่นแบบดัน ๆ ทุบ ๆ ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา และเหตุการณ์ดังกล่าวจะอยู่คู่กับตลาดหุ้นไทยต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุน ต่อจากนั้นดัชนีจะทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุดอีกครั้งนะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองการขึ้นพรวดของดัชนีไปถึงระดับ 1,684.44 จุด (บวกไปเกือบ 14 จุด) ก่อนจะย่อตัวลงมาลบเล็กน้อยอย่างรวดเร็วในช่วงภาคบ่าย แต่สุดท้ายประคองตัวปิดไปที่ระดับ 1,669.33 จุด ลบไป 1.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.92 หมื่นล้านบาท มันเป็นช็อตที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีสำหรับพวกเสือปืนไว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่ดัชนีจะพักฐานแถวนี้อีกระยะหนึ่งนะจ๊ะ

*งานนี้ถึงไม่ต้องไปฟื้นฝอยหาตะเข็บให้เปลืองน้ำลาย เพราะแค่ดูมูลค่าการซื้อขายต่อวันมีไม่ถึงระดับ 4 หมื่นล้านบาท เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่า ไม่เต็มใจซื้อหุ้น ! ดัชนีถึงแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไปอย่างไม่มีกำหนด และสิ่งที่จะตามมาคงหนีไม่พ้นการโยกหุ้นไปมา เพื่อรอความชัดเจนอะไรบางอย่างมาสนับสนุน ดัชนีถึงจะเดินหน้าขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมพะยะค่ะ

*เหมือนกับกรณีของ ADVANC ทำท่าจะเด้งกลับตรงจุดนัดพบอย่างสวยหรู พอเอาเข้าจริงกลับเทขายตลอดช่วงภาคบ่าย จนหุ้นลงมาปิดอยู่ที่ระดับ 181.50 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.08 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความกังวลในตัวธุรกิจอาจไม่โต จึงต้องเร่งระบายหุ้นออกมาเพื่อเข้าไปรับในราคาที่ต่ำกว่า ภาพของหุ้นถึงมีอาการเป๋สุด ๆ ไงละค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของดีแตก DTAC พยายามยกตัวขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่ายอดเดิมครั้งก่อนที่ทำไว้นั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการดันหุ้นออกของมากกว่าปัจจัยพื้นฐานหนุน เพราะเมื่อเหลือบดูผลงานย้อนหลัง 2 ปีไม่มี growth บวกกับวันนี้หุ้นเทรดบน P/E 102 เท่า ย่อมทำให้เดี๊ยนต้องโบกมือลาก่อนใครเพื่อน แถมวานนี้หุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 46.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 422 ล้านบาท มันควรถอยไหมเอ่ย ?

*อีกรายที่น่าห่วงสุด ๆ “โมนิก้า” คงต้องย้อนกลับไปดู PTG เพื่อทำให้รู้ว่า เมื่อพื้นฐานไม่หนุน บรรยากาศไม่เอื้อ พวกแฟนคลับก็ทิ้งหุ้นไม่เลี้ยงเหมือนกัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมากองอยู่ที่ 10 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 415 ล้านบาทแบบง่ายดาย วันนี้ถึงเป็นไฟต์บังคับหุ้นต้องเด้งเพื่อรักษาทรงหุ้นไม่ให้เป๋หนักไปกว่านี้นะนายจ๋า !

*ส่วนรายที่ ไปไม่กลับ..หลับไม่ตื่น..ฟื้นไม่มี อย่างหุ้น ORI ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให้รู้ว่า เมื่อมองไม่เห็นทิศทางการเติบโตของบริษัท บวกกับมีหุ้นใหม่เข้ามาเป็นตัวหารผลกำไรต่อหุ้นมากขึ้น ทุกคนเลยมองราคาหุ้นต่ำกว่านี้จะมีให้เห็นอีกแน่นอน วานนี้ถึงเป็นอีกครั้งที่หุ้นลงมากองอยู่ที่พื้นแถวบริเวณ 8.85 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 5.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 297 ล้านบาทไงละค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่กำลังอยู่ในช่วงถดถอยขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ KCE เป็นรายถัดไปในทันที เพราะทันทีที่ประกาศงบไตรมาส 3 กำไรลดลง 8% ขณะที่งวด 9 เดือนลดลง 16% ก็โดนเทขายแบบไม่ต้องคิดอะไรกันเลย หุ้นเลยไหลลงมาปิดที่ 35.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 185 ล้านบาท เดี๊ยนฟันธงทันทีว่า รอบนี้ได้เห็น 30 บาทแน่นอนเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เล่นเต็มเหนี่ยว พร้อมกับโปรยยาหอมให้กับแฟนคลับตลอดเวลา “โมนิก้า” คงต้องหันมามองหุ้นต่ำบาทฟอร์มร้อนแรงอย่าง EE เพื่อกระตุ้นอารมณ์นักเล่นให้เสียวซ่านสุด ๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยดันหุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวมาแล้ว ต่อจากนั้นปล่อยให้หุ้นร่วงลงแบบไม่มีลิมิต เดี๊ยนถึงอยากให้พวกขาลุยมองการขึ้นมาปิดที่ 0.82 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 28.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108 ล้านบาท มันเป็นการขึ้นสุดซอยแล้วหรือยังจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ BWG ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.26 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่เดาทางง่ายมากเหลือเกิน เพราะเมื่อมองราคาเป้าควรจะเป็นเที่ยวนี้อยู่แถวบริเวณ 1.60 บาท เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนที่ชอบเล่นหุ้นต่ำสองบาทกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง ปัญหามีแค่ผลงานจะซัพพอร์ตการขึ้นเที่ยวนี้มากน้อยเพียงใดนะคะ