คันหลัง..แต่เกาก้น.!?
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 6 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา เห็นชอบยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) จากปกติจัดเก็บ 2,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราวระยะเวลา 2 เดือน (1 ธ.ค. 2561-31 ม.ค. 2562) ให้นักท่องเที่ยว 21 ประเทศ คือ 1)อันดอร์รา 2)บัลแกเรีย 3)ภูฏาน 4)จีน 5)ไซปรัส 5)เอธิโอเปีย 7)ฟิจิ 8)อินเดีย 9)คาซัคสถาน 10)ลัตเวีย 11)ลิทัวเนีย 12)มัลดีฟส์ 13)มอลตา 14)มอริเชียส 15)ปาปัวนิวกิเนีย 16)โรมาเนีย 17)ซานมารีโน 18)ซาอุดีอาระเบีย 19)ไต้หวัน 20)ยูเครน 21)อุซเบกิสสถาน
พลวัตปี 2018 : สุภชัย ปกป้อง
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 6 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา เห็นชอบยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) จากปกติจัดเก็บ 2,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราวระยะเวลา 2 เดือน (1 ธ.ค. 2561-31 ม.ค. 2562) ให้นักท่องเที่ยว 21 ประเทศ คือ 1)อันดอร์รา 2)บัลแกเรีย 3)ภูฏาน 4)จีน 5)ไซปรัส 5)เอธิโอเปีย 7)ฟิจิ 8)อินเดีย 9)คาซัคสถาน 10)ลัตเวีย 11)ลิทัวเนีย 12)มัลดีฟส์ 13)มอลตา 14)มอริเชียส 15)ปาปัวนิวกิเนีย 16)โรมาเนีย 17)ซานมารีโน 18)ซาอุดีอาระเบีย 19)ไต้หวัน 20)ยูเครน 21)อุซเบกิสสถาน
ด้วยความฝันอันหวานฉ่ำว่า เพื่อเป็นการกระตุ้น ส่งเสริมและดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 30%
ช่วงปี 2559-2560 มีมาตรการคล้ายคลึงนี้ออกมาเช่นกัน โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราวีซ่า ณ สถานทูตหรือสถานกงศุลไทย 1,000 บาทต่อคน และลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องอนุญาตของด่านตรวจคนเข้ามาเมือง (Visa on Arrival) จากเดิม 2,000 บาท เป็น 1,000 บาท แก่นักท่องเที่ยว 19 ประเทศ เป็นเวลาชั่วคราว 3 เดือน (1 ธ.ค. 2559-28 ก.พ. 2560) ก่อนต่ออายุเพิ่มอีก 6 เดือน (ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 ส.ค. 2560) และเพิ่มเติมเป็น 21 ประเทศ
แต่ทว่า..เดือน ธ.ค. 2559 นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 1.21% ส่วนเดือน ม.ค. 2560 นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 6.5%
คำถามเกิดขึ้นทันทีว่า..ตัวเลขที่รัฐบาลเคลมว่าจะเพิ่มขึ้น 30% เพ้อฝันหรือฝันเฟื่องเกินไปหรือไม่..!?
ดูจากสถิติข้างต้น..บ่งบอกได้ชัดว่ามาตรการครั้งนี้ “เกาไม่ถูกที่คัน” อีกแล้ว เพราะโดยพฤตินัยของนักท่องเที่ยวค่าธรรมเนียมวีซ่า 2,000 บาทไม่ใช่เงื่อนไขหลักในการตัดสินใจว่า “จะเข้ามาเที่ยวไทยหรือไม่” ยกตัวอย่างง่าย ๆ จากนักท่องเที่ยวจีน (ที่มาเที่ยวมากสุด) ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท ก็แค่ 400 หยวน แค่นั้นเอง..!??
เงื่อนไขหลัก..มันอยู่ตรงที่ว่าจะเข้ามาท่องเที่ยวไทยได้สะดวกแค่ไหนมากกว่า!? นั่นคือ “การยกเลิกวีซ่า” น่าจะเป็น แรงจูงใจนักท่องเที่ยว..ที่ตรงประเด็นและเรียกว่า “เกาถูกที่คัน” มากที่สุด
เห็นได้ชัดจากกรณี “ญี่ปุ่น” ที่กระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยการยกเลิกวีซ่าให้กับหลายประเทศ รวมถึงคนไทยด้วย ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาแล้ว
ส่วน 21 ประเทศ ที่ครม.มีมติยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่านครั้งนี้ เห็นจะมีเพียง “จีน” และ “ไต้หวัน” เท่านั้น ที่ดูจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยมากสุด ส่วนประเทศอื่น ๆ อาจพอมีบ้างแต่ดูจะไม่มีนัยสำคัญมากนัก
สำหรับนักลงทุนในตลาด มติครม.ดังกล่าว อาจเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ถูกหยิบยกมา “เก็งกำไรระยะสั้น” ซะมากกว่า แต่ดูจากกระแสตอบรับเรื่องนี้..ดูจะเป็นเชิงลบมากว่าบวก เพราะไม่ได้มีอะไรใหม่เลย..!!
ที่น่าเป็นห่วงคือ “เกาไม่ถูกที่คัน” ไม่พอ..แต่จะยิ่งทำให้รัฐสูญเสียรายได้แบบเปล่าประโยชน์ไปด้วย…!?